เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก


France ดินแดนแห่งศิลปะ และความโรแมนติก

ทัวร์ยุโรป ประเทศฝรั่งเศสในความรู้สึก ถ้าเกิดว่าคุณยังไม่เคยไปเยือนเมืองแห่งน้ำหอมนี้ สิ่งที่จินตนาการไว้ก็คงไม่พ้น หอไอเฟล มาการอง และของแบรนด์เนม นอกจากนี้จะยังมีอะไรอีกนะ นั่นสิเริ่มนึกไม่ออก มีคนเคยบอกไว้ว่า “ไปฝรั่งเศสกี่ครั้งก็ยังตกหลุมรัก” จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อไปแต่ที่เดิมๆซ้ำๆ มันก็ต้องมีความน่าเบื่อบ้างสิน่า สู้เก็บเงินไปที่ใหม่ๆ ไม่ดีกว่าหรอ ทำไมนะ ทำไม? ฝรั่งเศส…มีอะไรดี

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ไอเฟล

ใครๆก็ไปกัน…ในเมื่อมาถึงปารีสไม่เจอไอเฟลก็เหมือนมาไม่ถึง จะมาให้ถึงปารีสก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์กซักหน่อยจริงไหม

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

ซ็องเซลีเซ่

ถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก เป็นย่านดังที่ถือได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดของกรุงปารีส ถนนเส้นนี้ทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตรไปจนถึงประตูชัย(Arc de Triomphe) 2 ข้างทางประดับประดาไปด้วยต้นเกาลัดที่ถูกตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม พร้อมกับเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม และร้านกาเแฟสุดเก๋..

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

ลุฟวร์

พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก งานศิลปะที่แสนล้ำค่าต่างถูกเก็บไว้ที่นี่ เช่น ภาพวาดสีน้ำมันโมนาลิซ่าของศิลปินชื่อก้องโลกลีโอนาโด ดาวินชี รวมถึงภาพคุ้นตาของพีระมิดแก้วที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะชั้นเอกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของลุฟวร์

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
นอเธอร์ดาม

แค่ชื่อก็ดึงดูดแล้ว..โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่เกาะกลางแม่น้ำแซน เป็นโบสถ์เก่าแก่มีอายุกว่า 850 ปี สัญลักษณ์ของโบสถ์แห่งนี้ถูกนำไปใช้กับอีกหลายแห่งทั่วโลก เช่น โบสถ์นอเธอร์ดามของเวียดนาม

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

เอสคาโก้

เมนูเรียกน้ำย่อยสุดหรูนี้ เป็นเมนูยอดฮิตสำหรับชาวฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นร้านไหนๆของฝรั่งเศส มักจะต้องถูกเสิร์ฟไว้บนโต๊ะ เมนูนี้คือหอยเอสคาโก้อบชีส เนย กระเทียม พริกไทย เจ้าหอยเอสคาโก้นี้อุดมไปด้วยสารอาหารทั้งแคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม และวิตามินซี แต่เอ๊ะ…อีกชื่อหนึ่งของเจ้าหอยนี้คือ หอยทากนะคะ เกือบลืมบอกไป

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
มงต์แซงมิเชล

มหาวิหารกลางทะเลแห่งนี้มีอยู่จริงๆ ไม่ใช่ภาพวาดนะ ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านบนสุดจะเป็นส่วนของมหาวิหารส่วนบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรมไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว บนเกาะเล็กแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่จริง

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
เปอติด ฟรองซ์

หมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศเหมือนบ้านในนิทานที่เคยอ่านสมัยเป็นเด็กเลยค่ะลักษณะบ้านสไตล์เยอรมันซุกตัวอยู่ตามซอกซอยเล็กๆ เป็นมุมสงบเหมาะแก่การพักผ่อนในเมืองอันแสนสงบเล็กๆ นี้

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
เครป

ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเครปนี้จะเป็นเมนูยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส โดยจะมีทั้งแบบคาวและหวาน แบบคาวมักจะเป็นเมนูในอาหารจานหลัก มีหลากหลายรสให้เลือกเมื่อไปถึงฝรั่งเศสแล้วควรลองกันดูนะ ว่าต่างจากเครปของไทยกันรึเปล่า…

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

เมืองลียง

เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่ดูลึกลับและน่าเดินเล่นชมเมือง ทั่วทั้งเมืองมีร้านค้าเล็กๆแทรกตัวอยู่ตามซอกซอยให้อารมณ์เหมือนเมืองลับในหนังไม่มีผิด

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ลานน้ำพุมิฮัว โดว

แห่งเมืองบอกโดนี้ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสบุกซ์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ก็เพราะบ้านเรือนที่นี่ดูแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิก ไฮไลท์น้ำพุนี้คือสร้างด้วยหินแกรนิตสีดำประกอบกับเมื่อน้ำพุไหลนองบนพื้นจะสะท้อนเงาสวยงามแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง…

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
มาการอง

ฝรั่งเศสขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันของอาหารการกิน ใส่ใจทุกรายละเอียด เรียกได้ว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งทีเดียว มาการองก็เช่นกัน แท้จริงแล้วคนฝรั่งเศสเรียกมาการองว่า “มากาฮอง” ซึ่งเป็นขนมหวานสีสันสวยสดชิ้นเล็กๆ น้อยๆ กรุบกริบ นิยมทานคู่กับชา และกาแฟ โดยร้านชื่อมีชื่อเสียงที่สุดคือร้าน “ลาดูเร่”

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
Abbaye Notre Dame de Senanque

เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของโพรวองซ์เลยที่เดียว ภาพติดตาที่เป็นรูปโบสถ์เล็กๆ ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่เป็นฤดูกาลเบ่งบานของดอกลาเวนเดอร์ผู้คนต่างพากันแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเมืองแสนสงบนี้อย่างไม่ขาดสาย

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ไข่เจียวปูลาร์ด

อีกหนึ่งเมนูอาหารที่จะมานำเสนอ นั่นก็เพราะได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่เจียวที่อร่อยและแพงที่สุด เมนูชนิดนี้เป็นอาหารพื้นเมืองสามารถหาทานได้เมื่อคุณไปเยือนบริเวณมงต์แซงมิเซล

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
อาร์ลอารีน่า

ไม่ใช่เพียงแต่กรุงโรมของอิตาลีเท่านั้นที่มีสนามกีฬาโบราณตั้งอยู่ใจกลางเมือง ฝรั่งเศสก็มีเช่นเดียวกัน สนามกีฬากลางแจ้งแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นกลางเมืองอาร์ลปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ในการแข่งขันเทศกาลต่อสู้วัวกระทิงประจำปี

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ปราสาทช็องบอร์ด

ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำลัวร์อยู่ทางตอนกลางของฝรั่งเศสพื้นที่ส่วนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนร้อยปราสาท ซึ่งปราสาทที่อลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดคือปราสาทช็องบอร์ดแห่งนี้

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ฟัวกรา

อาหารเรียกน้ำย่อยชั้นสูงของฝรั่งเศส ตามที่ทราบกันดีว่ามาจากตับห่านหรือเป็ด เป็นเมนูที่นิยมกันมากในฝรั่งเศส เนื้อที่ละเอียดเนียนนุ่มลิ้นนี้มีขั้นตอนการผลิตที่ค่อนข้างดุดัน เพราะมีการบังคับให้เป็ดหรือห่านกินมากกว่าปกติเพื่อให้ตับมีขนาดใหญ่

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก

ชาโตว์ เดอ เชอนองโช

จะพูดถึงปราสาทเชอนองโซแห่งนี้ ชาวฝรั่งเศสจะรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นปราสาทยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปเยือน ตัวปราสาทตั้งคร่อมอยู่กลางแม่น้ำเชอ และแน่นอนว่านั่นทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเชอ อันสวยงาม

เที่ยวยุโรป France ดินแดนแห่งศิลปะและความโรแมนติก
ครัวซอง

แค่ฟังชื่อก็รู้แล้วว่ามาจากไหน ก็ชื่อออกจะฝรั่งเศสจ๋าซะขนาดนี้ คนฝรั่งเศสเองนิยมทานมื้อเช้าแบบง่ายๆไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง ทาแยมหรือเนย ครัวซอง เสิร์ฟพร้อมกาแฟหรือช็อคโกแลตร้อนๆ แค่นี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นของการทำกิจกรรมต่างๆของชาวฝรั่งเศสในแต่ละวัน

ติดตามดูโปรแกรมทัวร์ยุโรป >> https://siamorchardgroup.com/ทัวร์ยุโรป

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล


ENGLAND กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

อังกฤษ เป็นดินแดนที่ทุกคนใฝ่ฝันว่าต้องไปเยือนทัวร์ยุโรปให้ได้สักครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นเมืองผู้ดีที่มีเสน่ห์แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังติดอันดับโลกอยู่มากมายที่มีความโดดเด่น และสวยงามแฝงไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ให้น่าติดตาม ไม่ว่าจะลองจินตนาการไปที่ไหนๆ..ก็ชวนให้หลงใหลไปกับเมืองแห่งนี้เสมอ ลองดูสิคะ..แล้วจะรู้ว่าอังกฤษเป็นเมืองหนึ่งที่ไม่เคยทำให้ผู้ไปเยือนได้ผิดหวัง

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

หอนาฬิกาบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์

อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองผู้ดีแห่งนี้ อาคารสไตล์กอธิคที่ดูน่าเกรงขาม สวยเด่น เป็นสง่า เดิมเป็นที่พำนักของกษัตริย์ชาวอังกฤษมาตั้งแต่เมื่อ 900 ปีก่อน และต่อมาก็ได้เปลี่ยนเป็นอาคารรัฐสภาจนถึงปัจจุบัน สร้างบนพื้นที่ถึง 8 เอเคอร์ริมแม่น้ำเทมส์ มีห้องกว่า 1,000 ห้องและหอคอยหลักๆ 3 หอคอยด้วยกัน

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

OLD TRAFFORD สนามฟุตบอลชื่อดังแห่งแมนเชสเตอร์

ได้รับการขนานนามว่าเป็น Theatre of Dream หรือโรงละครแห่งความฝัน ซึ่งเป็นชื่อเล่นของสนามแห่งนี้ที่นำพาฝันของเหล่าแฟนๆให้เป็นจริง ซึ่งเป็นสนามเหย้าของ “ทีมปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และมีประวัติคู่เคียงกันมาถึงร้อยปีเศษ ทีมปีศาจแดงเมื่อมาเยือนต้องห้ามพลาดสนามแห่งนี้

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

เบอร์ตันออนเดอะวอเตอร์

หมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบและน่าอยู่ บ้านทุกหลังถูกสร้างด้วยหินปูนสีเหลือง หน้าต่างและประตูถูกตกแต่งไปด้วยสไตล์ Cotswolds ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ทั่วทั้งหมู่บ้าน มีแม่น้ำ Windrush ที่ใสสะอาดไหลผ่านกลางหมู่บ้านมีสะพานน่ารักๆ เชื่อมต่อทั้งสองฝั่ง จึงได้รับการขนานนามว่า “Little of venice” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดในอังกฤษที่ใครๆ ก็อยากไปเยือน

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

โรงอาบน้ำชาวโรมันสมัยก่อน

โรงอาบน้ำในยุคโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ด้วยอาคารขนาดใหญ่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติในอุณหภูมิประมาณ 46 องศา รวมทั้งกับสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งทั้งเสาหิน อาคาร และบ่อน้ำธรรมชาติ หากได้มาเยือนเมืองนี้แล้วไม่ได้มาที่นี่ อาจพลาดประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้เลยก็ว่าได้

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

TOWER BRIDGE สัญลักษณ์กรุงลอนดอน

สะพานที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ที่ติดอันดับความสวยงามของโลกซึ่งเป็นทั้งสะพานยกและสะพานแขวนที่มีหอคอยคู่ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางแม่น้ำเทมส์

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

YORK มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

มหาวิหารแห่งนี้ใช้ระยะเวลาสร้างถึง 250 ปี มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะ คลาสสิกนอร์มันแซกซัน และอังกฤษ ที่มีความสวยงามทั้งภายในและภายนอก ภายในวิหารมีทั้งภาพวาดประดับกระจกที่มีความปราณีตและสวยงามไม่แพ้ที่ใดในยุโรป รวมทั้งยังมีรูปหินแกะสลัก รูปปั้น หลุมฝังศพของบาทหลวงนักบุญที่มีชื่อเสียงอีกนับไม่ถ้วน

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

BRITISH MUSEUM พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

พิพิธภัณฑ์นี้เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโลกผ่านทางวัตถุโบราณอารยธรรมต่างๆ ของมนุษยชาติไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกมัมมี่ของชาวอียิปต์โบราณ รูปปั้นของเทพเจ้ากรีกทั้ง 12 องค์จากขุนเขาโอลิมปัส ศิลปะวัตถุจากตะวันออกไกล ไปจนถึงสมบัติอันล้ำค่าจากยุคมืดในยุโรปนับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าที่รวบรวมของล้ำค่าหายากนับไม่ถ้วนให้ชมกันอย่างเต็มที่

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

STONEHENGE กลุ่มหินมหัศจรรย์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจากยุคหินใหม่ที่มีชื่อเสียง อายุราว 5,000 ปี เริ่มแรกเป็นเพียงกำแพงดินวงกลม และใช้เป็นสุสานฝังศพ ส่วนแท่งหิน 112 ก้อน ตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง กลางกำแพงดิน และวางเรียงในลักษณะที่แตกต่างกัน เชื่อกันว่าเป็นวิหารโบราณของมนุษย์ยุคหินที่ตั้งเรียงหินให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของดวงอาทิตย์ แต่มนุษย์ยุคหินนั้นจะมีความสามารถขนหินหนักขนาดนี้มาในระยะทางไกลๆ แถมยังยกขึ้นมาเรียงซ้อนกันได้อย่างไร ยังเป็นปริศนาที่ไม่มีคำตอบอยู่

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

LONDON EYE ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป

หรือที่รู้จักในชื่อ Millennium Wheel ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่เคยสูงที่สุดในโลกถึง 135 เมตร เมื่อปี 2000-2006 หนึ่งในแลนด์มาร์คของมหาลอนดอนตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นริมแน่น้ำเทมส์ และยังสามารถทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงลอนดอนด้วยกระเช้าจำนวน 32 กระเช้า ที่ความใหญ่โตนั้นสามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 25 คน/1กระเช้า ซึ่งใช้เวลาหมุนต่อรอบถึง 30 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เพียงพอต่อการดื่มด่ำซึมซับบรรยากาศบนท้องฟ้าเหนือกรุงลอนดอนได้อย่างเพียงพอ

ทัวร์ยุโรป England กับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล

OXFORD มหาวิทยาลัยชื่อดังของโลก

ได้รับชื่อเสียงเรียงนามว่าเป็น เมืองแห่งการศึกษา ถือว่าเป็นแหล่งผลิตบัณฑิตย์หลากหลายสาขาที่มีคุณภาพที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่จึงประกอบไปด้วยสถานศึกษาที่มีเสียงมากมายอยู่ทั่วทั้งเมือง อาคารอายุเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่กว่า 900 หลัง รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ

ติดตามดูโปรแกรมทัวร์ยุโรป >> https://siamorchardgroup.com/ทัวร์ยุโรป

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง นั่นสิคะการเที่ยวกับทัวร์ทำให้เสรีภาพในการท่องเที่ยวของเราหมดไปจริงรึเปล่า แต่ก็นั่นแหละค่ะ การเที่ยวกับทัวร์ก็ต้องมีข้อดีอยู่ทำให้คนไทยจึงนิยมเที่ยวกับทัวร์เพราะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก…นอกจากเตรียมเที่ยวอย่างเดียวเลยค่ะ

บทความ เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

ทำให้การเที่ยวสมัยนี้ง่ายขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องออกนอกบ้านสามารถหาข้อมูลของบริษัททัวร์จากทางหน้าอินเตอร์เนตได้เลยแต่ต้องอาศัยสกิลการค้นข้อมูลและเปรียบเทียบบริษัทกันหน่อยเนื่องจากว่าสมัยนี้บริษัททัวร์มีเยอะแยะมากมายหลากหลายมาตราฐานค่ะให้เลือกตามความถูกใจกันเลยอยากได้แบบไหนก็คลิ๊กจองง่ายๆได้เลยค่ะ

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

ไม่ต้องวางแผน จองปุ๊บ ลุยปั๊บ !!

ขั้นตอนมันจะยากแค่ตอนหาข้อมูลของบริษัทค่ะหลังจากได้บริษัทที่ถูกใจน่าเชื่อถือแล้วหลังจากนั้นก็สบายแล้ววค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย ปล่อยให้บริษัททัวร์เค้าจัดการกันไปค่ะ

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

จ่ายทีเดียวคุ้มงบไม่บานปลาย

เคยได้ยินคำนี้ไหมคะที่ว่า..”สูญเสียกันไปเท่าไหร่กับทริปนี้หมดไม่เยอะ” เป็นเรื่องจริงนะคะ เพราะการจะเที่ยวเองย่อมมีความเสี่ยงเสมอ และที่จะตามมาคืองบบานปลาย อาจจะเสียค่าใช้จ่ายจุกๆจิกๆ เผลอๆกลับมาต้องมานั่งจ่ายค่าบัตรเครดิตตามหลังอีก นับรวมๆแล้วอาจจะแพงกว่าที่คิดไว้แต่แรกซะอีกค่ะ…

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

มีไกด์แนะนำไม่ต้องกลัวหลง

หลงทาง..น่าจะเป็นเรื่องปกติของการท่องเที่ยว จะแปลกอะไรเพราะถ้าเราเรียกว่า “อรรถรส” ของการท่องเที่ยว แต่มันจะแย่นะคะถ้าหลงจนเสียเวลาเที่ยว อะไรที่คิดอะไรที่หวังไว้ไม่ได้ดั่งใจเพราะมัวแต่หลงทางเนี้ย บางทีก็ไม่คุ้มนะคะ เพราะเราไม่ได้มีเวลาว่างเพื่อที่จะไปหลงบ่อยๆจริงไหมคะ อย่างน้อยๆไปกับทัวร์มีแผนที่ชัดเจน มีการเตรียมความพร้อมจากไกด์คอยย้ำเรื่องการเดินทางจุ ดสังเกต สัญลักษณ์ เทคนิคกาารจดจำทาง โอ๊ยแค่นี้ก็สบายแล้วค่ะ

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

หมดปัญหาเรื่องเวลา บริษัททัวร์กำหนดไว้ชัดเจน

แน่นอนค่ะการท่องโลกว้างสิ่งที่สำคัญเป็นเรื่องความต่างของเวลานี่แหละค่ะ เช่น ตั้งใจอย่างไปเที่ยวแต่ดันพระอาทิตย์ตกเร็วอีก หรือบางทีไม่ได้วางแผนเที่ยวไว้บางที่สี่ทุ่มยังไม่มืดเลยนอนก็นอนไม่ได้เอาไงล่ะทีนี้..^^แถมยิ่งเรื่องฤดูกาลนี่แหละสำคัญถ้าไปให้ถูกที่ถูกเวลาอาจจคุ้มค่ากับการเดินทางครั้งนี้มากกว่าจริงไหมคะ ก็เแต่ละทริปของเราบางทีเก็บเงินทั้งปีเลยกว่าจะได้ไป ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว พึ่งทัวร์ดีกว่า

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

ได้ความรู้ในแต่ละที่ที่เราไป

ไปกับทัวร์สิ่งที่เราต้องมีได้กลับมาบ้าง นั่นก็คือเกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเที่ยวเองจะไม่ได้ความรู้นะคะเผลอๆการที่เราเที่ยวเองและได้ความรู้ใหม่ๆมาจากคนในพื้นที่เนี้ยชัวร์ที่สุดค่ะ ถ้าตัดปัญหาเรื่องการสื่อสารออกไปนะคะ..^_^ “ก็เราท่องโลกนี่คะเราต้องต้องเรียนรู้โลกบ้างจริงไหมคะ…”

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

หมดกังวลเรื่องการสื่อสาร เพราะมีไกด์คอยดูแล

ต่อให้จะไปไหนก็ไม่กลัว เพราะเรามีไกด์ ไม่ต้องมานั่งวุ่นวายเรื่องการสื่อสารจะเอาอะไร จะกินอะไร จะไปไหน ไกด์เท่านั้นที่ช่วยเราได้ ^^

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

ไม่พลาดที่ที่ยวสุดฮิต

บางทีการที่เราท่องโลกเราไม่รู้หรอกว่าที่ไหนเค้าฮิตกัน (ประมานว่าไม่รู้จักชื่อสถานที่อะค่ะ) แค่อยากไปไม่ต้องสนใจค่ะให้ทัวร์ได้ทำหน้าที่นี้ไป…ทัวร์นี่แหละค่ะที่จะสามารถทำให้ฝันเราเป็นจริง^^ ประมาณว่าอยากไปที่แบบเสาสีแดงๆเยอะๆอะคะ ทัวร์เค้าก็จะพอเอาภาพจินตนาการลางๆเหล่านี้มาทำให้เป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าเสาสีแดงๆเยอะๆนั้นคือที่ไหน หรือแม้แต่อยากไปที่ปราสาทสวยๆ มีสะพานแดงๆอ่าค่ะ จะไปถ่ายรูปสวยๆฮิปๆ…เอะที่ไหนหนอ อันนี้ก็ทัวร์ช่วยได้เช่นกันค่ะ

เที่ยวกับทัวร์ดียังไง

ได้เพื่อนใหม่ในกรุ๊ปทัวร์

อันนี้สำคัญเนื่องจากว่าขณะเราท่องโลก เมื่อเราเลือกการท่องเที่ยวแบบเดียวกันนั่นหมายความว่าความชอบอย่างน้อยๆของเราต้องมีตรงกันบ้าง ฉะนั้นมักจะคุยกันรู้เรื่องเป็นธรรมดาค่ะ นี่ก็เป็นอีกส่วนที่จะทำให้ทริปนั้นๆของเราไม่เหงา เผลอๆกลับมาจากทริปนั้นแล้วยังมีการสานต่อความสัมพันธ์ในการท่องเที่ยวครั้งต่อๆไปด้วย..

 

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไป..ญี่ปุ่น

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

บทความ ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไป..ญี่ปุ่น

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไป…ญี่ปุ่น

เมื่อไปถึงแดนปลาดิบแล้วสิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือลองเมนูจากต้นตำหรับ แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องร้านไหน…❗ เอะ นั่นสิ วันนี้จะมีร้านดังที่ควรแวะเข้าไปลองหน่อยว่า มันดียังไงค่ะ ไปลุยกันเลย

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

อันดับ 1 Rokkasen / โระคะเซง

มีเพียงสาขาเดียวเท่านั้นคือที่ Shinjuku Tokyo ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าจองไม่ง่ายและราคาจะค่อนข้างสูง หากใครแวะเวียนไปที่โตเกียวแล้วคิดว่าจะไปลอง ต้องใช้ความพยายามกันหน่อยนะคะ แนะนำว่าต้องจองล่วงหน่าเท่านั้นค่ะ ร้านนี้จะมีชื่อเสียงสำหรับชาวไทย เนื่องจากว่าคนไทยนิยมไปทานกันค่ะ จนกระทั่งว่ามีเวปไซต์เป็นภาษาไทยเลยนะคะ

ชื่อร้าน : Rokkasen / โระคะเซง
สถานที่ : Shinjuku / Tokyo
สไตล์ร้าน : ร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

อันดับ 2 Nanda Seafood Buffet / ร้านนันดะ

ยกให้เป็นอันดับที่สองค่ะ แต่ว่าร้านนี้ขอบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในร้านดังของซัปโปโร นั่นก็เพราะเหตุผลคือความหลากหลายของเมนู อลังการมาก จองยากมาก และมีสาขาเดียวเช่นกันคือที่ซัปโปโรค่ะ

ชื่อร้าน : Nanda Seafood Buffet / ร้านนันดะ
สถานที่ : Sapporo / Hokkaido
สไตล์ร้าน : ร้านปิ้งย่างซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

อันดับ 3 Hapuna Luxe Dinning / ห้องอาหารฮาปูน่า

ห้องอาหารสุดหรูกับหลากหลายเมนู รวมถึงไม่พ้นขาปูยักษ์ของโปรดคนไทย แห่งเกาะญี่ปุ่น สำหรับร้านนี้ก็แนะนำให้จองล่วงหน้าเช่นเดียวกันค่ะ เนื่องจากเมนูจะอลังการและเยอะมาก ดังนั้นแอดมินแอบแนะนำให้ลองทานเนื้อย่างก่อนนะคะ อันนี้เด็ดค่ะ หรือถ้าท่านไหนไม่ทานเนื้อแอดก็ขอแนะนำของหวานค่ะ เยอะมากเช่นเดียวกันค่ะ^^

ชื่อร้าน : Hapuna Luxe
สถานที่ : Shinagawa Prince Hotel / Tokyo
สไตล์ร้าน : ร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติ

ร้านเด็ดที่ต้องเช็คอินเมื่อไปญี่ปุ่น

อันดับ 4 Nabezo / นาเบะโซ

บุฟเฟ่ต์ชาบูที่ร้านนี้ถือว่าดีหน่อยเนื่องจากว่ามีหลากหลายสาขาให้เลือก หากอยากจะไปลองทานเมนูชาบูชาบูแบบต้นตำหรับแล้วล่ะก็แนะนำร้านนี้เลยค่ะ

ชื่อร้าน : Nabezo
สถานที่ : Tokyo / Saitama / Kanagawa
สไตล์ร้าน : ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู

ไปทำไม..คิวชู

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
บทความ ไปทำไม..คิวชู

ไปทำไม…คิวชู

เป็นเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยภูเขาไฟและบ่อน้ำพุร้อน อากาศที่นี่จะอบอุ่นตลอดทั้งปี รวมถึงเป็นที่ตั้งของเมืองฟุกุโอกะที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาแล้ว นั่นก็เพราะแม้จะเป็นเมืองที่ใหญ่แต่ยังมีความสโลว์ไลฟ์ ไม่เร่งรีบเหมือนโอซาก้าหรือโตเกียวหากถามว่าไปทำไม..คิวชูก็จะตอบว่าไปให้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเป็นยังไง

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

เที่ยวน้ำแร่ และบ่อโคลนเดือด จิโกกุ เมกุริ

แห่งเมืองเบปปุที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อนและแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วเมืองชนิดที่เรียกได้ว่าแค่นั่งรถผ่านก็สามารถเห็นควันพุ่งออกมาจากบ้านเรือนได้อย่างชัดเจน รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนแปลกตา เช่นบ่อโคลนเดือด บ่อสีเลือด และบ่อทะเลเดือด ซึ่งการที่เมืองแห่งนี้มีบ่อน้ำพุร้อนมากมายขนาดนี้ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถลงไปแช่ได้ทุกบ่อนะคะ เนื่องจากว่าบางบ่ออุณหภูมิจะร้อนเกินไปค่ะ ลงไปมีหวังสุกทั้งตัวค่ะ

เนื่องด้วยบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่นี่จะมีจำนวนเยอะมากๆดังนั้นต้องเลือกนะคะว่าจะชมบ่อไหนเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ไม่พลาดกับบ่อที่เป็นไฮไลท์ค่ะ เช่น บ่อสีเลือด บ่อทะเลเดือด บ่อน้ำพุนรก บ่อนรกสีขาว บ่อนรกกะทะทองแดง

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

อร่อยกับร้านอาหารข้างทาง ยาไต

เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของฟุกุโอกะไปแล้วก็ว่าได้ โดยมีเป็นเกือบร้อยร้านค้าหลากหลายร้านให้เลือกตามใจชอบค่ะ ว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น ซูชิ โซบะ อุด้ง และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนคือราเมงค่ะ ส่วนใหญ่ร้านจะเปิดช่วงเย็นประมาณหกโมงจนถึงประมาณตีสอง

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ไปร้านสตาร์บัคสาขาดาไชฟุ

ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในร้านสตาร์คที่สวยที่สุด จากรูปคงอธิบายได้หมดเลยใช่ไหมคะว่าสวยยังไง ดูอลังการมากค่ะ อันที่จริงร้านนี้ไม่ได้ใหญ่โตเลยนะคะ เป็นร้านเล็กๆที่อยู่บริเวณทางขึ้นไปยังศาจเจ้าดาไชฟุค่ะ และเนื่องจากว่าเป็นร้านเล็กๆนี่แหละค่ะ ดังนั้นเมื่อไปถึงถนนเส้นที่จะไปยังศาลเจ้าดาไชฟุให้ลองมองหาดีๆนะคะ อีกอย่างถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านค้าน่ารักๆมากมายบางทีอาจเพลินจนลืมมองหาร้านสตาร์บัคร้านนี้เลยก็ว่าได้

เนื่องจากว่าร้านจะอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวดังนั้นคนจะค่อนข้างเยอะ (ทั้งคนที่เข้ามาถ่ายรูปและคนที่เข้ามาซื้อค่ะ) ต้องอาศัยความใจเย็นหน่อยนะคะ

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ยูฟูอิน หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์

เมืองเล็กๆ บ้านหลังน้อยๆ ที่จะทำให้คุณหลงรัก เต็มไปด้วยร้านค้าที่ไม่ซ้ำกันยาวสุดสายตาเลยค่ะ ใครมีแรงเดินก็เดินกันไปค่ะ ทุกร้านนี่คือสามารถดูดเงินออกจากระเป๋าเราอย่างง่ายดายเลยนะคะ

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ช้อปปิ้งย่านเทนจิน แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของคิวชู

ไปถึงคิวชูทั้งที อย่างน้อยๆก็ต้องมีแวะช้อปปิ้งก่อนกลับจริงไหมคะ แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของคิวชูก็คือย่านเทนจินแห่งฟุกุโอกะค่ะ คือย่านนี้จะเป็นถนนเส้นช้อปปิ้งทั้งเส้นเลยค่ะ และที่สำคัญไม่ได้มีแค่บนดินนะคะ ใต้ดินก็ยังมีค่ะ

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

เที่ยวเฮ้าส์เทนบอช สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์

รีสอร์ทชื่อดังลิตเติ้ลยุโรปของเอเชีย การตกแต่งเมือนยกเนเธอร์แลนด์มาตั้งไว้ที่เกาะคิวชูแห่งนี้ ที่นี่ไม่ได้มีแค่สวนสนุกยังมีโรงแรม ร้านอาหาร และอีกหนึ่งจุดยอดนิยมคือสวนดอกไม้สไตล์เนเธอร์แลนด์ที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของที่นี่ค่ะ

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

สัมผัสความโรแมนติกของธรรมชาติที่ หุบเขาทาคาชิโฮะ

เป็นการท่องเที่ยวแบบสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริงค่ะ และหากได้ลองนั่งเรือชมหุบเข้านี้อย่างใกล้ชิดแล้วล่ะก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

อาบทรายร้อน เมืองเปบปุ

หากมาเยือนคิวชูแล้วไม่ได้อาบทรายร้อนก็คงเหมือนมาไม่ถึงนั่นก็เพราะที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ รวมถึงการที่น้ำพุร้อนใต้ดินที่ดันตัวขึ้นมาทำให้ทรายบริเวณเมืองเบปปุร้อนขึ้นมาด้วยภูมิปัญญาโบราณจึงมีการนำทรายร้อนนี้มาอบตัวเพื่อการรักษาโรคนำของเสียออกจากร่างกาย รักษาโรคผิวหนัง ไขข้ออักเสบ เลือดลมหมุนเวียนดี

คิวชูเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

**ขั้นตอนง่ายๆของการอาบทรายร้อน**

อันที่จริงเรียกว่าอบทรายร้อนก็ได้นะคะ วิธีคืออย่างแรกเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะ ซึ่งภายในมีแค่กางเกงในกระดาษค่ะ จากนั้นลงไปในหลุมที่ขุดไว้แล้วใช้ทรายกลบ รอประมาณ10-15 นาทีค่อยลุก อุณหูมิของทรายจะร้อนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความลึกของหลุมค่ะสามารถบอกเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เมืออบทรายร้อนเสร็จตามด้วยการอาบน้ำพร้อมที่จะลงไปแช่ยังบ่อน้ำแร่อีกครั้ง ที่ต้องแช่บ่อน้ำแร่อีกเนื่องจากว่าในช่วงเวลานี้ร่างกายกำลังอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการแช่ค่ะ แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย สบายตัวกันเลยที่เดียวค่ะ

การอาบทรายร้อนไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง คนท้อง และคนที่เป็นโรคหัวใจค่ะ เนื่องจากว่าอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ

ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น อย่างไรให้คุ้มค่า

คุณสามารถท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้ทั้งปี ซึ่งทัวร์ญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นมีแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นให้คุณเลือกหลากหลายแบบ คุณก็คงอยากเลือกเที่ยวแบบที่ประหยัดและคุ้มค่าที่สุดใช่ไหม แต่คุณจะมีวิธีเลือกแบบไหนให้ทริปการเดินทางไปไปนั้นสนุก น่าทับประทับใจ และที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดค่าการเดินทางคุณให้ได้มากที่สุด วิธีการคือ

คุณต้องกำหนดสถานที่เที่ยวที่อยากไปก่อน คือ คุณควรหาข้อมูล และศึกษาหาสถานที่ท่อง

เที่ยวในช่วงนั้น มีสถานที่เที่ยวที่ไหนบ้างน่าไป มีกิจกรรมที่ไหนบ้างน่าสนใจ เช่น ที่ที่คุณอยากไปไปนั้นเหมาะกับสภาพอากาศในช่วงนั้นหรือไม่ มีเทศกาลอะไรจัดขึ้นบ้างในช่วงนั้น เป็นต้น

หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุด เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ถ้าเป็นช่วงวันหยุดในช่วง

เทศกาลคุณไม่ต้องคิดเลยว่านักท่องเที่ยวจะเยอะหรือไม่ เพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะแห่มาเที่ยวกันมากเลยทีเดียว คุณอาจจะเลือกเดินทางในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม แทน เพราะเป็นช่วง Low season ของประเทศญี่ปุ่น ราคาทัวร์ญี่ปุ่นจะถูกและประหยัดมากไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินโดยสารหรือแพ็กเกจเดินทางท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ลดราคาลงกว่าปกติมีให้คุณเลือกซื้อเลือกหากัน

เลือกประเภทแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นให้ด้วยงบที่จำกัด ให้คุ้มค่าคุ้มบริการที่สุด มีทัวร์ให้เลือก ทั้งหมด 3 Class คือ

1.ทัวร์ญี่ปุ่นราคาประหยัด ( Low cost) ส่วนใหญจะได้วันฟรี แต่ต้องซื้อแพ็กเกจเสริม หากเลือกแพ็กเกจที่ไม่มีราคาสูงแพงเกินไป หรือไม่ยากซื้อทัวร์เสริม คุณก็ควรศึกษาข้อมูลต่างๆในการเที่ยวก่อน และไม่ต้องกังวล เพราะการเดินทางในญี่ปุ่นนั้นง่ายและสะดวก

2.ทัวร์ญี่ปุ่นระดับปานกลาง ( Middle class) มีบริการที่ดีกว่า Low cost ทั้งเรื่องของการเดินทาง โดยสายการบิน ช่วงเวลาตรงในการท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญๆในญี่ปุ่น ทัวร์ก็จะมีโปรแกรมจัดตารางไว้ค่าบริการ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณสามารถเลือกแพ็กเกจได้ตามใจชอบได้เลย

3.ทัวร์ญี่ปุ่นระดับสูง หรือ หรูหรา ( High class) ส่วนใหญ่ระดับนี้เน้นเรื่องของการให้บริการ ในเรื่องการให้บริการสะดวกความสบายในด้านของ สายการบินที่ให้บริการครบครัน ไปกับทัวร์ระดับที่มีชื่อเสียง ที่มีบริการในเรื่องคุณภาพการให้บริการ โรงแรมที่พักต่างๆง่ายๆแค่เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง ที่เหลือบริการทัวร์จัดให้สบายๆตลอดทริป

อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เยน ญี่ปุ่น

เมื่อคุณต้องเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณอาจไม่คุ้นกับการใช้เงินเท่าไหร่ ว่าต้องแลกอย่างไร ใช้เงินเท่าไร่ จ่ายเงินอย่างไร เรามีเทคนิค และวิธีการสังเกตเงิน แถมด้วยวิธีการแปลงเงินเยนเป็นบาทง่ายๆ พร้อมอัตราการแลกเปลี่ยนเงินให้คุณคร่าวๆ ก่อนที่คุณจะเตรีมตัวออกเดินทางไปท่องเที่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่น

สกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น คือ เยน (Yen) ในญี่ปุ่นจะใช้สัญลักษณ์ “¥” ส่วนตัวย่อที่นิยมใช้คือ JPY (Japanese Yen)

ธนบัตรที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้จะเเบ่งออกเป็น “10,000 เยน”, “5,000 เยน”, “2,000 เยน” และ “1,000 เยนเเละเหรียญที่ใช้มีเหรียญ “500 เยน”, “100 เยน”, “50 เยน”, “10 เยน”, “5 เยน” และ “1 เยน” ดังรูปภาพประกอบด้านล่างนี้

อัตราการแลกเปลี่ยนเงินเยนญี่ปุ่น อัตราค่าเงินเยนกับเงินบาท ณ ปัจจุบัน (เดือนพฤษภาคม ปี 2018) อยู่ที่ 100 เยน แลกได้ 29.6 บาท

แลกจากเงินดอลลาร์สหรัฐ=ประมาณ 110 เยน, 1 ดอลลาร์ไต้หวัน = ประมาณ 3.7 เยน, เงินหยวน 1 หยวน=ประมาณ 17 เยน, 100 วอนเกาหลี=ประมาณ 10 เยน

(หมายเหตุ : หากคุณต้องการแลกเงินที่สะดวกรวดเร็ว คุณสามารถแลกเงินได้ที่สถานีรถไฟในกรุงโตเกียว จะมีเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศบริการอยู่ 7 แห่ง และมีตู้ ATM 10 แห่ง)

เทคนิคการสังเกตดู เงินเยน ง่ายๆ มีวิธีสังเกตดังนี้

  1. ธนบัตร 10,000 เยน : ใบใหญ่ที่สุด มีคุณลุงสีเทาด้านหน้า นกด้านหลัง
  2. ธนบัตร 5,000 เยน : ผู้หญิงสีม่วงๆ
  3. ธนบัตร 2,000 เยน : ไม่มีรูปคนชัดๆ ถ้าเจอเก็บไว้เลยนะ!
  4. ธนบัตร 1,000 เยน : ใบเล็กที่สุด รูปผู้ชายมีหนวด สีน้ำเงินๆ
  5. เหรียญ 500 เยน : เหรียญใหญ่ๆ สีทองอ่อน
  6. เหรียญ 100 เยน : สีเงิน มีดอกซากุระ
  7. เหรียญ 50 เยน : สีเงิน มีรู
  8. เหรียญ 10 เยน : สีทองแดง
  9. เหรียญ 5 เยน : สีทอง มีรู
  10. เหรียญ 1 เยน : สีขาวๆ เบาๆ

หากใครมีเครื่องคิดเลขหรือมือถือ ก็สามารถคำนวณแบบแม่นยำมากขึ้นได้โดยการใช้สูตร “ราคาเยน x 0.3”

*ตัวเลข 0.3 มาจากเรทเงิน 100 เยน = 30 บาท ถ้าเรทเงินที่แลกได้อยู่ที่ 100 เยน = 29 บาท ก็สามารถเปลี่ยนเป็น “ราคาเยน x 0.29” ได้

อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน: เยน ญี่ปุ่น (JPY) ถึง เงินบาทไทย (THB)

เช็คเมื่อวันที่ 11/3/2563 นับถอยหลัง 90 วัน อ้างอิงจาก thaibahtconverter.com

แค่เพียงคุณรู้หลักการแลกเงิน และรู้เทคนิคง่ายๆ ในการใช้เงินแล้วหล่ะก็ คุณก็สามารถท่องเที่ยวไปกับทัวร์ญี่ปุ่นได้สบายๆ ไร้กังวลได้เลย

ไม่ว่า ฤดูไหน ใครๆก็อยากไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นกัน

ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีครบทุก 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นประเทศที่ถือว่าสวยงามที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเทืี่ยวที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ที่มีนักท่องเที่ยวชื่นชอบและออกเดินทางท่องเที่ยวไปทัวร์ญี่ปุ่นกันเพิ่มมากขึ้นทุกๆปีซึ่งฤดูกาลที่สามารถท่องเที่ยวได้ในประเทศเทศญี่ปุ่น มีช่วงท่องเที่ยวในฤดูกาล ดังต่อไปนี้

ทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงฤดูหนาว (มีการจัดงานประดับไฟช่วงวันคริสต์มาส-ปีใหม่ / เทศกาลหิมะซัปโปโร ในฮอกไกโด / เที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะในจังหวัดกิฟุ และ เริ่มเล่นสกีทุกที่ในญี่ปุ่น) เริ่มต้นเดือน ธันวาคม – มีนาคม

ทัวร์เที่ยวญี่ปุ่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีให้ชมดอกซากุระ / ดอกพิ้งมอส / ดอกลาเวนเดอร์) เริ่มต้นเดือน เมษายน – กรกฎาคม

ทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงฤดูร้อน (งานเทศกาลดอกไม้ไฟ / เทศกาลนาบาตะ/ เทศกาลโอบ้ง และชมทุ่งดอกไม้หลากสี เช่น ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ หรือปีนภูเขาไฟพูจิ) เริ่มต้นเดือนสิงหาคม – กันยายน

ทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ชมใบไม้ร่วงเปลี่ยนสีหลากสีสันที่เปลี่ยนจากสีเขียวไล่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีแดง) เริ่มต้นเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน

นักท่องเที่ยวสามารถออกเที่ยวได้ทุกช่วงฤดู เลือกตามใจชอบกันได้เลย เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ว่าจะฤดูไหน บรรยากาศ ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยวทุกที่นั้นไม่ว่าคุณจะไปช่วงเวลาไหนก็น่าไปเสียหมดแต่ทว่าคนที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก คุณอาจจะติดขัดในเรืองของการใช้ภาษาการสื่อสารที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ หากคุณพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ คุณควรลองเลือกไปกับทัวร์ญี่ปุ่นก่อนเพราะทางทัวร์ญี่ปุ่นมีบริการนำเที่ยวแพ๊กเกจแบบประหยัดสุดคุ้ม และมีการจัดโปรแกรมเมืองที่น่าสนใจหลายเมืองหลายสถานที่ให้คุณได้เลือกเดินทางไปเที่ยวกัน ยังดีกว่าการที่คุณจะเดินทางไปเที่ยวคนเดียวแล้วคุณพูดสื่อสารไม่ได้อ่านไม่ออก แถมต้องไปเจอกับราคาที่พัก และอาหาร ราคาแพงมากกว่าการเลือกไปกับทัวร์ญี่ปุ่นเสียอีก

 

กระเป๋าเดินทางขนาดเท่าไหร่ขึ้นรถไฟญี่ปุ่นได้

ประเทศที่การคมนาคมสะดวกสบายที่สุดประเทศหนึ่ง คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก เช่น การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยรถไฟ ที่ช่วยลดเวลาในการเดินทางไปไหนมาไหนได้มากเลยทีเดียว

ซึ่งการขนส่งทัวร์ญี่ปุ่นที่มีความรวดเร็วนั้น การขนสัมภาระ เช่นกระเป๋าเดินทางจึงเป็นสิ่งที่นักเดินทางจะต้องนำไปขนรถไฟกันแทบทุกคน ดังนั้นทางประเทศญี่ปุ่น จึงมีกฎข้อบังคับใหม่ขึ้นมาให้เริ่มต้นใช้นับตั้งแต่ เดือน พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป คือ เรื่องการจองที่วางกระเป๋าเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น มีกฎอย่างไรบ้างนั้น ดังนี้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง 1 คน สามารถนำกระเป๋าขึ้นได้ 2 ใบ (น้ำหนักห้ามเกิน 30 กิโลกรัม) มีกฎในการขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ดังนี้

  • ขนาดปกติ (กว้างxยาวxหนา รวมไม่เกิน 160 cm.) สามารถนำขึ้นเก็บไว้บนชั้นวางเหนือศรีษะได้
  • ขนาดใหญ่ (กว้างxยาวxหนา รวมไม่เกิน 160-250 cm.) ต้องจองที่วางอินเทอร์เน็ต หรือเคาน์เตอร์ (ในกรณีไม่ได้จองไว้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1000 เยน)
  • ขนาดใหญ่มาก ( กว้างxยาวxหนา เกิน 250 cm.) ขนาดเกินกำหนด (ห้ามนำขึ้นรถไฟ)

ลำดับขั้นตอนด่านตรวจคนเข้าประเทศยุโรป

ถ้าคุณต้องเดินทางไปท่องเที่ยวทัวร์ยุโรป และก่อนที่คุณจะผ่านเข้าไปยังประเทศนั้นได้ คุณจะต้องผ่านด่านตรวจเข้าเมือง หรือ (ตม.) เสียก่อน วันนี้เราจะมาเรียงลำดับขั้นตอนในการตรวจ (ตม.) ดังนี้

ลำดับที่ 1 : การทำความเข้าใจ (วีธีการตรวจ ตม.) ยุโรป

ด่านตวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในยุโรป ประเทศในกลุ่มเชงเก้นนั้น จะมีลักษณะคล้ายทุกประเทศทั่วโลก ต่างกันเพียงในกลุ่มเชงเก้นจะถือกฏว่าทุกประเทศในกลุ่มเปรียบเสมือนประเทศเดียวกัน และถ้าต้องเดินทางต่อไปประเทศอื่น ก็เปรียบได้กับการเดินทางในประเทศ (Domestic) ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองอีก

ประเทศในยุโรป ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเชงเก้น เช่น สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ รัสเซีย ตุรกี ยูเครน เซอร์เบีย มอนเตเนโกร และโครเอเชีย ต้องผ่าน ตม.ทุกครั้งที่เข้า-ออกประเทศ

ลำดับที่ 2 : การกรอกใบตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Form)

เมื่อเครื่องใกล้ลงสยามบินปลายทาง พนักงานจะนำใบ ตม. มาให้คุณกรอกรายละเอียด เพื่อที่คุณจะได้นำให้เจ้าหน้าที่ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง

ลำดับที่ 3 : ลงเครื่องไปด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

เมื่อลงจากเครื่องแล้วเดินตามป้าย Immigration ไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

ลำดับที่ 4 : เข้าแถวรอด่าน ( ตม.) ตรวจ

ด่านตรวจคนเข้าเมืองยุโรป จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง คือ ผู้ถือสัญชาติในประเทศยุโรป (EU Citizens) และ ถือสัญชาติอื่นๆ (All Passports) ให้คุณเลือกเดินไปที่ช่อง ถือสัญชาติอื่นๆ (All Passports) กรณีที่เดินทางกันมาเป็นกลุ่ม (จำนวนครั้งละไม่เกิน 3-4 คน)

ลำดับที่ 5 : ถึงคิวตรวจคนเข้าเมือง

เมื่อถึงคิวคุณแล้วให้คุณเดินเข้าไปหาเจ้าหน้า ที่พร้อมยื่นเอกสารใบที่กรอกข้อมูลคุณ เจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์ถามข้อมูลของคุณ และถ้าหากคุณน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจหรือขอเรียกดูเอกสารบางอย่าง คุณควรเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็ว

ลำดับที่ 6 : เจ้าหน้าที่ให้ผ่านเข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่จะให้เราสแกนนิ้วมือพร้อมประทับตราลงบนหนังสือเดินทาง จากนั้นให้เดินไปตามป้าย Baggage Reclaim เพื่อรอรับสัมภาระและผ่านด่านศุลกากร ในกรณีต้องเปลี่ยนเครื่องให้เดินตามป้าย Transfer Flights ไปจนถึงประตูทางขึ้นเครื่อง

ลำดับที่ 7 : เดินเข้าด่านศุลกากร

หากไม่มีสิ่งของที่ต้องแสดง ให้ผ่านช่องเขียว หากมีสิ่งของที่ต้องแสดง เช่น เนื้อสัตว์,นม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อ นม ปลา ไข่ น้ำผึ้ง ให้เข้าช่องแดง

ดังนั้น หากคุณนักเดินทางทั้งหลายไม่อยากรอที่จะต้องโดนด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กักตัวอยู่นานๆ ฉะนั้นคุณควรทำการเตรียมตัวให้ดีทุกครั้งก่อนที่คุณจะเดินทางออกไปท่องเที่ยวยุโรปเพื่อความสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลารอตรวจ

เทคนิคดีๆ ถาม-ตอบอย่างไรให้ผ่าน (ตม.) ยุโรป

การเดินทางไปท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปนั้นคุณควรเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการเดินทางให้พร้อมเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง เอกสารส่วนใหญ่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ (ตม.) เรียกตรวจสอบ มีดังนี้

› พาสปอร์ต (จะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันเดินทาง)

› วีซ่า ( สำหรับประเทศที่จะต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ )

› ใบ ตม. หรือใบตรวจคนเข้าเมือง ( Immigration Card )

› ตั๋วเครื่องบิน ทั้งขาไปและขากลับ

› แพลนการเดินทาง

› เอกสารการจองที่พัก

› หนังสือรับรองบริษัท ที่ระบุวันลาพักร้อนที่ตรงกับระยะเวลาที่เราไปและกลับ

› เอกสารสำคัญอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าเรามีเจตนาที่จะมาเที่ยวประเทศนี้จริงๆ เช่น หนังสือท่องเที่ยว คู่มือท่องเที่ยว บัตร Pass ต่างๆ ที่ซื้อล่วงหน้าไม่ได้มาทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายโดยเอกสารทุกอย่างจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ สำหรับใบ ตม. จะต้องกรอกข้อมูลให้ครบ และถูกต้องในแต่ละช่องที่กำหนด โดยกรอกเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้นซึ่งแต่ละประเทศเจ้าหน้าที่ ตม. ก็จะเรียกตรวจเอกสารแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สถานการณ์

เมื่อคุณถูกเจ้าหน้าที่ชักถาม หรือมีคำถามถามคุณ และถ้าหากคุณไม่อยากให้มีอุปสรรคต้องโดนตรวจสอบจาก (ตม.) คุณก็ต้องมีการเตรียมตัวซักซ้อมในเรื่องของภาษาที่ต้องใช้ในการตอบคำถาม เพื่อการสื่อสารที่เข้าใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันกับเจ้าหน้าที่ (ตม.) หากถูกเรียกตรวจสอบขึ้นมา และคำถามที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ใช้ถามส่วนใหญ่ ได้แก่

 

(คำถาม) เกี่ยวกับประวัติของคุณ และ จุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่

 

  • What’s your name? May I have your first name? Your first name is … right?

 

( คุณชื่ออะไร? ฉันขอทราบชื่อจริงของคุณได้ไหม? ชื่อจริงของคุณคือ…ใช่หรือไม่?

 

  • Where are you from?

 

( คุณมาจากที่ไหน?)

 

  • How old are you?

 

( คุณอายุเท่าไหร่?)

 

  • Could you please open your baggage?

 

( คุณสามารถเปิดกระเป๋าเดินทางได้หรือไม่? )

 

  • How long will you stay here?

 

( คุณจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่? )

 

  • What’s your purpose in this trip?

 

( จุดประสงค์ของทริปนี้คืออะไร? )

  • Why are you here? / Why are you coming here?

(คำถามแบบตรงประเด็น)

 

  • Where will you gonna stay?

 

( คุณจะไปพักที่ไหน? )

 

  • How many persons in your trip?

 

( ในทริปของคุณมีสมาชิกกี่คน? )

 

(คำตอบ) เกี่ยวกับประวัติของคุณ และ จุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่

 

  • I’m here on vacation.

 

(ฉันมาที่นี่เพื่อพักร้อน)

 

  • to travel.

 

(มาเพื่อท่องเที่ยว)

 

  • study.

 

( มาเรียน)

 

  • Visit Relatives.

 

(มาเยี่ยมญาติ)

 

  • I’m here to visit my friend.

 

(มาเยี่ยมเพื่อน)

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณเดินทางมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหม

  • Is this your first time here? (first time แปลว่า ครั้งแรก) / นี่คือครั้งแรกของคุณใช่ไหม
  • Yes, this is my first time. ใช่ นี่คือครั้งแรกของฉัน

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับอาศัยอยู่นานเท่าไหร่

  • How many day are you planning to be here?
  • How long are you. going to be in ……? (ชื่อประเทศ) (How long แปลว่า นานเท่าไหร่)
  • How long will you be staying? อยู่กี่วัน
  • Show me your return ticket, please. ขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับด้วย
  • I’II be here for …… days. (ชื่อประเทศ) ฉันจะอยู่ที่นี่กี่วัน หรือตอบสั้นๆ ว่า Day .. (จำนวนวัน) แล้วนำตั๋วเครื่องบินที่เตรียมไว้ยื่นไปเลย พร้อมกับพูดว่า Here it is.

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณเดินทางมากับใคร

 

  • Who are you traveling with? (traveling with แปลว่า เดินทางกับ?)
  • Are you traveling alone? (traveling alone แปลว่า เดินทางคนเดียว?)

 

  • I’m alone. แบบสั้นๆ หรือ I’m traveling alone. ฉันเดินทางมาคนเดียว
  • I’m traveling with my friend. ฉันเดินทางมากับเพื่อน
  • I’m traveling with my family. ฉันเดินทางมากับครอบครัว

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณจะพักที่ไหน

  • Where are you staying? (staying แปลว่า อาศัยอยู่)
  • Where will you be staying?
  • I’ll be staying at …..(ชื่อโรงแรม)

ฉันจะพักอยู่ที… .(ชื่อโรงแรม)

(คำถามเพิ่มเติม)

 

  • Where will you be visiting?

 

ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ถ้าทำแผนการท่องเที่ยวมาก็แสดงไปเลย หรือยกตัวอย่างไปสักสอง สามที่

 

  • What do you do?

 

คุณทำอาชีพอะไร ตอบไปตามความจริงว่าทำอาชีพอะไร

 

  • what are you studying?

 

(ในกรณีที่เป็นนักเรียน)ก็ตอบชื่อหลักสูตร โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มาเรียน

  • where is your school?

โรงเรียนอยู่แถวไหน เมืองไหน อาจจะตอบเป็นพื้นที่ที่เราพอทราบ หรือเตรียมเอกสารของโรงเรียนที่มีที่อยู่มาด้วย

  • Do you plan to work here?

คุณมีแผนที่จะทำงานต่อที่นี่หรือไม่ ตอบตามความจริง และเช็ควีซ่าที่เราได้มาว่าเป็นประเภทที่สามารถทำงานได้หรือไม่

 

  • How much money are you bringing?

 

พกเงินมาด้วยเท่าไร ตอบตามจำนวนที่พกมา ประมาณคร่าวๆ ตรวจสอบข้อมูลมาก่อนด้วยว่าแต่ละประเทศมีข้อกฏหมายในการพกเงินสดไม่เกินเท่าไหร่

 

คำถามและรูปแบบของประโยคที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ใช้ถาม

  • คำถามอาจแตกต่างกันไปตามวาระและโอกาสในการเดินทาง
  • สำเนียงภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่ (ตม.) ของแต่ละประเทศที่ไมได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
  • สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว อาจโดนถามละเอียดมากหน่อยจากเจ้าหน้าที่ หากคุณเตรียมตัวเตรียมพร้อมมาอย่างดีคุณก็ไม่ต้องกังวล

 

เที่ยวยุโรปอย่างไร ให้ปลอดภัยจากกลลวง

ในทุกๆปี มีนักท่องเที่ยวในเอเชียเดินทางไปเที่ยวยุโรปกันค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนทำงาน,คู่รัก,หนุ่มสาวที่เดินทางไปเป็นกลุ่มกับกรุ๊ปทัวร์ซึ่งมันก็ใช่ที่ใครหลายๆคนไปทัวร์ยุโรป พอได้ไปเที่ยวแล้วกลับมาบอกว่าดี ต่างบอกกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นสวยงาม บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน และสภาพแวดล้อมอากาศดี แต่มันก็มีนักท่องเที่ยวที่ไปแล้วกลับต้องเจอปัญหาที่เกิดจากภัยสังคมในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากพวกมิจฉาชีพที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนคุณ โดยที่คุณไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดภัยร้ายขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น ภัยที่ต้องระวังในการเดินทางไปทัวร์ยุโรป มีรูปแบบไหนบ้างและควรหลีกเลี่ยงอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยจากภัยเหล่านี้ คือ

1.การถูกโน้มน้าวชักจูง ช่วยเหลือ กลลวงนี้เป็นภัยสังคมที่เกิดขึ้นในสังคมแทบทุกๆวัน

คุณอาจจะเจอมันมาในรูปแบบ ขอรับบริจาคช่วยงานการกุศลทำบุญสร้างนั่นสร้างนี่หรือก็อาจจะมีช่องโหว่ที่ทำให้พวกมิจฉาชีพแอบเดินมาล้วงกระเป๋าเสื้อ กางเกงหรือรูดซิปและหยิบของมีค่าในกระเป๋าของคุณในช่วงเวลาที่คุณเดินทางอยู่ตามท้องถนนในสถานต่างๆ ก็เป็นได้

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงเดินเข้าไปใกล้กลุ่มคนที่อยู่ตามถนนมองหาคนเดินไปมาถือปากกามีเอกสารให้กรอกข้อมูลอะไรสักอย่างกับคนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยว

2.อย่าแลกเปลี่ยนเงินกับคนแปลกหน้า เมื่อนักท่องเที่ยวประสบกับปัญหาเงินสกุลต่างประเทศที่ได้แลกไว้เกิดไม่พอใช้ ซึ่งคุณกำลังหาที่แลกเปลี่ยนสกุลเงิน แต่ไม่รู้ไปแลกที่ไหนตอนช่วงที่คุณท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศซึ่งมีพวกมิจฉาชีพที่ชอบยืนดักรอนักท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวต่างๆ เดินเข้าหาเสนอตัวเข้าช่วยเหลือแบบแนบเนียน ถ้าคุณไม่รู้ดันหลงเชื่อคนพวกนี้คุณอาจจะโดนร้านรับแลกเงินฉ้อโกง ปรับเปลี่ยนเรทแลกเงิน สลับบัตรธนบัตร หรือนำบัตรสกุลเงินต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยนกับเงินของคุณก็เป็นได้

วิธีป้องกัน คุณควรไปแลกเปลี่ยนเงินกับร้านที่ที่รับแลกเปลี่ยนสกุลต่างชาติโดยเฉพาะ อย่านำเงินไปแลกเปลี่ยนกับคนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด เพราะคุณอาจสูญเงินไปง่ายๆแบบไม่รู้ตัว

3.แกล้งทำของหล่นหรือหกใส่คุณ วิธีนี้เป็นวิธีที่มิจฉาชีพหลอกทำกันเยอะมากๆ ซึ่งคนพวก นี้มีลักษณะท่าทีเหมือนสร้างสภานการณ์หมือนไม่ได้ตั้งใจทำอะไรสักอย่างใส่คุณแต่ทำเหมือนเป็นอุบัติเหตุแล้วกระตือรือล้นอยากเข้าช่วยเหลือคุณมากซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าช่วงนั้นได้หยิบหรือฉกของมีค่าหรือกระเป๋าสตางค์คุณไปแล้ว

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงหรือปฎิเสธคนพวกนี้ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือไปเลยดีที่สุด

 

4.หลักเลี่ยงการเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟฟรี คุณไม่ควรต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรี มั่วๆ

เมื่อคุณไปตามสถานที่ต่างๆ ถ้าคุณเกิดเชื่อมต่อฟรี และเผลอเข้าใช้มันอาจมีความเสี่ยงคุณอาจจะโดนพวกแฮ๊กเกอร์ปล่อยสัญญาณ หรือล้วงลับข้อมูลส่วนตัวของคุณได้

วิธีป้องกัน หากคุณจำเป็นต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจริงๆ ตุณควรสอบถามร้าน หรือสถานที่ที่คุณไปว่ามีบริการให้ใช้เปิดสัญญาณไวไฟฟรีหรือไม่ แล้วขอรหัสเข้าไวคงจะปลอดภัยกว่า

 

5.เสนอตัวเข้าช่วยเหลือกดเงินให้ ในกรณีนี้มิจฉาชีพ ทำเหมือนคนทั่วไป ที่กดเงินตาม

 

ตู้เอทีเอ็ม (ATM) เมื่อเจอเหยื่อที่สามารถเข้าไปหลอกได้ ก็จะทำเป็นเข้าไปช่วยเหลือ ถ้าเหยื่อหลงเชื่อก็อาจโดนฉกเงินไปเรียบร้อยแล้ว

วิธีป้องกัน หากคุณต้องการกดเงินสดที่ตู้กดเงินคุุณควรไปในที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่ไปในที่เปลี่ยวคนเดียว หากมีคนเข้ามาพูดคุยสอบถาม หรือขอช่วยเหลือตอนที่คุณกำลังที่ธุรกรรมที่ตู้อยู่ คุณควรปฎิเสธทันที

6.ปลอมตัวแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยวจะพบได้ตามเมืองสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ

โดยการทำงานของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนึ่งแสดงตัวเป็นพวกสร้างปัญหา อีกพวกหนึ่งจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พอทำทีเกิดขึ้น และเมื่อคุณอยู่ในสถานการร์นั้น ก็จะมีพวกที่แสดงเป็นเจ้าหน้าที่เนี่ยแหละเข้ามาขอดูขอตรวจเอกสารของคุณ ซึ่งมันเนียนมากซึ่งคุณจะไม่รู้ตัวเลยว่ามันเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไป

วิธีป้องกัน คุณไม่ควรพกพาสปอร์ตเล่มจริงติดตัวออกไปเที่ยว เพราะมีเปอร์เซ็นต์อาจวางลืมหรือโดนมิจฉาชีพฉกไป คุณอาจแค่ถ่ายเอกสารพาสปอร์ตไว้พกไปก็พอ

 

7.แก๊งขอทาน เป็นเรื่องที่เราๆเจอกันประจำทั่วไป ลักษณะคือเดินขอเงินนักท่องเทื่ยวอยู่

 

ตามท้องถนน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบพิการแขนขา ตาบอด หรือทำตัวน่าสงสาร ทั้งๆที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ด้วยความที่เห็นแล้วเรารู้สึกสงสารเราก็ช่วยเหลือไป หรือไม่ก็ทำทีขอทานพอคุณเผลอก็อาจฉกทรัพย์สินคุณไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

วิธีป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการให้เงินแก่ขอทานตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือถ้าหากคุณไม่แน่ใจแต่อยากช่วยเหลือ ก็อาจจะซื้อเป็นอาหารหรือขนมให้แทนคงดีกว่า

เรียนรู้คำศัพท์สำคัญ ก่อนรีรันเที่ยวยุโรป

คุณคงมีการวางแผนและเตรียมพร้อมในการเดินทางท่องเที่ยวกันแล้วแต่สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ้งที่เป็นอุปสรรค และเป็นปัญหาของใครหลายๆคน นั่นคือ เรื่องของความรู้ในการศึกษาข้อมูลก่อนออกทริป หรือเรื่องที่คุณไม่เข้าใจ และไม่สามารถสื่อสารในการพูดภาษากับชาวต่างๆชาติได้ นั่นจึงเป็นอุปสรรคกับใครหลายๆที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ว่าจะไปทัวร์ยุโรปหรือเอเชีย ที่คุณยังกังวลว่าจะสื่อสารกับชาวต่างชาติไม่เข้าใจ ล้วนแต่เป็นอุปสรรคในการเดินทางต่างๆ ประเทศเป็นอย่างมาก

การเรียนรู้ศึกษาหาข้อมูลหรือจดจำคำศัพท์ที่สำคัญๆที่ต้องใช้ในการเดินทาง เพื่อใช้สื่อสารได้ มีคำศัพท์น่ารู้ๆ ที่เราควรรู้ไว้ก่อนออกทริปเดินทางไปต่างประเทศ มีคำศัพท์น่ารู้ที่คุณควรรู้ไว้ ก่อนเดินทางทัวร์ท่องเที่ยว อาทิเช่น

– Ticket คือ ตั๋วที่เป็นกระดาษ ออกโดยสายการบืน โดยซื้อที่เคาร์เตอร์
– E-Ticket หรือ Electronic Ticket คือ ตั๋วที่ได้จากการซื้อแบบออนไลน์
– Booking หรือ Reservation คือ การจองตั๋วเครื่องบิน
– Boarding Pass คือ บัตรโดยสาร หรือใบผ่านเพื่อขึ้นเครื่องบิน
– Carry- on คือ กระเป๋าใบเลกที่คุณสามารถหิ้วขึ้นเครื่องได้
– Flight Number คือ หมายเลขไฟลท์ที่เราจะขึ้นเครื่องบิน ลักษณะเป็นตัวหนังสือภาษา
– Immigration Card คือ บัตรสำหรับตรวจคนเข้าเมือง
– Passport Control คือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
– Gate Number คือ หมายเลขประตูที่เราต้องรอไปขึ้นเครื่อง
– Board Time คือ เวลาที่คุณขึ้นเครื่องช้า เลยเวลาขึ้นเครืองบิน
– Final Call คือ การประกาศเรียกผู้โดยสารครั้งสุดท้ายก่อนเครื่องจะออกบิน
– Flight Delayed คือ เครื่องบินออกล่าช้ากว่ากำหนด
– Departure Time คือ เวลาเครื่องบินขึ้น
– Arrival Time คือ เวลาเครื่องบินลง
– Baggage Claim คือ หมายเลขหรือรหัสตัวอักษร ที่กำหนดให้คุณไปรับสัมภาระ
กระเป๋าเดินทางที่คุณโหลดฝากเอาไว้
– Booking Number หรือ Reference Number คือ หมายเลขการจองตั๋วเครื่อง
บิน
– Check – in คือ การยืนยันการขึ้นเครื่องบิน
– Checked Baggage คือ กระเป๋าต่างๆ ที่เราฝากโหลดไว้ใต้เครื่องบิน ที่เราจะ
ได้หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วฺ

10 สายการบินที่ดีที่สุด เที่ยวยุโรป

ปัจจุบันนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทัวร์ยุโรปกันเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี เมื่อมีคนหันมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ก็ส่งผลดีในเรื่องของการคมนาคมทางอากาศ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วเดินทางอาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่คนก็นิยมเลือกการเดินทางโดยการขึ้นเครื่องบินโดยสาร เพราะยอมรับในการให้บริการที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย นั่นก็คือ การขึ้นเครื่องบินโดยสาร นั่นเอง

วันนี้ได้มีการจัด 10 อันดับ สายการบินยุโรปที่ดีที่สุด มีสายการบินอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

แอร์ฟรานซ์ (Air France)

แอร์ฟรานซ์เป็นสายการบินประจำชาติ ของประเทศฝรั่งเศษ
ปัจจุบัน เข้าร่วมกับสายการบินเนเธอแลนด์ จึงกลายเป็นสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France KLM) เที่ยวบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ของแอร์ฟรานซ์จะออกจากท่าอากาศยานในกรุงปารีสแต่ก็มีบางเที่ยวบินที่ออกจากเมืองนีช ซึ่งเส้นทางการบินของแอร์ฟรานซ์มีอยู่ทั่วโลก

เวอร์จิน แอตแลนติก แอร์เวย์ (Virgin Atlantic Airways)

สายการบินพาณิชย์ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ใช้นวัตกรรมต่างๆ สร้าง Virgin Atlantic นำมาใช้ล้วนเกี่ยวพันกับการบริการและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร เช่น จอโทรทัศน์สำหรับที่นั่งในระดับ Business class, ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก, ระบบเช็กอินแบบไดรฟ์ ทรู, บาร์เครื่องดื่ม, บริการนวดและบริการ super economy ซึ่งเป็นระดับที่อยู่ระหว่าง economy กับ business เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง ถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจในการให้บริการ จึงทำให้แบรนด์สามารถครองใจผู้ บริโภค และประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ในปัจจุบัน Virgin Atlantic เป็นสายการบินอันดับ 2 ของประเทศอังกฤษ

เคแอลเอ็ม โรยัลดัตช์ แอร์ไลน์ (KMLl Royal Dutch Airlines)

เคแอลเอ็ม โรยัลดัตช์ แอร์ไลน์ เป็นบริษัทลูกของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม โดยก่อนที่จะควบรวมกับแอร์ฟรานซ์นั้น เคแอลเอ็ม จึงเป็นสายการบินแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ มีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัม

ฟินน์แอร์ (Finnair)

เป็นสายการบินแห่งชาติ และเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ มีผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบิน คือ รัฐบาลฟินแลนด์ ที่มีสัดส่วนทั้งสิ้น 55.8% ให้บริการผู้โดยสาร 8.8 ล้านคน ในจุดหมายปลายทางภายในประเทศ 15 จุดหมายและระหว่างประเทศ 55 จุดหมาย ที่มีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่เฮลซิงกิ-วานตาและเป็นสมาชิกของพันธมิตรสายการบินวันเวิลด์สกายแทรคจึงจัดอันดับสายการบินฟินน์แอร์อยู่ในสายการบินระดับสี่ดาว

ออสเตรียน แอร์ไลน์ ( Austrian Airlines )

เป็นสายการบินแห่งชาติออสเตรียนสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ที่มีสายการบินในเครือ เช่น ไทโรเรี่ยนแอร์เวย์ (สายการบินท้องถิ่น) และ เลาด้า แอร์ (สายการบินเช่าเหมาลำ) ออสเตรียน

แอร์ไลน์มีฐานบินใหญ่อยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา หนึ่งในสมาชิกพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลน์แอนซ์

อีเจียนแอร์ไลน์ ( Aegean Airlines )

สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกรีซ อีเจียนแอร์ไลน์ปฏิบัติการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสทั้งสิ้น 46 ลำ (ประกอบด้วยรุ่นเอ 320 จำนวน 37 ลำ เอ 321 จำนวน 8 ลำ และ เอ 319 จำนวน 1 ลำ) เครื่องบิน เอ 321 นีโอสามารถบินได้กว่า 4,000 ไมล์ทะเล (หรือ 7,400 กิโลเมตร) เครื่องบินเหล่านี้ จะเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเราในการให้บริการที่มีมาตรฐานสูง มีการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อบริการให้แก่ผู้โดยสารทั้งบนเส้นทางบินระยะใกล้และระยะไกล

บริติชแอร์เวย์ (Britsh Airways)

บริติชแอร์เวย์ มีเส้นทางการบินครอบคลุมกว่า 160 จุดหมายปลายทางในทวีปยุโรป 75 ประเทศ สำหรับเส้นทางการบินจากประเทศไทยจะเป็นเที่ยวบินที่ออกจากกรุงเทพฯ โดยมีเที่ยวบินยอดนิยมที่ออกจากประเทศไทยไปยังเมืองต่างๆ ได้แก่ ประเทศ สหราชอาณาจักร (ลอนดอน/แอเบอร์ดีน เอดินบะระ / เบลฟัสต์ / กลาสโกว์), ไอร์แลนด์ (ดับลิน), ฝรั่งเศส (ปารีส), ฮังการี (บูดาเปสต์), อิตาลี โรม / มิลาน) เป็นต้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ทำสถิติบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วที่สุด

สวิส อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ (Swiss International Airlines)
เป็นสายการบินประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นบริษัทลูกของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า มีฐานบินหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานซูริค เปิดให้บริการสู่จุดหมายปลายทางในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป และเอเชีย โดยมีจุดหมายปลายทางมากกว่า 50 สนามบิน เป็นให้บริการทุกวัน จากกรุงเทพฯ ไปซูริค นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในกลุ่ม Star Alliance อีกทั้ง สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ยังแชร์โค้ดกับการบินไทย ระหว่างกรุงเทพฯ และซูริค

ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa)
เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรปรองจากกลุ่มแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France KLM) และใหญ่เป็นอันดับห้าของโลกในจำนวนผู้โดยสาร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโคโลญ สายการบินเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลน์แอนซ์และมีสายการบินในเครืออีก คือ สายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบินทัวร์ยุโรป ภายในประเทศ 18 ประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ 203 ประเทศ ใน 78 ประเทศ ทั้งทวีปในยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา

สายการบินตุรกี (Turkish airlines)

สายการบินตุรกีให้บริการจุดหมายปลายทางมากกว่าสายการบินอื่นๆในโลก และทำการบินตั้งแต่ ปี 2019 รวมแล้วสายการบินตุรกีมีเส้นทางบินไปยัง 315 จุดหมายปลายทางใน 126 ประเทศ สายการบินนี้ให้บริการทั้งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ได้รับรางวัล “สายการบินที่ดีที่สุดในยุโรป” 6 ปีซ้อนจากสกายแทร็กซ์ และเป็นหนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรในกลุ่มสตาร์ อัลไลแอนซ์

ขอวีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) ก่อนทัวร์ยุโรป

เมื่อนักท่องเที่ยวต้องการออกเดินทางออกทัวร์เที่ยวยุโรป ควรให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมในการขอยื่นเอกสารการขอวีซ่าเชงเก้นกันก่อน วีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) เป็นหนังสือเดินทางระยะสั้น อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน หรือเป็นเวลา 3 เดือน สามารถใช้เดินทางเที่ยวได้กว่า 26 ประเทศ เช่น เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, กรีซ, โปรตุเกส, สเปน, เยอรมนี, ออสเตรีย, ฟินแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดนนอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, มอลตา, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, ฮังการี, โปแลนด์, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และโมนาโก

การขอยื่นเอกสารการขอวีซ่าเชงเก้น ผู้ขอวีซ่าควรกรอกข้อมูลไปในประเทศที่เราจะเดินทางตามความเป็นจริงมากที่สุด หากคุณจะไปประเทศไหนก็ควรขอวีซ่ากับสถานฑูตประเทศนั้น และถ้าคุณต้องเดินทางไปหลายประเทศก็ควรขอวีซ่ากับสถานฑูตประเทศแรกที่คุณจะไปก่อน เพราะการขอวีซ่าเชงเก้นไม่สามารถยื่นขอคำร้องล่วงหน้าก่อนเดินทาง 90 วันได้ ดังนั้นหากคุณไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ อาจทำให้คุณเจอปัญหาในการเดินทางโดน ตม. กักบริเวณไว้ หรืออาจถูกส่งกลับได้

รายชื่อสถานฑูต ที่สามารถขอวีซ่าเซงเก้นได้ มีดังนี้

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตเบลเยี่ยม ประเทศไทย
สถานทูตประเทศสาธารณรัฐเช็ก
สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก

ขั้นตอนเตรียมเอกสารขอวีซ่าเชงเก้น

1. เอกสารแบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่าที่กรอกแล้วโดยสมบูรณ์พร้อมเซ็นชื่อ

คุณยื่นขอวีซ่าประเทศอะไรเพราะแต่ละประเทศนั้นอาจมีการใช้แบบฟอร์มที่แตกต่างกันให้เข้าไปเช็คข้อมูลที่หน้าเว็ปของสถานทูตนั้นๆประจำประเทศไทยก่อน เนื่องจากมีสถานทูตบางแห่งที่มีการรับยื่นเอกสารวีซ่าจากตัวแทนหรือการให้สัมปทานบริษัทรับยื่นวีซ่า คุณควรกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง

(ตัวอย่าง) แบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นงเก้น (Shengen Visa)

ขอบคุณรูปจาก pantip.com/topic/32617605

 

2. เตรียมเอกสารสำเนาพาสสปอร์ตเดินทาง

พาสปอร์ต (Passsport) ที่จะใช้สำหรับยื่นขอวีซ่าจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือ 180 วันนับจากวันที่เราเดินทางกลับออกจากประเทศนั้น ควรเตรียมสำเนาเอกสารทั้งหมด 2 ชุด พร้อมเซ็นชื่อรับรองสำเนาด้วย

3. เตรียมรูปถ่าย 2”นิ้ว (35mm.x45mm.) / จำนวน 2 รูป

ควรถ่ายให้เห็นใบหน้าตรง ทำหน้าปกติไม่ยิ้มหรือทำหน้าตาแปลก พื้นหลังสว่างเพื่อให้เห็นภาพถ่ายใบหน้าให้ชัดเจนขึ้น


3. เอกสารรับรองการทำงาน (Work Permit)

เอกสารรับรองการทำงาน (มีอายุนับจากวันที่ออกเอกสารไม่เกิน 1 เดือน) แบ่งเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้

พนักงานบริษัททั่วไป ต้องให้บริษัทต้นสังกัดออกใบรับรองให้ โดยระบุชื่อคุณ ตำแหน่งงาน
วันที่เริ่มเข้าทำงาน เงินเดือน และจำนวนวันที่ทางบริษัทอนุมัติให้คุณลา

หมายเหตุ: จำเป็นต้องครอบคลุมวันที่คุณเดินทางไป-กลับ ถ้าเกินกว่านั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าน้อยกว่าจะไม่ได้

  • เจ้าของกิจการธุรกิจ ต้องขอหนังสือจดทะเบียนบริษัท ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจ แบบฉบับ
    (เป็นภาษาอังกฤษ) โดยที่มีชื่อของเจ้าของธุรกิจกำกับอยู่
  • คนทำงานฟรีแลนซ์ ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ต้องทำหนังสือแจ้งรายได้ประจำวัน และรายได้ส่วนต่างๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) ว่าได้มาจากใครหรือที่ใด
  • นักเรียน นักศึกษา ต้องขอหนังสือรับรองของสถานศึกษานั้นๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) จะต้องมีตราปั๊มจากสถานศึกษาบนเอกสารด้วย

5. เอกสารหลักฐานทางการเงิน (Statement)

คุณต้องมีบัญชีฝากประจำ และทำการยื่นขอเอกสารรับรองทางการเงิน หรือ Statement (ย้อนหลัง 6 เดือน) แล้วให้แจ้งกับทางธนาคารว่าคุณต้องการขอวีซ่าเชงเก้น เพื่อให้ทางธนาคารออกเอกสารรับรองเป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ที่รับรองว่าคุณมียอดเงินหมุนเวียนสม่ำเสมอทุกเดือน (ถือว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการที่เค้าจะตัดสิน เพื่อให้วีซ่าเชงเก้น) มี 2 กรณี คือ

  • กรณีผู้มีรายได้ บัญชีคุณควรมีรายได้หมุนเวียนสม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันก็ตาม
  • กรณีผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือไม่มีงานทำ จะต้องมีหนังสือ Sponsor Letter ที่ออกโดยผู้ที่ออกค่า ใช้จ่ายให้พร้อมลายเซ็นเป็นฉบับภาษาอังกฤษ พร้อมแนบหนังสือแสดงความสัมพันธ์ด้วย เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองบุตร และเอกสารรับรองรายได้ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายให้พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษ

6. ทำแผนการท่องเที่ยว (เป็นภาษาอังกฤษ)

ทำเอกสารแจ้งการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย คุณไปสายไหน ไปสายการบินอะไร เวลาเที่ยวบิน ไฟลท์การบิน เข้า-ออกประเทศใด วันที่เท่าไหร่ พักที่ไหน ใช้เวลาเดินทางกี่วัน สถานที่ๆเราไปเทียว คุณควรตอบให้ตรงกับความเป็นจริง

7. เอกสารจองที่พัก และ ตั๋วโดยสาร

รวบรวมเอกสารรายละเอียดในการจองที่พักและตั๋วการเดินทางทัวร์ยุโรป เที่ยวบินทั้งขาไป-กลับ(ถ้าเป็นตัวบินระหว่างประเทศในโซนยุโรป) คุณสามารถแนบเอกสารการจองอื่นๆไปด้วยได้ โดยอ้างอิงจากข้อที่ เช่น ตั๋วเข้าชมสถานที่ ตั๋วโดยสารยานพาหนะอื่นๆ

8. หนังสือเชิญ (ในกรณีที่ถูกองค์กร หรือบุคคลเชิญ)

สำหรับเชิญรูปแบบองค์กร ในหนังสือองค์กรนั้นต้องส่งมาพร้อมชื่อเราที่ต้องแนบมาด้วย

สำหรับเชิญรูปแบบบุคคลจำเป็นต้องใช้หลักฐานของผู้ที่เชิญแนบไปด้วยเช่น ให้ผู้เชิญทำการ
ส่งหนังสือแสดงโค้ดเชิญจากสถานีตำรวจจากประเทศนั้นๆพร้อมสำเนาหนังสือเดินทางของผู้เชิญเพื่อใช้แนบคู่ไปกับเอกสารอื่นๆ

9. ขอเอกสารจากบริษัทกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทาง (ที่สถานฑูตยอมรับ)

ตัวประกันการเดินทางต้องมีระยะเวลาคุ้มครองที่ครอบคลุมช่วงเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปต้องให้การคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ ค่ารักษาอาการเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง ซึ่งการประกันภัยการเดินทางต้องมีวงเงินประกันมากกว่า 30,000 ยูโรขึ้นไป ควรหาประกันภัยที่ให้การคุ้มครองครบทุกด้านสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ อาทิเช่น มีอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาล ประกันกระเป๋าเดินทางหาย หรือเสียหาย, ตกเครื่อง, ไฟลท์บินทัวร์ยุโรปยกเลิกหรือดีเลย์ หากเราใช้กรมธรรม์ที่เราซื้อนี้ยื่นหลักฐานวีซ่าแต่เกิดการโดนรีเจ็ควีซ่าทางบริษัทจะต้องคืนเงินประกันให้เราด้วย

10. ค่าธรรมเนียมการขอยื่นขอวีซ่าเชงเก้น

ราคาปกติของค่าธรรมเนียมในการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นกับสถานทูต ประมาณ 60 ยูโร หรือประมาณ 2,265 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินในแต่ละวัน)

หากทำการยื่นผ่านบริษัทตัวแทนรับยื่นวีซ่า อาจมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้เป็นค่าบริการจัดการด้านเอกสารต้องทำการเช็คกับบริษัทตัวแทนรับยื่นวีซ่านั้นๆโดยตรง

** (ข้อควรระวัง และข้อแนะนำ ) การขอทำวีซ่าเชงเก้น คือ

เอกสารการรับรองทุกฉบับที่ขอจากองค์กรต่างๆ ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน
เกอสารทุกฉบับต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมันทั้งหมดรวมทั้งแผนการเดินทาง
แนะนำว่า หากคุณใช้บริการจากที่รับแปลเอกสารควรเป็นที่รับแปลที่น่าเชื่อถือและควรมีประสบการณ์ด้วย

ทัวร์ยุโรปตะวันออก ปี 2020

จากกระแสตอบรับที่ดีในช่วงปีที่ผ่านมามีผลสำรวจว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทัวร์ยุโรปกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่มีมากกว่า 81% มาท่องเที่ยวกันมาก เพราะถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในยุโรปตะวันออก ซึ่งนักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสนใจกันมาก และเมื่อมีโอกาสก็อยากหาทัวร์เดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆในยุโรปที่ต่างไปจากการเที่ยวแต่ประเทศเดิมๆที่เคยได้ไป วันนี้เราจะให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปตะวันออก มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

ซัลตา ประเทศอาร์เจนตินา

ซัลตาตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาแอนดีสในประเทศอาร์เจนตินา มีสถาปัตยกรรมโคโลเนียล 9 de Julio Plaza จตุรัสเขียวชอุ่มใจกลางเมือง โบสถ์ซานฟรานซิสโกหรือโบสถ์ และอารามเก่าแก่ที่มีความสวยสดงดงามเต็มไปด้วยสีสัน สร้างความสดใสให้เมืองนี้เป็นอย่างมาก ทั้งมีภูมิประเทศหลากสีสันซึ่งอยู่ใกล้เคียงอย่างเนินเขาเจ็ดสีและ Salinas Grandes (ที่ราบเกลือ)

สถานที่พัก : Hostal Prisamata (ห้องพัก + อาหารเช้าแบบคอรติเนนตัล)

ชาเบลียค ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro)

สถานที่นี้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่มีทิวทัศน์งดงามปกคลุมผืนป่าไปด้วยต้นไม้อันสีเขียวชะอุ่มมกับอุทยานแห่งชาติ Durmitor National Park ตื่นตาตื่นใจกับทะเลสาบ Black Lake รอบด้านมีป่าสนเรียงรายมองไปเห็นภูเขาช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะพาครอบครัว หรือคนรัก ออกทางไปเที่ยวพักผ่อน เพราะบรรยากาศดี เงียบสงบ ให้ความเป็นส่วนตัวหรือชวนเพื่อนๆเดินทางแคมป์ปิ้งไปกรุ๊ปทัวร์กันหลายๆ คนก็น่าสนุกไม่ใช่น้อย

สถานที่พัก : Holiday Home Vile Calimero บ้านพักติดกับภูเขาบ้านพักตั้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวมีพื้นที่ใช้สอยสะดวกสบายหรือทำพานักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ทำกิจกรรมบริเวณรอบที่พักได้และที่พักก็อยู่ใจกลางเมืองชาเบลียค ไม่ไกลจากลิฟต์สกี Javorovac Ski Lift ด้วย

เยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย ( Yerevan Armenia )

กรุงเยเรวานได้รับการขนานนามจาก UNESCO ว่าเป็น World Book Capital อีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวมีตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม และเชิงประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาร์เมเนีย มหาวิหารเซนต์เกรกอรี่ ดิ อิลลูมิเนเตอร์เป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์นิกาย Armenian Apostolic Church ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, วิหารซวาร์ทนอส ที่ราบสูงอารารัต, Cascade บันไดขนาดยักษ์ที่สร้างจากหินปูน ประดับประดาด้วยสวนน้ำพุ,รูปปั้น และรีพับบลิคสแควร์ จตุรัสใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุดนตรีแสนบันเทิง มาทัวร์ยุโรปทั้งที คุณคงไม่พลาดที่จะมาประเทศอาร์เมเนียกันนะ

สถานที่พัก : Panorama Resort & Suites สถานที่พักตั้งอยู่บนยอดเขาชวนให้คุณทั้งหลายทัศนียภาพพลางสำรวจรอบๆ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้ลงเล่นกันเพลินๆ

อิล กซีรา ประเทศมอลตา ( Malta )

ประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป เมือง อิล กซีรา ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอลตาที่สามารถมองเห็นวิวกรุงวัลเลตตาที่มีกำแพงล้อมรอบได้ ส่วนป้อม Fort Manoel สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1726 ตั้งอยู่บนเกาะ Manoel ที่อยู่ติดกับตัวเมืองอิล กซีรา จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทริปทัวร์ท่องเที่ยวไปเช้าเย็นกลับ ให้ผู้เดินทางได้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง และกินอาหารแบบท้องถิ่น


สถานที่พัก : Sweet Home malta ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิล กซีราและอยู่ใกล้กับเกาะ Manoel มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมในยูนิตอพาร์ตเมนต์ปรับอากาศ และที่พักแห่งนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากอ่าว Balluta Bay

ชวีโนวิชแจ ประเทศโปแลนด์

ชวีโนวิชแจ (Swinoujscie) นั้นเป็นเมืองท่าที่สวยงามริมทะเลบอลติกทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปแลนด์ และยังมีหอประภาคารยุคศตวรรษที่19 เพื่อชมวิวมุมกว้างของท่าเรือจากหอสังเกตการณ์ รวมทั้งยังมีการเล่นกีฬาทางน้ำที่หาดชวีโนวิชแจ หนึ่งในชายหาดที่กว้างที่สุดของโปแลนด์

สถานที่พัก : Houseboat Porta Mare III ที่พักมีลักษณะเป็นแพลัักษณะเป็นเรือตั้งอยู่ริมน้ำ คุณสามารถสัมผัสกับความเพลิดเพลิน และทำกิจกรรมในน้ำ และพิพิธภัณฑ์การประมงทะเลซึ่งคุณสามารถปั่นจักรยานไปได้ตามเส้นทาง

ซานฮวน ประเทศเปอร์โตริโก

กรุงซานฮวนเมืองหลวงของเปอร์โตริโกเป็นจุดหมายยอดเยี่ยมในแถบแคริบเบียนซึ่งมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา ลองเดินไปตามถนนหนทางที่ปูด้วยอิฐของย่านเมืองเก่าซานฮวน และคุณจะพบกับอาคารบ้านเรือนยุคอาณานิคมสเปนหลากสีสัน สำรวจถนนฟอร์ตาเลซา หรือที่รู้จักกันว่า “ถนนร่ม”

สถานที่พัก : Nomada Urban Beach Hostel มีบริการจัดทัวร์และกิจกรรมสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการเที่ยวเป็นกลุ่ม ที่พักเหมาะอย่างยิ่งกับการทำกิจกรรม เพราะมีพื้นที่ให้ย่างบาร์บีคิว มีสวนหย่อมให้นั่งเล่น

สถาปัตยกรรมล้ำค่า ในทวีปยุโรป

ถ้าพูดถึงบนโลกนี้ หนึ่งทวีปที่คุณอยากไปเยือนสักครั้งคงหนีไม่พ้น “ทวีปยุโรป” ทวีปที่มีความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีต่างๆ และยังเป็นผู้นำแฟชั่นอันทันสมัยที่สุดในโลกก็ว่าได้ ถือว่าเป็นทวีปที่เป็นตั้งของหลายประเทศที่มีสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความล้ำค่าและสวยงามที่สุดระดับต้นๆ ของโลก ที่ยังคงหลงเหลือให้เราได้ชมกันอยู่กับ 10 ที่สุด ของสถาปัตยกรรม อยู่ทีเมืองไหนประเทศอะไรบ้าง ดังนี้

ประเทศอิตาลี มีสถาปัตยกรรม 6 สถานที่ ได้แก่ (สนามกีฬาโคลอสเซียม) (หอ
เอนปิซ่า) (นครรัฐวาติกัน) (วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม) (น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม) (บันไดสเปน กรุงโรม)

ประเทศฝรั่งเศษ มีสถาปัตยกรรม 3 สถานที่ ได้แก่ (พระราชวังแวร์ซายส์ กรุง
ปารีส) (หอไอเฟล กรุงปารีส) (พิพิธภัณฑ์ลูฟร์)

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสถาปัตยกรรม 1 สถานที่ ได้แก่ (ยอดเขายุงเฟรา)

1. สนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศ อิตาลี (Colosseum Italy,Rome)

สนามกีฬากลางแจ้งตั้งอยู่ที่กรุงโรมของประเทศอิตาลี 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬาในยุคอาณาจักรโรมันโบราณที่มีขนาดใหญ๋ก่อสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ปีค.ศ.72 ถึง 80 ที่สร้างรูปทรงมีลักษณะอาคารเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ ภายในบริเวณอาคารสามารถบรรจุคนนั่งดูได้ถึง 80,000 คน บริเวณใต้อัศจรรย์และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต รวมทั้งสิงโตหลายร้อยห้อง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ ก็อาจรอดชีวิตไป หรือไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเองยิ่งถ้าต่อสู้กัน และสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตายจะได้รับเกียรติอย่างสูง เพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมยกย่องกันมาก ซึ่งในทุกๆปีหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน

2. หอเอนเมืองปิซ่า ( Leaning Tower of Pisa , Italy )

หอเอนแห่งเมืองปิซ่า เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน ลักษณะรูปทรงมีความพิศดาร สูงถึง 54 เมตร. หรือ 181 ฟุต มีทั้งหมด 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตรรองรับ ได้ลงมือสร้างเมื่อ (ค.ศ.1174) ไปเสร็จในปี (ค.ศ.1350) ใช้เวานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ความน่ามหัศจรรย์อีกอย่าง คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียงแต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมาเพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วงเมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มและยังทรงตัวอยู่ได้เมื่อสร้างเสร็จ ส่วนยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร หรือ 14 ฟุต

3. นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City)

นครรัฐวาติกันและอิตาลี ได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราช มีอำนาจอธิปไตยของตนเองตั้งแต่ พ.ศ. 2503 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดน ที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ (International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict) เนื่องจากเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมของโลก มีหอสมุดอันเก่าแก่ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 (the Apostolic Library of the Vatican) ทำให้นครรัฐวาติกันจึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก และนักท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปส่วนใหญ่ต้องมาเที่ยวที่ประเทศนี้ เพราะเป็นประเทศที่เล็กและสวยงามมาก

4. วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม ( Basilica of Saint Peter )

วิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระมหาวิหารนักบุญเปโตร เป็นมหาวิหารเอกหนึ่งในสี่แห่งในกรุงโรม นครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารสูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม โบสถ์นี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่ตั้งโบสถ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของนักบุญซีโมนเปโตร ซึ่งเป็นหนึ่งในอัครทูตของพระเยซู คริสตจักรถือว่านักบุญเปโตรเป็นบิชอปองค์แรกของแอนติออก ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม เพราะนิกายโรมันคาทอลิกเชื่อกันว่าร่างของนักบุญเปโตรถูกฝังไว้ที่นี่ จึงเป็นประเพณีกันต่อมาว่าพระสันตะปาปาหลายองค์ก็ฝังไว้ที่นี้

5. น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ( Trevi Fountain )

น้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เขตเทรวี่ในกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) ความกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม ในสมัยบาโรกก็มีการแข่งขันออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ กัน มีการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1732 และเสร็จในปี ค.ศ. 1762 นานหลังจากพระสันตะปาปาคลีเมนต์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เมื่อประติมากรรมโอเชียนัส (เทพเจ้าแห่งน้ำ) มีปิเอโตร บรัคชิ (Pietro Bracci) ได้รับการติดตั้งในช่องกลางน้ำพุ

6. บันไดสเปน กรุงโรม (Scalinata della Trinità dei Monti )

บันไดสเปนในกรุงโรมของประเทศอิตาลี เป็นบันไดที่กว้างที่สุด และยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ฟรันเชสโก เด ซังค์ติส (Francesco de Sanctis) กับอาเลสซันโดร สเปคคี (Alessandro Specchi) สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1723-1725 ด้วยเงินจากกองทุนมรดกของนักการทูตฝรั่งเศส เอเตียน เกฟีเย (Étienne Gueffier) ลานด้านหน้าบันไดสเปน กลางลานมีฟอนตานาเดลลาบาร์คัชชา น้ำพุแบบอย่างบาโรกยุคต้นรูปทรงเรือโบราณตั้งโดดเด่น สร้างขึ้นในปี 1627-1629 ผลงานของนักประติมากรชื่อดัง ปีเยโตร แบร์นีนี บิดาของ จัน โลเรโซ แบร์นี่นี่ ประติมากร และสถาปนิกบาโรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งกว่าผู้พ่อ ตามตำนานว่า พระสันตะปาปาอูร์บาโนที่ 8 มีดำริให้สร้างจำลองจากเรือที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำไทเบอร์ตอนน้ำท่วม

ที่มุมขวาของเชิงบันได จะเห็นอาคารที่เคยเป็นสถานที่พำนักอาศัยของจอห์น คีตส์ กวีชาวอังกฤษ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1821 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Keats-Shelley Memorial House เพื่อรำลึกถึงคีตส์และเพอร์ซี บิช เชลลี และยังเป็นหอจดหมายเหตุรวบรวมผลงานสำคัญ รวมทั้งต้นฉบับและงานเขียนของกวีในยุคโรแมนติกอีกหลายท่าน

7. พระราชวังแวร์ซายส์ กรุงปารีส ( Versailles Palace)

เป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซาย แวร์ซายเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรฝรั่งเศสโดยพฤตินัยเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ นับจาก ค.ศ. 1682 ถึง 1789 โดยปัจจุบันนี้เมืองแวร์ซายได้เป็นชานเมืองที่ร่ำรวยของกรุงปารีสและยังคงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองเป็นตุลาการที่สำคัญ เมืองแวร์ซายตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของกรุงปารีสห่างจากใจกลางเมืองมา 17.1 กิโลเมตร โดยสภาเมืองแวร์ซายมีหน้าที่ปกครองส่วนอีฟลินส์ จากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2008 ที่ผ่านมา เมืองแวร์ซายมีประชากรทั้งสิ้น 88,641 คน ลดลงจากที่เคยมีมากที่สุกถึง 94,145 คนในปี ค.ศ.1975

8. หอไอเฟล กรุงปารีส ( Eiffel )

หอไอเฟล เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 (Exposition universelle de Paris de 1889) เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม หอคอยสูงงดงามแห่งนี้เป็นดาวเด่นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน หอไอเฟลกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสและใน ค.ศ. 2006 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 8

9. พิพิธภัณฑ์ลูฟ ( louvre museum )

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือมูว์เซดูลูฟวร์ มีชื่อทางการว่าthe Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศษ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีรูปทรงลักษณะเป็นพีระมิดแก้วออกแบบโดยไอ.เอ็ม.เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปีค.ศ.1988 เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดินที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด และต่อมาได้มีการวางโครงการขึ้นอีก คือ พีระมิดกลับหัวซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกันที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดินโดยฐานพีระมิดที่อยู่บนพื้นผิวระดับถนน โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1993

10. ยอดเขายจงเฟรา ( jungfrau )

ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตร ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007

ทวีปยุโรป ยังมีอีกหลายประเทศที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันล้ำค่า ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมรดกของโลกอันทรงคุณค่า ที่มีความปราณีตสวยงาม และยังคงเหลือไว้ให้ชื่นชมนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลก ในปัจจุบันมีนักท่องให้ความสนใจ และออกเดินทางมาท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปกันเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่อื่นๆอีกมากมายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มาเยือน

สัมผัสบ่อแช่เท้าใกล้ๆ ในกรุงไทเป ไต้หวัน

ในประเทศไต้หวันนั้น เต็มไปด้วยอุทยาน ป่าไม้เขียวขจี รายล้อมด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีสภาพแวดล้อมมีทิวทัศน์และธรรมชาติสวยงาม ให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายเลือกไปผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou) ในกรุงไทเป ที่ว่ากันว่า น้ำพุร้อนที่นี่ มี 3 แบบ ด้วยกัน คือ แบบที่มีกำมะถันเขียวๆหน่อย แบบที่มีกำมะถันสีขาว และสุดท้ายแบบโปร่งใสเลย ซึ่งคุณสมบัติทางด้านสุขภาพก็จะต่างกันไปนั่นเอง

ย่าน ซิน เป่ยโถว (Xin-Beitou) เป็นย่านเมืองใหม่ของเป่ยโถวที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่แค่นอกเมืองไทเปเท่านั้น ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมของชาวไทเป บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยรีสอร์ท และสปาทั้งหลากหลายแบบตั้งแต่แบบบ้านๆไปจนถึงแบบหรูหรา มีทั้งห้องอาบน้ำสาธารณะ บ่อแช่เท้า ร้านน้ำชา คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ

เมืองซินเป่ยโถวเพิ่งถูกสร้างขึ้นในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายในใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นเท่านั้น ช่วงประมาณ ปี ค.ศ.1900 ทำให้ในเมืองนี้จะมีบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่มากมาย เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นคลั่งไคล้ในการแช่ออนเซนหรือบ่อน้ำร้อนกันขนาดไหน ในทุกวันนี้คนไต้หวันหรือนักท่องเที่ยว จากทุกสารทิศในโลก ก็นิยมมาบ่อน้ำพุร้อนในกรุงไทเปกันแบบไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของย่านซินเป่ยโถวมีอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
สวน Qixing Park , ศูนย์วัฒนธรรมไข่ตาเก๋อหลาน (Ketagalan Cultural Center), ห้องสมุดสาธารณะไทเปประจำเมืองเป่ยโถว (Taipei Public Library), พิพิธภัณท์บ่อน้ำแร่เป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum) ห้วยนรก หรือ Themal Valley บ่ออาบน้ำสาธารณะ Millennium Hot Spring

สำหรับโรงอาบน้ำสาธารณะในย่านซินเป่ยโถวนั้นมีให้บริการอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีกฏระเบียบแตกต่างกันไปบางแห่งจะเป็นแบบเปลือยกายแยกบ่อสำหรับผู้ชายและผู้หญิงแต่บางที่ก็เป็นแบบใส่ชุดว่ายน้ำแช่รวมกันส่วนใหญ่จะเป็นแบบกลางแจ้ง หรือสามารถจองห้องพักของโรงแรมที่สามารถจองเวลาใช้งานได้แบบส่วนตัวเลยก็ได้ซึ่งจะมีทั้งแบบให้บริการเป็นรายชั่วโมงและแบบที่ต้องค้างคืนถึงจะใช้บริการได้ ซึ่งแบ่ง โปรแกรมบ่อน้ำพุร้อนออกเป็น 3 โปรแกรม ดังนี้

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 1– เขตบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่มือที่สวนสาธารณะชีซิง

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 2– น้ำพุผิวกระจกที่สวนสาธารณะเป่ยโถว

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 3– แช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งที่เป่ยโถว

ที่มา : travel.taipei

เอกสารขอวีซ่า วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวัน

ในส่วนของประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ จากภาครัฐผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและสายการบินต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปไต้หวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติเดือนมกราคม ปี 2562 พบว่า มีนักท่องเที่ยวไทย จำนวน 140,925 คนเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% โดยในปี 2562 เดือนมกราคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 27,164 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.44% เดือนกุมภาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 28,829 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.66% เดือนมีนาคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,649 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26% และในเดือนเมษายน มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,283 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.92%

จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างชัดเจน จากการที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวสนับสนุนอย่างเต็มที่นั้น ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยนั้นยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ประกาศขยายยกเว้นการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม 2562 – 31 กรกฎาคม 2563 นั้น คงเป็นที่ทราบกันดีแล้ว

วันนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ในการเดินทางเข้าไต้หวัน (กรณียกเว้นวีซ่า) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เราควรเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จะยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้มั่นใจว่าเราจะเดินทางออกจากไต้หวันเมื่อครบกำหนดเวลา มีการงานที่มั่นคงเชื่อถือได้ และสิ่งสำคัญที่คุณต้องเตรียมในการเดินทางเข้าไต้หวัน มีดังนี้

หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หรือตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 (กรณีที่ไม่ได้กลับประเทศไทย)

ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเมือง
ใบจองโรงแรม/ที่พัก หรือข้อมูลที่อยู่ของคนที่เราไปพักอาศัยด้วย
เอกสารทางการเงิน เช่น เงินสด บัตรเครดิต และหนังสือรับรองทางการเงิน เป็นต้น

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบออนไลน์ (กรณียกเว้นวีซ่า)

 

วิธีกรอกใบขาเข้ามี 2 แบบ คือ

กรอกใบขาเข้า ( Arrival Card ) แบบออนไลน์ (ล่วงหน้า 30 วันก่อนเดินทาง) คุณสามารถ

เข้าไปกรอกข้อมูลออนไลน์ได้ที่ http://oa1.immigration.gov.tw/nia_acard/acardAddAction.action

กรอกใบขาเข้า แบบในกระดาษ (พนักงานจะแจกให้ก่อนขึ้นเครื่อง)

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบกระดาษ (กรณียกเว้นวีซ่า)

ดังนั้น หากคุณเคยคิดว่าการท่องเที่ยวไปประเทศไต้หวันนั้นยุ่งยาก วันนี้คุณไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไป เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารให้ครบตามขั้นตอนที่เราแนะนำเพียงแค่เท่านี้ คุณก็เตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยวในไต้หวันให้เพลิดเพลินกันได้เลย

เครดิตข้อมูล : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2674304

สภาพอากาศ ที่เที่ยวที่กิน ไต้หวัน

ก่อนที่เราจะเดินทางไปทัวร์ประเทศไต้หวัน เราควรหาข้อมูลสภาพอากาศในช่วงที่เราออกเดินทางให้ดีว่าสถานที่นั้นเหมาะสมแก่การไปเที่ยวหรือไม่ เพราะหากสภาพอากาศไม่ดีนั่นก็รวมไปถึงมีผลต่อการชมทัศนียภาพ ของสภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นๆ อาจจะไม่ดีไม่เหมาะแก่การออกทริป ดังนั้นก่อนออกทริปแต่ละครั้งควรตรวจสอบให้แน่ชัด คุณจะได้ไม่ผิดหวังกลับมา

สมัยก่อนคนไต้หวันจะพูดกันแต่ภาษาจีนกลาง หรือเรียวกอีกอย่างว่า ภาษาฮกเกี้ยน แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไปการสื่อสารของคนไต้หวัน เริ่มมีความนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันมากขึ้น คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ

สภาพอากาศไต้หวัน (หลากฤดูตลอดทั้งปี)

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) : ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมธรรมชาติ อุณหภูมิอยู่ที่ ประมาณ 17-27 องศาเชียลเชียส
  • ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – กันยายน) : สภาพอากาศช่วงนี้ค่อนข้างร้อน อาจเกิดพายุ ฝนตกในบางช่วง
  • ฤดูใบไม้ร่วง ( ตุลาคม – ธันวาคม) : ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็น โปร่ง อาจมีฝนตกบ้าง เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสี
  • ฤดูหนาว (มกราคม-กุมภาพันธ์) : อากาศค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิ 14 องศาเชลเชียล

จัดเต็มรวมแหล่งช้อปปิ้งจากทั่วโลก ขาช้อปทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นสวรรค์ของนักช็อปต้องยกให้ไต้หวันด้วยความที่ค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งมีโปรโมชั่นถึงใจ ของคุณภาพดี ไม่นิยมของปลอม นำเข้าแบรนด์ดังๆจากทุกมุมโลก

แหล่งช้อปปิ้งไต้หวันที่ขาช้อปห้ามพลาด ดังนี้

  • Ximending ซีเหมินติง
  • Gongguan ตลาดกงกวน
  • Wufenpu อู่เฟินผู่
  • Guang Hua Digital Plaza กวงหัว ดิจิตอลพลาซ่า
  • Camera street คาเมร่า สตรีท
  • Taipei City Mall ไทเป ซิตี้มอลล์
  • MITSUI OUTLET PARK LINKOU ห้างเอาท์เล็ทหลินโค่วซานจิ่ง
  • Fengchia night market ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย,ไถจง

ดังนั้น คุณที่เป็นขานักช้อปทั้งหลาย ไม่ควรพลาดที่จะไปจับจ่ายซื้อสินค้าในประเทศไต้หวัน ซึ่งมีสินค้าจากแบรนด์ดัง ไอเท็มโดนๆ ที่คุณต้องอยากจับจองหาซื้อไว้มาครอบครองแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นนักช้อปชาวไทยคงไม่พลาดจองตั๋วมาแน่นอนเพราะเดินทางง่ายโดยไม่ต้องใช้วีซ่า

แหล่งสรรค์ของคนชอบกิน

ถ้าพูดถึงอาหารยอดนิยมในตอนนี้เราคงนึกถึงอะไรปิ้ง ๆ ย่างๆ กันในไต้หวันถือว่ามีร้านเด็ดดังๆอยู่หลายร้านที่ตั้งอยู่ในห้าง หรือตลาดกลางคืนก็จะมีร้านอาหารให้คุณได้เลือกหารับประทานกันตามใจได้เลย อาทิเช่น

1.Tim Ho Wan Taipei Main Station ร้านติ่มซำ ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ แต่ราคาถูกมาก เมนูเด็ดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ซาลาเปาหมูแดง (Baked Bun with BBQ Pork) อีกเมนูคือเกี๊ยวทอดไส้กุ้ง ราดด้วยซอสวาซาบิมาโย (Wasabi Salad Prawn Dumpling) มีโจ๊กฮ่องเต้ก๋วยเตี๋ยวแกงกะหรี่ เวลาเปิด-ปิด 10.00-22.00 น.(ทุกวัน) การเดินทาง อยู่ใกล้กับ MRT Taipei Main Station

2. LA FESTA ร้านตั้งอยู่ภายในโรงแรม Grand Victoria Taipei เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่เปิดโดยเชฟที่ได้รางวัล Michelin 1 ดาว ที่นี่ให้บริการเซ็ตอาหารกลางวันและอาหารเย็น นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารเป็นแบบ A LA CARTE ได้ด้วย เวลาเปิด-ปิด อาหารเช้า เวลา 06.30-10.00 น. (วันหยุด 06.30-10.30 น.), มื้อกลางวัน เวลา12.00-15.00 น. วันหยุด 11:30-15:00น.น อาหารว่างยามบ่าย เวลา15.00-17.00 น., มื้อเย็น เวลา 18.00-22.00 น. (วันหยุด 17.30-22.00น.) และมื้อดึก เวลา 22.00-00.00 น. การเดินทาง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานี Jiannan ทางออก 3

3. S.T.A.Y. By Yannick Alléno ร้านอาหารสุดหรูโดยเชฟมิชลิน 3 ดาว เมนูสไตล์ฝรั่งเศษ ที่คุณสามารถมาลิ้มลองรสชาติอันแสนละมุนนุ่มลิ้นโดยมีให้เลือกทั้งแบบ Course และ A la Carte อาหารในคอร์สจะมีทั้งหมด 10 รายการ ให้คุณได้ทานไปยิ้มไป เวลาเปิด-ปิด 12.00-15.00 น.,18.00-22.00น. การเดินทาง ชั้น 4 ตึก Taipei 101 รถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีแดง) ลงที่สถานี Taipei 101/World Trade Center Station

4. Yen Chinese Restaurant ร้านอาหารจีน สไตล์โมเดิร์นของเชฟมิชลิน มีบรรยากาศของวิวเมืองไทเปบนชั้น 31 “New Chinese Cuisine” หรือ “Nouvelle Chinese” ติ่มซำที่เป็นสุดยอดของความอร่อยไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบ,ฮะเก๋า,ซาลาเปา,เกี๊ยวซ่า ฯลฯ อีกหนึ่งในเมนูเด็ดนั่นก็คือ ข้าวต้มล็อปสเตอร์ (Deep Fried Rice Puff in Superior Braised Lobster Stock) และสำหรับเมนูแนะนำอื่นๆ คือ ซาลาเปาไส้หมูแดง (Baked Barbecue Pork Buns, Sugar Frost) แป้งสอดไส้หัวผักกาดสับละเอียดและชีสทอดกรอบ (Fried Turnip Shreds with Cheese) และเกี๊ยวซ่าไส้หมู (Pan Fried Pork Dumplings) เวลาเปิด-ปิด 11.30–14.30 น.,18.00- 22.00 น. (ทุกวัน) การเดินทาง ชั้น 31 ของโรงแรม W โดยตัวโรงแรม W ตั้งอยู่ทางขวามือของสถานีรถไฟใต้ดิน(สายสีน้ำเงิน) Taipei City Hall Station

ร้านอาหารทั้ง 4 ร้านนี้ เป็นร้านที่เราอยากแนะนำให้นักกินทั้งหลายได้ลิ้มลองรสชาติ อาหารทั้งสไตล์ฝรั่งเศษ จีน อิตาเลี่ยน ที่ได้รับรองความอร่อยเลิศระดับมิชลินสตาร์ ที่คุณไม่ควรพลาด

ตบท้ายด้วยของหวานต่างๆ หรือเครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยชื่นใจสักแก้ว เช่น ชานมไข่มุก ที่คัดสรรให้รสชาติจากชาต้นตำหรับชั้นดี ให้คุณได้เลือกดื่มกันได้ตามใจชอบตามร้านสตรีทฟู๊ด