สถาปัตยกรรมล้ำค่า ในทวีปยุโรป

ถ้าพูดถึงบนโลกนี้ หนึ่งทวีปที่คุณอยากไปเยือนสักครั้งคงหนีไม่พ้น “ทวีปยุโรป” ทวีปที่มีความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีต่างๆ และยังเป็นผู้นำแฟชั่นอันทันสมัยที่สุดในโลกก็ว่าได้ ถือว่าเป็นทวีปที่เป็นตั้งของหลายประเทศที่มีสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความล้ำค่าและสวยงามที่สุดระดับต้นๆ ของโลก ที่ยังคงหลงเหลือให้เราได้ชมกันอยู่กับ 10 ที่สุด ของสถาปัตยกรรม อยู่ทีเมืองไหนประเทศอะไรบ้าง ดังนี้

ประเทศอิตาลี มีสถาปัตยกรรม 6 สถานที่ ได้แก่ (สนามกีฬาโคลอสเซียม) (หอ
เอนปิซ่า) (นครรัฐวาติกัน) (วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม) (น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม) (บันไดสเปน กรุงโรม)

ประเทศฝรั่งเศษ มีสถาปัตยกรรม 3 สถานที่ ได้แก่ (พระราชวังแวร์ซายส์ กรุง
ปารีส) (หอไอเฟล กรุงปารีส) (พิพิธภัณฑ์ลูฟร์)

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสถาปัตยกรรม 1 สถานที่ ได้แก่ (ยอดเขายุงเฟรา)

1. สนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศ อิตาลี (Colosseum Italy,Rome)

สนามกีฬากลางแจ้งตั้งอยู่ที่กรุงโรมของประเทศอิตาลี 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬาในยุคอาณาจักรโรมันโบราณที่มีขนาดใหญ๋ก่อสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ปีค.ศ.72 ถึง 80 ที่สร้างรูปทรงมีลักษณะอาคารเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ ภายในบริเวณอาคารสามารถบรรจุคนนั่งดูได้ถึง 80,000 คน บริเวณใต้อัศจรรย์และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต รวมทั้งสิงโตหลายร้อยห้อง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ ก็อาจรอดชีวิตไป หรือไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเองยิ่งถ้าต่อสู้กัน และสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตายจะได้รับเกียรติอย่างสูง เพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมยกย่องกันมาก ซึ่งในทุกๆปีหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน

2. หอเอนเมืองปิซ่า ( Leaning Tower of Pisa , Italy )

หอเอนแห่งเมืองปิซ่า เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน ลักษณะรูปทรงมีความพิศดาร สูงถึง 54 เมตร. หรือ 181 ฟุต มีทั้งหมด 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตรรองรับ ได้ลงมือสร้างเมื่อ (ค.ศ.1174) ไปเสร็จในปี (ค.ศ.1350) ใช้เวานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ความน่ามหัศจรรย์อีกอย่าง คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียงแต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมาเพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วงเมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มและยังทรงตัวอยู่ได้เมื่อสร้างเสร็จ ส่วนยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร หรือ 14 ฟุต

3. นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City)

นครรัฐวาติกันและอิตาลี ได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราช มีอำนาจอธิปไตยของตนเองตั้งแต่ พ.ศ. 2503 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดน ที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ (International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict) เนื่องจากเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมของโลก มีหอสมุดอันเก่าแก่ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 (the Apostolic Library of the Vatican) ทำให้นครรัฐวาติกันจึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก และนักท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปส่วนใหญ่ต้องมาเที่ยวที่ประเทศนี้ เพราะเป็นประเทศที่เล็กและสวยงามมาก

4. วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม ( Basilica of Saint Peter )

วิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระมหาวิหารนักบุญเปโตร เป็นมหาวิหารเอกหนึ่งในสี่แห่งในกรุงโรม นครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารสูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม โบสถ์นี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่ตั้งโบสถ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของนักบุญซีโมนเปโตร ซึ่งเป็นหนึ่งในอัครทูตของพระเยซู คริสตจักรถือว่านักบุญเปโตรเป็นบิชอปองค์แรกของแอนติออก ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม เพราะนิกายโรมันคาทอลิกเชื่อกันว่าร่างของนักบุญเปโตรถูกฝังไว้ที่นี่ จึงเป็นประเพณีกันต่อมาว่าพระสันตะปาปาหลายองค์ก็ฝังไว้ที่นี้

5. น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ( Trevi Fountain )

น้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เขตเทรวี่ในกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) ความกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม ในสมัยบาโรกก็มีการแข่งขันออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ กัน มีการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1732 และเสร็จในปี ค.ศ. 1762 นานหลังจากพระสันตะปาปาคลีเมนต์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เมื่อประติมากรรมโอเชียนัส (เทพเจ้าแห่งน้ำ) มีปิเอโตร บรัคชิ (Pietro Bracci) ได้รับการติดตั้งในช่องกลางน้ำพุ

6. บันไดสเปน กรุงโรม (Scalinata della Trinità dei Monti )

บันไดสเปนในกรุงโรมของประเทศอิตาลี เป็นบันไดที่กว้างที่สุด และยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ฟรันเชสโก เด ซังค์ติส (Francesco de Sanctis) กับอาเลสซันโดร สเปคคี (Alessandro Specchi) สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1723-1725 ด้วยเงินจากกองทุนมรดกของนักการทูตฝรั่งเศส เอเตียน เกฟีเย (Étienne Gueffier) ลานด้านหน้าบันไดสเปน กลางลานมีฟอนตานาเดลลาบาร์คัชชา น้ำพุแบบอย่างบาโรกยุคต้นรูปทรงเรือโบราณตั้งโดดเด่น สร้างขึ้นในปี 1627-1629 ผลงานของนักประติมากรชื่อดัง ปีเยโตร แบร์นีนี บิดาของ จัน โลเรโซ แบร์นี่นี่ ประติมากร และสถาปนิกบาโรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งกว่าผู้พ่อ ตามตำนานว่า พระสันตะปาปาอูร์บาโนที่ 8 มีดำริให้สร้างจำลองจากเรือที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำไทเบอร์ตอนน้ำท่วม

ที่มุมขวาของเชิงบันได จะเห็นอาคารที่เคยเป็นสถานที่พำนักอาศัยของจอห์น คีตส์ กวีชาวอังกฤษ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1821 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Keats-Shelley Memorial House เพื่อรำลึกถึงคีตส์และเพอร์ซี บิช เชลลี และยังเป็นหอจดหมายเหตุรวบรวมผลงานสำคัญ รวมทั้งต้นฉบับและงานเขียนของกวีในยุคโรแมนติกอีกหลายท่าน

7. พระราชวังแวร์ซายส์ กรุงปารีส ( Versailles Palace)

เป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซาย แวร์ซายเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรฝรั่งเศสโดยพฤตินัยเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ นับจาก ค.ศ. 1682 ถึง 1789 โดยปัจจุบันนี้เมืองแวร์ซายได้เป็นชานเมืองที่ร่ำรวยของกรุงปารีสและยังคงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองเป็นตุลาการที่สำคัญ เมืองแวร์ซายตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของกรุงปารีสห่างจากใจกลางเมืองมา 17.1 กิโลเมตร โดยสภาเมืองแวร์ซายมีหน้าที่ปกครองส่วนอีฟลินส์ จากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2008 ที่ผ่านมา เมืองแวร์ซายมีประชากรทั้งสิ้น 88,641 คน ลดลงจากที่เคยมีมากที่สุกถึง 94,145 คนในปี ค.ศ.1975

8. หอไอเฟล กรุงปารีส ( Eiffel )

หอไอเฟล เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 (Exposition universelle de Paris de 1889) เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม หอคอยสูงงดงามแห่งนี้เป็นดาวเด่นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน หอไอเฟลกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสและใน ค.ศ. 2006 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 8

9. พิพิธภัณฑ์ลูฟ ( louvre museum )

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือมูว์เซดูลูฟวร์ มีชื่อทางการว่าthe Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศษ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีรูปทรงลักษณะเป็นพีระมิดแก้วออกแบบโดยไอ.เอ็ม.เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปีค.ศ.1988 เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดินที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด และต่อมาได้มีการวางโครงการขึ้นอีก คือ พีระมิดกลับหัวซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกันที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดินโดยฐานพีระมิดที่อยู่บนพื้นผิวระดับถนน โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1993

10. ยอดเขายจงเฟรา ( jungfrau )

ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตร ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007

ทวีปยุโรป ยังมีอีกหลายประเทศที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันล้ำค่า ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมรดกของโลกอันทรงคุณค่า ที่มีความปราณีตสวยงาม และยังคงเหลือไว้ให้ชื่นชมนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลก ในปัจจุบันมีนักท่องให้ความสนใจ และออกเดินทางมาท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปกันเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่อื่นๆอีกมากมายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มาเยือน

สัมผัสบ่อแช่เท้าใกล้ๆ ในกรุงไทเป ไต้หวัน

ในประเทศไต้หวันนั้น เต็มไปด้วยอุทยาน ป่าไม้เขียวขจี รายล้อมด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีสภาพแวดล้อมมีทิวทัศน์และธรรมชาติสวยงาม ให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายเลือกไปผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou) ในกรุงไทเป ที่ว่ากันว่า น้ำพุร้อนที่นี่ มี 3 แบบ ด้วยกัน คือ แบบที่มีกำมะถันเขียวๆหน่อย แบบที่มีกำมะถันสีขาว และสุดท้ายแบบโปร่งใสเลย ซึ่งคุณสมบัติทางด้านสุขภาพก็จะต่างกันไปนั่นเอง

ย่าน ซิน เป่ยโถว (Xin-Beitou) เป็นย่านเมืองใหม่ของเป่ยโถวที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่แค่นอกเมืองไทเปเท่านั้น ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมของชาวไทเป บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยรีสอร์ท และสปาทั้งหลากหลายแบบตั้งแต่แบบบ้านๆไปจนถึงแบบหรูหรา มีทั้งห้องอาบน้ำสาธารณะ บ่อแช่เท้า ร้านน้ำชา คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ

เมืองซินเป่ยโถวเพิ่งถูกสร้างขึ้นในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายในใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นเท่านั้น ช่วงประมาณ ปี ค.ศ.1900 ทำให้ในเมืองนี้จะมีบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่มากมาย เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นคลั่งไคล้ในการแช่ออนเซนหรือบ่อน้ำร้อนกันขนาดไหน ในทุกวันนี้คนไต้หวันหรือนักท่องเที่ยว จากทุกสารทิศในโลก ก็นิยมมาบ่อน้ำพุร้อนในกรุงไทเปกันแบบไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของย่านซินเป่ยโถวมีอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
สวน Qixing Park , ศูนย์วัฒนธรรมไข่ตาเก๋อหลาน (Ketagalan Cultural Center), ห้องสมุดสาธารณะไทเปประจำเมืองเป่ยโถว (Taipei Public Library), พิพิธภัณท์บ่อน้ำแร่เป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum) ห้วยนรก หรือ Themal Valley บ่ออาบน้ำสาธารณะ Millennium Hot Spring

สำหรับโรงอาบน้ำสาธารณะในย่านซินเป่ยโถวนั้นมีให้บริการอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีกฏระเบียบแตกต่างกันไปบางแห่งจะเป็นแบบเปลือยกายแยกบ่อสำหรับผู้ชายและผู้หญิงแต่บางที่ก็เป็นแบบใส่ชุดว่ายน้ำแช่รวมกันส่วนใหญ่จะเป็นแบบกลางแจ้ง หรือสามารถจองห้องพักของโรงแรมที่สามารถจองเวลาใช้งานได้แบบส่วนตัวเลยก็ได้ซึ่งจะมีทั้งแบบให้บริการเป็นรายชั่วโมงและแบบที่ต้องค้างคืนถึงจะใช้บริการได้ ซึ่งแบ่ง โปรแกรมบ่อน้ำพุร้อนออกเป็น 3 โปรแกรม ดังนี้

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 1– เขตบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่มือที่สวนสาธารณะชีซิง

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 2– น้ำพุผิวกระจกที่สวนสาธารณะเป่ยโถว

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 3– แช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งที่เป่ยโถว

ที่มา : travel.taipei

เอกสารขอวีซ่า วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวัน

ในส่วนของประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ จากภาครัฐผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและสายการบินต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปไต้หวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติเดือนมกราคม ปี 2562 พบว่า มีนักท่องเที่ยวไทย จำนวน 140,925 คนเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% โดยในปี 2562 เดือนมกราคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 27,164 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.44% เดือนกุมภาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 28,829 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.66% เดือนมีนาคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,649 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26% และในเดือนเมษายน มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,283 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.92%

จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างชัดเจน จากการที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวสนับสนุนอย่างเต็มที่นั้น ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยนั้นยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ประกาศขยายยกเว้นการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม 2562 – 31 กรกฎาคม 2563 นั้น คงเป็นที่ทราบกันดีแล้ว

วันนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ในการเดินทางเข้าไต้หวัน (กรณียกเว้นวีซ่า) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เราควรเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จะยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้มั่นใจว่าเราจะเดินทางออกจากไต้หวันเมื่อครบกำหนดเวลา มีการงานที่มั่นคงเชื่อถือได้ และสิ่งสำคัญที่คุณต้องเตรียมในการเดินทางเข้าไต้หวัน มีดังนี้

หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หรือตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 (กรณีที่ไม่ได้กลับประเทศไทย)

ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเมือง
ใบจองโรงแรม/ที่พัก หรือข้อมูลที่อยู่ของคนที่เราไปพักอาศัยด้วย
เอกสารทางการเงิน เช่น เงินสด บัตรเครดิต และหนังสือรับรองทางการเงิน เป็นต้น

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบออนไลน์ (กรณียกเว้นวีซ่า)

 

วิธีกรอกใบขาเข้ามี 2 แบบ คือ

กรอกใบขาเข้า ( Arrival Card ) แบบออนไลน์ (ล่วงหน้า 30 วันก่อนเดินทาง) คุณสามารถ

เข้าไปกรอกข้อมูลออนไลน์ได้ที่ http://oa1.immigration.gov.tw/nia_acard/acardAddAction.action

กรอกใบขาเข้า แบบในกระดาษ (พนักงานจะแจกให้ก่อนขึ้นเครื่อง)

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบกระดาษ (กรณียกเว้นวีซ่า)

ดังนั้น หากคุณเคยคิดว่าการท่องเที่ยวไปประเทศไต้หวันนั้นยุ่งยาก วันนี้คุณไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไป เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารให้ครบตามขั้นตอนที่เราแนะนำเพียงแค่เท่านี้ คุณก็เตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยวในไต้หวันให้เพลิดเพลินกันได้เลย

เครดิตข้อมูล : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2674304

สภาพอากาศ ที่เที่ยวที่กิน ไต้หวัน

ก่อนที่เราจะเดินทางไปทัวร์ประเทศไต้หวัน เราควรหาข้อมูลสภาพอากาศในช่วงที่เราออกเดินทางให้ดีว่าสถานที่นั้นเหมาะสมแก่การไปเที่ยวหรือไม่ เพราะหากสภาพอากาศไม่ดีนั่นก็รวมไปถึงมีผลต่อการชมทัศนียภาพ ของสภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นๆ อาจจะไม่ดีไม่เหมาะแก่การออกทริป ดังนั้นก่อนออกทริปแต่ละครั้งควรตรวจสอบให้แน่ชัด คุณจะได้ไม่ผิดหวังกลับมา

สมัยก่อนคนไต้หวันจะพูดกันแต่ภาษาจีนกลาง หรือเรียวกอีกอย่างว่า ภาษาฮกเกี้ยน แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไปการสื่อสารของคนไต้หวัน เริ่มมีความนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันมากขึ้น คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ

สภาพอากาศไต้หวัน (หลากฤดูตลอดทั้งปี)

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) : ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมธรรมชาติ อุณหภูมิอยู่ที่ ประมาณ 17-27 องศาเชียลเชียส
  • ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – กันยายน) : สภาพอากาศช่วงนี้ค่อนข้างร้อน อาจเกิดพายุ ฝนตกในบางช่วง
  • ฤดูใบไม้ร่วง ( ตุลาคม – ธันวาคม) : ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็น โปร่ง อาจมีฝนตกบ้าง เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสี
  • ฤดูหนาว (มกราคม-กุมภาพันธ์) : อากาศค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิ 14 องศาเชลเชียล

จัดเต็มรวมแหล่งช้อปปิ้งจากทั่วโลก ขาช้อปทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นสวรรค์ของนักช็อปต้องยกให้ไต้หวันด้วยความที่ค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งมีโปรโมชั่นถึงใจ ของคุณภาพดี ไม่นิยมของปลอม นำเข้าแบรนด์ดังๆจากทุกมุมโลก

แหล่งช้อปปิ้งไต้หวันที่ขาช้อปห้ามพลาด ดังนี้

  • Ximending ซีเหมินติง
  • Gongguan ตลาดกงกวน
  • Wufenpu อู่เฟินผู่
  • Guang Hua Digital Plaza กวงหัว ดิจิตอลพลาซ่า
  • Camera street คาเมร่า สตรีท
  • Taipei City Mall ไทเป ซิตี้มอลล์
  • MITSUI OUTLET PARK LINKOU ห้างเอาท์เล็ทหลินโค่วซานจิ่ง
  • Fengchia night market ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย,ไถจง

ดังนั้น คุณที่เป็นขานักช้อปทั้งหลาย ไม่ควรพลาดที่จะไปจับจ่ายซื้อสินค้าในประเทศไต้หวัน ซึ่งมีสินค้าจากแบรนด์ดัง ไอเท็มโดนๆ ที่คุณต้องอยากจับจองหาซื้อไว้มาครอบครองแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นนักช้อปชาวไทยคงไม่พลาดจองตั๋วมาแน่นอนเพราะเดินทางง่ายโดยไม่ต้องใช้วีซ่า

แหล่งสรรค์ของคนชอบกิน

ถ้าพูดถึงอาหารยอดนิยมในตอนนี้เราคงนึกถึงอะไรปิ้ง ๆ ย่างๆ กันในไต้หวันถือว่ามีร้านเด็ดดังๆอยู่หลายร้านที่ตั้งอยู่ในห้าง หรือตลาดกลางคืนก็จะมีร้านอาหารให้คุณได้เลือกหารับประทานกันตามใจได้เลย อาทิเช่น

1.Tim Ho Wan Taipei Main Station ร้านติ่มซำ ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ แต่ราคาถูกมาก เมนูเด็ดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ซาลาเปาหมูแดง (Baked Bun with BBQ Pork) อีกเมนูคือเกี๊ยวทอดไส้กุ้ง ราดด้วยซอสวาซาบิมาโย (Wasabi Salad Prawn Dumpling) มีโจ๊กฮ่องเต้ก๋วยเตี๋ยวแกงกะหรี่ เวลาเปิด-ปิด 10.00-22.00 น.(ทุกวัน) การเดินทาง อยู่ใกล้กับ MRT Taipei Main Station

2. LA FESTA ร้านตั้งอยู่ภายในโรงแรม Grand Victoria Taipei เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่เปิดโดยเชฟที่ได้รางวัล Michelin 1 ดาว ที่นี่ให้บริการเซ็ตอาหารกลางวันและอาหารเย็น นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารเป็นแบบ A LA CARTE ได้ด้วย เวลาเปิด-ปิด อาหารเช้า เวลา 06.30-10.00 น. (วันหยุด 06.30-10.30 น.), มื้อกลางวัน เวลา12.00-15.00 น. วันหยุด 11:30-15:00น.น อาหารว่างยามบ่าย เวลา15.00-17.00 น., มื้อเย็น เวลา 18.00-22.00 น. (วันหยุด 17.30-22.00น.) และมื้อดึก เวลา 22.00-00.00 น. การเดินทาง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานี Jiannan ทางออก 3

3. S.T.A.Y. By Yannick Alléno ร้านอาหารสุดหรูโดยเชฟมิชลิน 3 ดาว เมนูสไตล์ฝรั่งเศษ ที่คุณสามารถมาลิ้มลองรสชาติอันแสนละมุนนุ่มลิ้นโดยมีให้เลือกทั้งแบบ Course และ A la Carte อาหารในคอร์สจะมีทั้งหมด 10 รายการ ให้คุณได้ทานไปยิ้มไป เวลาเปิด-ปิด 12.00-15.00 น.,18.00-22.00น. การเดินทาง ชั้น 4 ตึก Taipei 101 รถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีแดง) ลงที่สถานี Taipei 101/World Trade Center Station

4. Yen Chinese Restaurant ร้านอาหารจีน สไตล์โมเดิร์นของเชฟมิชลิน มีบรรยากาศของวิวเมืองไทเปบนชั้น 31 “New Chinese Cuisine” หรือ “Nouvelle Chinese” ติ่มซำที่เป็นสุดยอดของความอร่อยไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบ,ฮะเก๋า,ซาลาเปา,เกี๊ยวซ่า ฯลฯ อีกหนึ่งในเมนูเด็ดนั่นก็คือ ข้าวต้มล็อปสเตอร์ (Deep Fried Rice Puff in Superior Braised Lobster Stock) และสำหรับเมนูแนะนำอื่นๆ คือ ซาลาเปาไส้หมูแดง (Baked Barbecue Pork Buns, Sugar Frost) แป้งสอดไส้หัวผักกาดสับละเอียดและชีสทอดกรอบ (Fried Turnip Shreds with Cheese) และเกี๊ยวซ่าไส้หมู (Pan Fried Pork Dumplings) เวลาเปิด-ปิด 11.30–14.30 น.,18.00- 22.00 น. (ทุกวัน) การเดินทาง ชั้น 31 ของโรงแรม W โดยตัวโรงแรม W ตั้งอยู่ทางขวามือของสถานีรถไฟใต้ดิน(สายสีน้ำเงิน) Taipei City Hall Station

ร้านอาหารทั้ง 4 ร้านนี้ เป็นร้านที่เราอยากแนะนำให้นักกินทั้งหลายได้ลิ้มลองรสชาติ อาหารทั้งสไตล์ฝรั่งเศษ จีน อิตาเลี่ยน ที่ได้รับรองความอร่อยเลิศระดับมิชลินสตาร์ ที่คุณไม่ควรพลาด

ตบท้ายด้วยของหวานต่างๆ หรือเครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยชื่นใจสักแก้ว เช่น ชานมไข่มุก ที่คัดสรรให้รสชาติจากชาต้นตำหรับชั้นดี ให้คุณได้เลือกดื่มกันได้ตามใจชอบตามร้านสตรีทฟู๊ด

 

 

 

สายการบินไปไต้หวัน และราคาตั๋วเครื่องบิน

(การเดินทางสายการบินจาก กรุงเทพฯ /เชียงใหม่ – ไต้หวัน)

from bangkok to taiwan

ในปัจจุบันให้บริการใช้งานทั้งหมด 2 เทอมินัล (Terminal) เส้นทางบินตรงไปทัวร์ไต้หวัน จาก (กรุงเทพฯ – ไทเป) ไปลงเทอมินัลต่างๆ ดังนี้

  • Terminal 1 : สายการบินไทย (Thai Airways:TG) / สายการบินไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines) / สายการบินนกสกู๊ต (NokScoot : XW) / สายการบินไทเกอร์แอร์ไต้หวัน (TigerAir Taiwan : IT)
  • Terminal 2 : สายการบินอีวีเอแอร์ (EVA Air : BR)

สายการบินเวียตเจ็ต รุดขยายเครือข่ายสู่เมืองแห่งชาไข่มุกของเอเชีย เปิดเส้นทางบินตรงเชื่อมดานัง เมืองชายทะเลทางภาคกลางของเวียดนาม สู่เมืองไทเปในไต้หวัน เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล “สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019)

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทถือเป็นสายการบินที่มีเส้นทางเชื่อมเวียดนามสู่ไต้หวันมากที่สุดถึง 8 เส้นทางและมีบริการ 20 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เป็นสายการบินยอดนิยมของผู้บริโภค ทั้งนี้เนื่องจากมีตารางเที่ยวบินที่สะดวกสบายบริการระดับคุณภาพ และบัตรโดยสารราคาประหยัด ชวนนักเดินทางให้มาสัมผัสประเทศไต้หวัน ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปสีสันธรรมชาติที่สวยงามมีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เมนูอาหารที่หลากหลายและค่าครองชีพที่ทุกคนสามารถเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันได้อย่างสบายกระเป๋า

เที่ยวบินดานัง-ไทเป จะให้บริการทุกวันด้วยเครื่องบินลำใหม่ที่ทันสมัยรุ่น A320 และ A321 ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปออกเดินทางจากดานังเวลา 10.50 น. ถึงไทเปเวลา 14.30 น. เที่ยวบินขากลับออกเดินทางจากไทเป 15.30 น. กลับถึงดานังเวลา 17.30 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยใช้เวลาบินเที่ยวละ 3 ชั่วโมง

ผู้โดยสารมากกว่า 3,000 คน สามารถเดินทางอย่างสะดวกสบายระหว่างเมืองฮานอย ดานัง โฮจิมินห์สู่เมืองสำคัญในไต้หวันอย่าง ไทเป ไทจง เกาสง และไถหนาน บนเครือข่ายการบินที่ครอบคลุม ตารางเที่ยวบินที่สะดวกสบายและบัตรโดยสารราคาประหยัดของเรา นอกจากนี้ การเดินทางเที่ยวไต้หวันและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคจะยิ่งมีความสะดวกสบาย และคุ้มค่ามากขึ้น ด้วยการจองบัตรโดยสารราคาโปรโมชั่น

สายการบินที่มีให้บริการไปไต้หวันแบบ Direct Flight มีดังตารางด้านล่างนี้

Airline CompanyPrice
China Airlines12,000-16,000 บาท
Thai Airways11,000-18,000 บาท
Eva Air12,000-18,000 บาท
TransAsia(ยกเลิกเที่ยวบิน)

สายการบิน EVA Air

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน EVA Air)

สายการบิน China Airlines

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน China Airlines)

BKK-TPE (บินทุกวัน)เวลา
CI 06608.30-12.55
CI 834 11.10-15.40
CI 836 17.50-22.25
BKK-KHN (บินทุกวัน)เวลา
CI 84018.40-23.00
BKK-KHN (บินทุกวัน)เวลา
CI 83307.15-10.05
CI 83513.44-16.45
CI 06521.55-00.45+1
 

KHH-BKK (บินทุกวัน)

เวลา

CI 839 15.05-17.45

สายการบิน Thai Airways

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน Thai Airways)

(สายการบิน Budget Airlines)

โดยตอนนี้มี 2 สายการบินด้วยกันนะคะ ทั้งสองสายขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ

Tiger Air Taiwan และ V AIR : ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,XXX – 9,XXX บาท.

สายการบิน Tiger Air

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน Tiger Air)

ที่มาจาก : https://www.flymetotaiwan.com

สายการบิน อีวีเอแอร์ (EVA Air : BR)

สายการบิน Full Service สัญชาติไต้หวัน และเป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ที่ได้รับรางวัลหนี่งในสิบสายการบินที่ดีที่สุดในโลก TOP TEN AIRLINES OF 2016 จาก SKYTRAX ที่ได้รับการจัดอันดับโดยการโหวตของผู้โดยสารทั่วโลก

การเดินทาง : Direct Flight / 3 ชม. 40 นาที

ประเภทเครื่อง : Airbus A330 – 200

รูปแบบที่นั่ง : Economy 2 – 4 – 2 (สามารถเลือกที่นั่งได้)

การโหลดสัมภาระ : น้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 kg.

การบริการ : เสิร์ฟอาหารพร้อมเครื่องดื่ม Full Options (สามารถเลือกอาหารก่อนเดินทางได้)

(ข้อมูลรูปภาพเพิ่มเติมจาก)

http://tatarpornprapa.blogspot.com/2017/08/2017-taiwan-trip-9-part-1-eva-air.html

เที่ยวไต้หวัน ไทเปด้วยบัตร Taipei Pass

ถ้าพูดถึงการทัวร์ท่องเที่ยวที่ไต้หวัน เราคงต้องคำนึงถึงการเดินทางก่อน ว่าจะใช้วิธีการเดินทางรูปแบบไหน ขึ้นเครื่องบิน นั่งรถ นั่งเรือ หรือนั่งรถไฟ รวมถึงต้องคิดถึงเรื่องระยะทางใกล้หรือไกลแค่ไหน ใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่และจะถึงที่หมายกี่โมง และวิธีการการเดินทางที่เราคิดว่าสะดวก และรวดเร็วที่สุดในไต้หวัน นั่นคือ นั่งรถไฟ

วันนี้ มีรูปแบบบัตรที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทางมากขึ้น เดินทางไปเที่ยวก็พกแค่บัตรเดียวใช้เดินทางขึ้นรถไฟไปกลับได้ไทเป ไต้หวัน อย่างสะดวกสบายแถมใช้งานง่ายๆ นั่นคือ บัตร Taipei Pass สามารถใช้บริการรถไฟ ทั้งใต้ดินและบนดิน รวมถึงระบบรถบัสต่างๆที่ทันสมัย บัตรใบนี้จะยิ่งช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกและประหยัดขึ้น เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่เราเลือกซื้อ ในการท่องเที่ยวในไทเป ไต้หวัน และเขตปริมลฑล(นิวไทเป) อย่างเช่น รถไฟใต้ดิน และรถประจำทาง ทำให้สะดวกและประหยัดกว่าการซื้อทีละครั้ง

บัตร Taipei Pass คือ เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่เราเลือกซื้อมีให้เลือกตั้งแต่ 1-5 วัน เป็นบัตรที่ทำให้การเดินทางใน ไทเป ประเทศไต้หวัน ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่วางแผนเที่ยวในพื้นที่เมืองไทเป และเที่ยวไปรอบๆเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นคนที่ใช้บริการสาธารณะเดินทางขึ้นลงรถไฟหลายๆ ครั้งต่อวัน

ประเภทของ บัตร Taipei Pass มีดังนี้

บัตรแบบ 1 วัน : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 1 วัน
บัตรแบบ 1 วัน (Gondola version) : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 1 วัน และขึ้นกระเช้า Maokong Gondola ใน 1 วันได้ไม่เกิน 3 เที่ยว
บัตรแบบ 2 วัน : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 2 วัน
บัตรแบบ 3 วัน :สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 3 วัน
บัตรแบบ 5 วัน: สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 5 วัน

บัตร Taipei Pass ทำอะไรได้บ้าง การใช้งานบัตรนี้สามารถใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินทั่วไทเปและรถประจำทางทุกสายที่มีสัญลักษณ์ Taipei Pass (รถประจำทาง Taiwan Tourist Shuttle สามารถใช้ได้ตามเส้นทางต่อไปนี้ คือ Beitou Zhuzihu, Muzha Pingxi, Crown Northern Coastline และ Gold Fulong)

วิธีการใช้งาน บัตร Taipei Pass

สามารถใช้งานบัตรในในทุกที่ที่มีสัญลักษณ์บัตรของ Taipei Pass เพียงแตะที่จุดเซ็นเซอร์
จะมีผลบังคับใช้ในวันแรกของการใช้งานและบัตรจะหมดอายุลงในเวลาเที่ยงคืนตามจำนวนวันที่กำหนดไว้

ไม่สามารถเติมเงินในบัตรได้ หากบัตรชำรุดไม่สามารถส่งคืนเพื่อขอรับคืนเงินได้
หากบัตรยังไม่ผ่านการใช้งานหรืออยู่ในหีบห่อเดิมสามารถส่งคืนเงินได้ภายใน 7 วัน ที่สถานีรถไฟใต้ดินของไทเปในช่วงเวลาเปิดทำการ โดยมีการคิดค่าบริการ NT $ 20 สำหรับการดำเนินการคืนเงิน

ห้ามดัด ทำรอย ขีดข่วน ตัดบัตร หรือโดนความร้อน ขณะที่ใช้งานบัตรไม่ควรวางไว้ข้างวัตถุโลหะ หากนำบัตรไปสแกนเป็นเวลานานหรือสั้นเกินไป อาจทำให้บัตรเกิดความผิดปกติได้ หากมีปัญหาบัตรไม่ทำงานควรเอาบัตรออกจากบริเวณเซ็นเซอร์รอสักครู่แล้วจึงสแกนใหม่
หากเอาบัตรใส่ไว้ในกระเป๋า ถุง หรือกระเป๋าเงิน ไม่ควรมีความหนาเกิน 5 ซม. เพราะจะทำให้แสกนไม่ผ่านได้

ราคาบัตร Taipei Pass

บัตรแบบ 1 วัน: ราคา NT$ 180
บัตรแบบ 1 วัน (Gondola version): ราคา NT$ 350
บัตรแบบ 2 วัน: ราคา NT$ 310
บัตรแบบ 3 วัน: ราคา NT$ 440
บัตรแบบ 5 วัน: ราคา NT$ 700

สถานที่ซื้อบัตร Taipei Pass

Information Counter ที่สถานีรถไฟใต้ดินในไทเป
Easy Card Service Center ที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taipei Main Station

วิธีการคืนเงิน (Refund) บัตร Taipei Pass

การคืนเงินสามารถขอรับเงินคืนได้ในกรณีที่บัตรไม่เคยถูกใช้งานที่ Information Counter ในสถานีรถไฟใต้ดินของไทเป และ Easy Card Service Center

หากบัตรเกิดการชำรุด แตกหัก โดนความร้อนจนเกิดความเสียหายจะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้ บัตรใหม่ที่ได้รับจากการเปลี่ยนเนื่องจากมีปัญหาไม่สามารถส่งคืนเพื่อขอรับเงินคืน

วิธีการเดินทางในไต้หวัน

เวลาของประเทศไต้หวันจะเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 1 ช.ม. จากสถามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม 50 นาที เมื่อมาถึงสนามบิน เราก็จะเจอเค้าท์เตอร์ ที่สามารถซื้อ Easy Card ได้เลย แบบธรรรมดา 100 บาท ถ้าเป็นลายการ์ตูนก็จะ 150 บาท

เมื่อได้บัตรมาเราจะต้องเติมเงินเพื่อใช้ในการเดินทางในไต้หวัน และสามารถแลกคืนได้เฉพาะเงินที่เหลือจากการเติมเข้าไปเท่านั้น ในการเดินทางทัวร์ไต้หวันเราสามารถใช้ Easy Card ขึ้น MRT และรถบัส แถมยังใช้ซื้อของใน 7-11 ใน มินิมาร์ท แฟมิลี่มาร์ท หากเงินหมด เราสามารถเติมเงินตามจุดต่างๆได้

หากเราจะขึ้นรถไฟ MRT แนะนำให้ขึ้นสายสีม่วง Express จะได้ไม่ต้องจอดหลายสถานี ราคาคนละ 168 NTD สถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน (HSR Taoyuan) สามารถเดินทางไป เจียอี้ (Chiayi) ไถหนัน (Tainan) และเกาสง (Kaohsiung) ได้ด้วย หลังจากที่เรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานบินเถาหยวน ไป Taipei Main Station เมื่อมาถึงแล้ว Taipei Main Station จะมีทางออก Z คือทางหน้าสถานนี ส่วนทาง Y คือทางหลังสถานี

หากใครจะเดินทางด้วยรถแท็กซี่ เขามีบริการแบบเหมาทั้งวัน ราคาอยู่ที่ 4000 NTD ราคานี้รวมคนขับ และน้ำมันด้วย แต่ต้องแจ้งก่อนว่าจะไปที่ไหนบ้าง และทำการจอง ในกรณีที่เกิน 8 ชม. จะคิดเพิ่มเป็นรายชั่วโมง คนขับจะสามารถพูดภาษาไทย และภาษาอังกฤษได้ หากใครสนใจสามารถใช้บริการได้ที่ Facebook Gr-Teeteam รถนำเที่ยวไต้หวัน และมีบริการรถรับส่งสนามบิน

การเดินทางไปยังเมืองต่างๆ

Taoyuan Airport → Taipei
1. รถบัส มีรถบัสเข้าเมืองให้บริการ
เวลาที่ให้บริการ : ตลอด24ชั่วโมง
เวลาเดินทาง 45-60 นาที ค่าโดยสาร NT$125

2. รถไฟฟ้า Toayuan Airport MRT
เวลาที่ให้บริการ : 06.00-23.00 น.
ระยะเวลาเดินทาง 35-50 นาที ค่าโดยสาร NT$160

3. รถบัส / รถไฟฟ้าต่อรถไฟความเร็วสูง
UBus#705 เวลาเดินทาง 25 นาที ค่าโดยสาร NT$30 → สถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taoyuan → HSR Taipei เวลาเดินทาง 20 นาที ค่าโดยสาร NT$160

4. รถบัสต่อรถไฟธรรมดา
UBus#706 เวลาเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสาร NT$36 → สถานีรถไฟ TRA Taoyuan → TRA Taipei เวลาเดินทาง 37 นาที ค่าโดยสาร NT$66

5. แท็กซี่
เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร NT$900-1,500

Taoyuan Airport → Taichung
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปที่เมืองไถจง / Sun Moon Lake / Cingjing Farm / Xitou Monster Village
1. รถบัส มีรถบัสวิ่งตรงจากสนามบินเถาหยวนไปยังเมืองไถจง
เวลาเดินทาง 130 นาที ค่าโดยสาร NT$240
2. รถบัส / รถไฟฟ้าต่อรถไฟความเร็วสูง
UBus#705 เวลาเดินทาง 25 นาที ค่าโดยสาร NT$30 → สถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taoyuan → HSR Taichung เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร NT$540
3. รถบัสต่อรถไฟธรรมดา
UBus#706 เวลาเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสาร NT$36 → สถานีรถไฟ TRA Taoyuan → TRA Taichung เวลาเดินทาง 104 นาที ค่าโดยสาร NT$308

ตรวจสอบตารางเวลาการเดินทาง
สนามบินเถาหยวน : http://www.taoyuan-airport.com/english/Buses/
รถไฟความเร็วสูง : https://www.thsrc.com.tw/index_en.html?force=1
รถไฟธรรมดา : http://www.railway.gov.tw/en/index.aspx
Taichung → Sun Moon Lake : http://www.ntbus.com.tw/en-sml.html
Taichung → Cingjing Farm : http://www.ntbus.com.tw/en-cjfm.html
Taichung → Xitou : http://www.ntbus.com.tw/en-xitou.html
Chiayi → Alishan : http://www.lauya.com/pdf/BusSchedule.pdf

ขอบคุณแหล่งที่มาจากและรูปภาพ ช่องยูทูป คุณนายตื่นสาย และ FB: 1000MilesJourney

แหล่งเที่ยวฮิตติด Top 10 ของไต้หวัน ในปี 2020

1.ตึกไทเป 101 (Taipei 101) : ตึกสูงระฟ้าสถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นอันโดดเด่น

ที่มีรูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมเรียงซ้อนกัน และเป็นแลนด์มาร์กประจำย่านซินยี่ (Xinyi District) ที่เริ่มสร้างขึ้นในปี 1999 เสร็จสมบูรณ์ในปี 2004 มีทั้งหมด 101 ชั้น ถือเป็นตึกที่สุดที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง และยังมีลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกสามารถพาคุณโดยสารขึ้นไป ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 กม.ต่อชั่วโมง หากคุณได้ลองขึ้นไปสัมผัสบนลานชมวิวของตึกนี้ คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ได้รอบๆแบบ 360 องศาของไต้หวันในบรรยากาศอันแสนสวยงามกันแบบ Exclusive ที่ชวนให้คุณหลงใหลกับสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าได้ตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว บริเวณรอบตึกไทเป 101 ก็ยังมีร้านค้าร้านอาหารอีกมากมายหลากหลายร้านให้คุณได้เลือกชิมเลือกช้อปเพลินเพลินสนุกสนานกันเลย

 

2.ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ฮัวซาน 1914 สถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะที่นำเอาชิ้นงานเก่ามาจัดแสดงผลงานงานที่มาจากความคิดสร้งสรรค์ที่สมัยผสมสผานแนวความคิดใหม่ๆ เป็นสถานที่ที่เหล่าฮิปสเตอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบรักงานศิลปะ หรือชอบสิ่งใหม่ๆผลงานแปลกๆก็จะมาที่นี่ ถือเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนทุกวัย ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ ฮว่าซาน (Huashan 1914 Creative Park) มีเวลาเปิด-ปิด 09:30-21:00 น. การเดินทางสะดวกโดยรถไฟใต้ MRT สายสีน้ำเงิน สถานี Zhongxiao Xingsheng ทางออกช่องที่ 1 เดินประมาณ 3 นาที

3. หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Village) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ร่ำรวยมีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าเข้าหาทะเล และยังเคยเป็นแหล่งของการทำเหมืองแร่ทองคำมาก่อน สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนที่สวยงามแปลกตาที่ตั้งเรียงรายไล่ระดับตามแนวไหล่เขา ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านน้ำชาต่างๆ อยู่ในเขตนิวไทเปที่ประดับแสงไฟในยามค่ำคืนหลากสีสันสวยงามที่จะพาคุณดื่มด่ำกับรรยากาศดีๆไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของภูเขารอบๆหมู่บ้าน

4.ท่าเทียบเรือบริเวณปากแม่น้ำตั้นสุ่ย เป็นท่าเทียบเรือริมทะเล เป็นจุดชมวิวของชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวที่อยากชมทัศนียภาพตรงมีความโดดเด่นอยู่ที่สะพานที่มีลักษณะรูปโค้งคล้ายเรือใบของเรือคุณสามารถชมความสวยงามของบรรยากาศรอบๆ แม่น้ำอันสุดแสนสงบและโรแมนติก

5.ศูนย์ศิลปะสมัยใหม่เดอะ เพียร์-2 อาร์ต เซ็นเตอร์ (The Pier-2 Art Center) คงจะถูกใจสำหรับผู้ที่รักในงานศิลปะทั้งหลาย ที่จะต้องแวะเดินทางมาชมให้ได้ภาพรวมของ สถานที่นี้บรรยากาศ มีลักษณะสไตล์แบบดิสโทเปีย ของโกดังร้างริมทะเลที่ใช้ในการจัดแสดงผลงานสิลปะร่วมสมัย ถือว่าเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ อาทิเช่น ศิลปะกราฟฟิตี้,ผลงานที่ทำจากเหล็ก,งานประติมากรรม และภาพเขียนสมัยใหม่ ส่วนภายในโกดังของที่นี่มักเป็นที่จัดการแสดงสดรายการต่างๆ เช่น Point & Wavy Ribbon Performance คอเกมทั้งหลายไม่ควรพลาด

6.ถนนโบราณซานเสีย เป็นถนนเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมไว้ สถานที่นี้มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆของไต้หวันที่มีตึกโบราณที่ทำจากอิฐแดงแบบสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีบรรยากาศแบบคลาสสิค และยังมีของเล่นโบราณของที่ระลึก เช่น พู่กันจีน สบู่ทำมือ และอีกมากมายหลายอย่างให้คุณให้เลือกซื้อได้ตามใจ ขนมสุดฮิตของที่นี่นั่น ก็คือ ครัวซองต์รูปเขาควาย ที่มีขายเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

การเดินมาที่ถนนโบราณ ซานเสีย (Sanxia Old Street ) จากสถานีรถไฟหลัก Taipei Main Station นั่งรถไฟไต้ดิน MRT มาลงที่สถานี Yingge station แล้วเดินออกทางป้าย Ceramics Old Street จากนั้นต่อด้วยนั่งแท็กซี่มายังถนนโบราณซานเสีย Sanxia Old Street ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

7.หมู่บ้านฟอร์โมซาน อะบอริจิน (Aboriginal Village Park) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ประกอบด้วย 9 หมู่บ้าน 9 ชนเผ่า ได้แก่ Yamei, Ah Mei, Lukai, Peinan, Paoshia, Paiwan, Puwan, Yen และ Tayal

มีการแสดงเต้นรำและดนตรีของชนเผ่าพื้นเมือง โดยเปิดเป็นพื้นที่พิเศษ คือ “จัตุรัสวัฒนธรรม (Culture Square)” เพื่อเปิดรอบการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม การแสดงเต้นรำของชาวพื้นเมือง จัดแสงที่โรงละคร Naruwan Theatre หนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด และยังมีเกาะแห่งสวนสนุก ที่ต้องเดินทางโดยกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปเท่านั้น ที่นั่นมีเครื่องเล่นหลากหลายชนิดที่นำเข้าจากยุโรปและอเมริกา เช่น การผจญภัยของชาวมายัน (Mayan Adventure), ยูเอฟโอผจญภัย(UFO Adventures), รถไฟเหาะชิ้นใหม่ล่าสุดของหมู่บ้าน,กระเช้าพื้นเมือง (Aboriginal Ropeway), พลับพลาอลาดิน (Aladdin Pavilion)


นอกจากนี้ มีพิพิธภัณฑ์อะบอริจินฟอร์โมซานภายในพิพิธภัณฑ์เป็นพื้นที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มากมาย อาทิ เสื้อผ้า, สิ่งทอ, ทับหลัง, เครื่องเรือน, เครื่องดนตรี, เครื่องมือการเกษตรในชีวิตประจำวัน, เครื่องประดับ, อาวุธ และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย

8.ทะเลสาปสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดจากธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน ตั้งอยู่ในภูเขาของมณฑลหนานโถว (Nantou County) พื้นที่ตอนกลางของเกาะ มีชื่อเสียงด้านความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น“สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน”นับเป็นที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และคู่รักชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก มีบริการล่องเรือชมทะเลสาปสุริยันจันทราซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจกันมาก นอกจากนี้ มีการจัดเทศกาลแข่งขันว่ายน้ำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ในชื่อ “กิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสุริยันจันทรา” (Sun Moon Lake Swimming Carnival) นอกจากมีัวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังรายล้อมไปด้วยวัดวาอารามน้อยใหญ่ที่สวยงามอีกหลายแห่งด้วยกัน อาทิ วัดเหวินอู่ (Wen Wu Temple)

9.ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Forest Recreation Area) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวัน อยู่ในเขตเมือง Chiayi (เจียอี่) ทางตอนกลางของเกาะ ผู้คนนิยมเดินทางมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาศึกษาเส้นทางธรรมชาติ, นั่งรถไฟโบราณ, นั่งรถไฟไต่เขา, เยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คุณสามารถเดินทางมายังอาหลี่ซันจากไทเป

  • รถไฟความเร็วสูง (HSR) จากTaipei Main Station มายัง HSR Chiayi Station (Exit 2)จากนัั้น

ต่อรถบัสเพื่อไป Alishan ใช้เวลาเดินทางรวม 4.30 ช.ม. ค่าโดยสารรวมประมาณ 1,356 NT

  • รถไฟธรรมดา (TRA) จากTaipei Main Station มายัง TRA Chiayi Station จากนั้นต่อรถบัส

เพื่อไป Alishan ใช้เวลาเดินทางรวม 6.30 ช.ม. ค่าโดยสารรวมประมาณ 768 NT

  • รถบัสจาก HSR Chiayi station ไปAlishan มีวันละ 2 รอบ คือรอบ10.10 น. และ รอบ 11.40 น.

10.อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park) อุทยานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าแก่ที่อยู่ทางเหนือของไทเป รอบล้อมไปด้วยป่าไม้นานพรรณท่ามกลางอากาศหนาวเย็นสบายตลอดปี ที่นี่จุดที่น่าสนใจคือ มีแหล่งน้ำพุร้อนให้คุณสามารถคลายความหนาวกันได้ ในแต่ละช่วงฤดูของที่นี่จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่น ช่วงเดือนเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ช่วงที่ดอกไม้บาน อย่าง ดอกซากุระช่วงเดือนกุมภาพันธ์, ดอกกุหลาบพันปีสีขาว, ดอก Calla Lilly ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมซึ่งมักจะมีพายุฝนแต่ก็จะเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นสายรุ้งได้บ่อยครั้งในเดือนตุลาคมจะมีลานหญ้าสีเงิน ส่วนในหน้าหนาวก็มักจะเห็นหมอกหนาลอยปกคลุมตามเนินเขา เป็นต้น

 

 

 

ท่องเที่ยวไต้หวัน ชมดอกซากุระ ในปี 2020

หากเราพูดถึงดอกซากุระ ใครหลายคนคงนึกถึงกันแต่ประเทศญี่ปุ่นกันใช่ไหม แต่ในความจริงนั้นประเทศที่มีดอกซากุระที่คุณสามารถหาชมความงามได้เหมือนกันนั่นก็คือ ประเทศไต้หวัน ที่เริ่มออกดอกบานสะพรั่งที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ สร้างความน่าสนใจ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหันมาเที่ยวไต้หวันกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระกำลังเริ่มออกดอกเบ่งบานจะมีให้เห็นกัน ที่ในทุกๆ 1 ปีคุณสามารถหาชมดอกซากุระได้เพียงช่วงระยะเวลา 3 เดือน เท่านั้น หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่อยากสัมผัสความสนุกความน่าตื่นเต้น และแตกต่างไปจากการท่องเที่ยวรูปแบบเดิมๆจากที่คุณเคยไป

เราได้จัดรูปแบบการเดินทางรวมทั้งรายละเอียดการท่องเที่ยวสถานที่ชมดอกซากุระในไต้หวันที่น่าสนใจให้คุณ ดังนี้

 

(ภาพตัวอย่าง : สถานที่ชมดอกซากุระ ประเทศไต้หวัน ในช่วงปี 2020)


เดือน มกราคม ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เริ่มออกดอกให้ชมช่วงปลายเดือน)

 

  • New Taipei : Wulai Waterfalls

 

เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เรื่มออกดอกบาน) ได้แก่

Taichung : Wuling Farm

– Taipei : Yangmingshan National Park

Taipei : Formosan Aboriginal Culture Village

– Chiayi : Alishan

– Taipei : Chiang Kai-Shek Memorial Hall

เดือน มีนาคม ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เรื่มออกดอกบาน) ได้แก่

Taipei : Tianyuan Temple – Taipei

– Nantou : Sun Moon Lake Ropeway

 

 

  • ข้อแนะนำ (ในการเที่ยวชมดอกซากุระไต้หวัน)

 

สถานที่ชมดอกซากุระในไต้หวันอาจจะไม่ได้มีขึ้นเยอะเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ก็มีให้คุณชมความงามกันอยู่บางสถานที่ที่ดอกซากุระบานขึ้น และให้ความสวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งเรามี 2 สถานที่ดีๆแนะนำให้คุณได้ลองเปิดประสบณ์การณ์ใหม่กันได้แล้ววันนี้

Taichung : Wuling Farm (อู่หลิงฟาร์ม)


เมืองสวรรค์แห่งดอกซากุระ ที่ปกคลุมไปด้วยดอกซากุระสีชมพูผลิดอกบานสะพรั่งขึ้นเต็ม 2 ฝั่ง

ข้างทางยาวเรียงรายเป็นทางอุโมงค์ดอกซากุระ ซึ่งขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอให้คุณๆ มาสัมผัสกันได้แลัว

เวลา (เปิด – ปิด) : ไม่มี

ค่าเข้าชมสถานที่ : วันจันทร์ – ศุกร์ = 130 NT.

: วันเสาร์ – อาทิตย์ = 160 NT.

การเดินทาง : นั่งรถบัสที่สถานี Taipei Main Station ทางประตูหมายเลข Exit M2 เดินไปยัง Kuokuang Bus Taipei Terminal แล้วต่อรถบัส รถออกเวลา 05.30 – 07.00 น. รถออกทุก 10 นาทีใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เวลากลับถ้ามาคันไหนให้ขึ้นคันเดิม ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านเคาน์เตอร์ของ Kuokuang Bus หรือตู้จำหน่ายตั๋วของ Kuokuang Bus และเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่ 7-Eleven , Hi-Life และ Family Mart

Taipei : Formosan Aboriginal Culture Village (หมู่บ้านวัฒนธรรม อะบอริจิน ฟอร์โมซาน)


ชมสถานที่หมู่บ้านจำลองวัฒนธรรมเผ่าดั้งเดิมของไต้หวัน ซึ่งมีจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุด คุณสามารถชมและสัมผัสกับดอกซากุระได้ตามทางเดินที่มีต้นซากุระอยู่เรียงรายกันแบบใกล้ๆไปพร้อมๆ กับศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชนเผ่าไต้หวัน

เวลา (เปิด – ปิด) : 09.00-17.00 น.

ค่าเข้าชมสถานที่ : (ทุกวัน) = 780 NT.

การเดินทาง : โดยรถไฟ TRA ไปยังสถานี Taichung Railway Station ต่อรถบัส Renyu Bus มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ Sun Moon Lake ลงป้ายหมู่บ้านวัฒนธรรม Formosa Aboriginal Culture Village

ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวคิวชู ศาลเจ้าดาไซฟุ ยูฟูอิน มิยาซากิ

หลังจากที่เราหาข้อมูลเพื่อที่อยากจะวางแผนไปทัวร์ญี่ปุ่น ว่ามีสถานที่ใดที่น่าสนใจบ้าง เราก็นั่งดูยูทปไปเรื่อยๆ จนเจอช่องของ Patnapapa ที่เขาได้ไป ทัวร์คิวชู ที่ประเทศญี่ปุ่น หากใครยังไม่ได้รับชมรับชมได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=mOasrpLiYrg

ซึ่งวันนี้เราก็จะยกมา 3 สถานที่ที่ Patnapapa ได้ไปเที่ยวและน่าสนใจมาฝากให้คนที่กำลังอยากจะไปทัวร์ญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จะไปทัวร์ที่ไหนดี

1.ศาลเจ้าดาไซฟุ ตั้งอยู่ในเมืองดาไซฟุ ซึ่งนักเรียนจากทั่วประเทศญี่ปุ่น นิยมมาขอพรเรื่องเรียนกันที่นี่

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ และลงที่สถานีดาไซฟุ (Dazaifu Station(太宰府駅) ของรถไฟสายนิชิเท็ตสึ ดาไซฟุ (Nishitetsu Dazaifu Line)

เส้นทางสำหรับผู้ที่ขับรถเอง ทางแยกที่ใกล้ที่สุดบนทางด่วนคิวชู (Kyushu Expressway) คือแยกดาไซฟุ (Dazaifu IC (太宰府IC) จะมีบริการที่จอดรถ แต่ต้องเสียเงินนะจ๊ะ

เวลาทำการคือ

วันจันทร์:06:30-19:00

วันอังคาร:06:30-19:00

วันพุธ:06:30-19:00

วันพฤหัส:06:30-19:00

วันศูกร์:06:30-19:00

วันเสาร์:06:30-19:00

วันอาทิตย์:06:30-19:00

 

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

 

มีร้านขายเครื่องราง 500 เยน ถ้าคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 140 บาท เครื่องรางส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องเรียน แต่เครื่องรางอื่นๆก็มีจำหน่ายเช่นกัน เครื่องรางส่วนใหญ่จะมีอายุได้ 1 ปี หากครบ 1 ปี คุณต้องกลับมาที่นี่เพื่อซื้อใหม่

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

และซึ่งศาลเจ้านี้เทพเจ้าเกิดปีวัว จึงมีรูปปั้นวัวเป็นเทพเจ้าพิทักษ์ ใครที่ชอบปวดท้องบ่อยก็แก้ด้วยการไปลูบท้องรูปปั้น ถ้าอยากฉลาดให้ลูบหัว หรือลูบที่เขาของรูปปั้น

 

2.ยูฟูอิน สนูปปี้ สำหรับใครที่ชอบตัวการ์ตูน สนูปปี้ เราขอแนะนำร้านอาหาร ยูฟูอิน ญี่ปุ่น เป็นร้านที่ตกแต่งทั้งด้านนอก และภายในร้านด้วย สนูปปี้ แม้แต่อาหาร และขนมของที่นี่ ก็ตกแต่งเป็นตัวการ์ตูนสนูปปี้

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Oita ถึงสถานี Yufuin Station ใช้เวลาเพียง 45 นาที ส่วนรอบของรถด่วนมีแค่ 4 รอบต่อวัน

ที่อยู่: 1524-27 川上 湯布院町 Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น

เปิด 10.00-18.00 ไม่มีวันหยุด

โทรศัพท์: +81 977-85-2760

 

3.พายเรือที่ มิยาซากิ เป็นสถานที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพายเรือ บริเวณของช่องเขา Takachiho ผ่านน้ำตก ราคาของการพายเรือนั้นอยู่ที่ 2,000 เยน/ลำ โดย 1 ลำนั่งได้ 3 คน 30 นาที และไม่ต้องกลัวหิว เพราะด้านในมีร้านอาหาร ให้คุณได้รับประทาน รวมถึงจุดนั่งพักผ่อน มีห้องน้ำบริการ

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Nobeoka และต่อรถบัสมา

ที่อยู่ Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki Prefecture 882-1103

เวลาทำการ 8.30-16.30 น. ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย

 

แนะนำ 9 ร้านอาหารเด็ดเมื่อไปทัวร์โตเกียว

สำหรับเป็นสายกินแล้วกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้จะแสวงหาของกินที่ไหนดี เรามี 9 ร้านอาหารเด็ดเมื่อไปทัวร์โตเกียว ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวานต้องลองไปชิมเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่น อาหารดี ราคาไม่แรง รับลองว่าอร่อยแน่นอน

1.Imahan อารหารสไตล์ ชาบู ราคาของสุกกี้ยากี้ (Top quality) อยู่ที่ 10,800 เยน จุดเด่นของที่นี่ คือจะมีพนักงานบริการ ยืนทำอาหารบริการเราตลอดของการท่าน

Chome-9-12 Nihonbashiningyocho, Chuo City, Tokyo 103-0013, Japan

2.Jumbo Yakiniku Shirokane ต้องโทรมาจองก่อนล่วงหน้า

  • วากิวซูชิ แนะนำให้สั่ง
  • เนื้อที่มีมันแทรก แนะนำให้ทานคู่กับมะนาว หรือ วาซาบิ (Medium Rare)
  • อีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้ คือ เนื้อจุ่มไข่

Japan, 〒108-0072 Tokyo, Minato City, Shirokane, 3 Chome−1−1 第一麻布ビル 1F

3.Gyukatsu Motomura เป็นร้าน ธงคัตสึเนื้อ เป็นร้านที่สมาชิกวง Blackpink ชอบกินมากๆ ทั้งเจนนี่ ลิซ่า ทั้งร้านจะมีแค่เมนูเดียวเท่านั้น

Japan, 〒150-0002 Tokyo, Shibuya City, Shibuya, 3 Chome−18−10 大野ビル2号館地下1階

4.Nakamura Tokichi at GINZA SIX เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียนว มีทั้งไอศกรีม วุ้นชาเขียว รสชาติของชาเขียวที่นี้จะออกไปทางหวาน แนะนำสำหรับคนที่ชอบทานชาเขียวแบบหวานๆต้องแนะนำร้านนี้เลย

4F GINZA SIX – 6 Chome-10-1 6 Chome-10, 10 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan

5.Ichiran Ramen

Japan, 〒160-0022 Tokyo, Shinjuku City, Shinjuku, 3 Chome−34−11 ピースビルB1F・6F

6.Nana’s Green Tea อยู่ในห้างชั้น 8 ร้านนี้ชาเขียวจะเข้มข้นไม่ค่อยหวาน

Japan, 〒160-0022 Tokyo, Shinjuku City, Shinjuku, 3 Chome−38−1 ルミネエスト 8F

7.Wagyu ตลาดปลา ร้านเนื้อย่างจะอยู่ใกล้ๆร้านไข่หวาน

8.ร้านซูชิในตลาดปลา Tsukiji ร้านนี้จะอยู่ตรงซอยที่มีขายไข่หวานเลย เดินเข้าไปนิดเดียวถึงเลยค่ะ

9.Cookie time cookie bar ร้านคาเฟ่คุ้กกี้ที่ลิซ่า Blackpink ไปนั่นเอง มีเมนูน่ากินเยอะมาก อยู่ในย่านฮาราจูกุ ใกล้สถานีรถไฟ

1 Chome-21-15 Jingumae, Shibuya City, Tokyo 150-0001, Japan

ขอบคุณที่มาจากช่อง Pine Kmn