ทัวร์ยุโรป ประเทศไหน ไม่ต้องง้อวีซ่า

ประเทศรัสเซีย (Russia)

รัสเซีย ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ ที่เปิดให้คนไปเยือนโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 30 วัน สถานทีท่องเที่ยวที่คุณมีควรพลาด คือ กรุงมอสโก เมืองหลวงที่ตั้งพระราชวังเครมลิน หรือโรงละครบัลเลต์บอล ที่เลื่องชื่อ สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบริ์ก และแวะเยือนทะเลสาบไบคาล ที่เป็นมรดกโลกธรรมชาติ

ตรวจคนเข้าเมือง และด่านศุลกากรประเทศ : ใบกรอกขอเข้าเมือง เป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงการเดินทางเข้ามาในอาณาจักรรัสเซียเป็นระยะเวลาชั่วคราวของชาวต่างชาติลักษณะของใบขอเข้าเมืองจะมี 2 ส่วน มีขนาด 85×125 ม.ม. ตัวหนังสือเขียนเป็นภาษาอังกฤษ และรัสเซีย การกรอก ต้องกรอกตัวหนังสือให้ชัดเจนใบกรอกขอเข้าเมืองนั้น จะได้รับก่อนที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเสมอ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่บุคคลต่างชาติขาดมิได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดไป

( กรุงมอสโคว์ เซนต์ ปีเตอร์เบริ์ก ประเทศรัสเซีย )

( จตุรัสแดง : Red Square )

( ทะเลสาบไบศาล : Lzke Baikal ประเทศรัสเซีย)

ไบคาล (Baikal) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่และลึกที่สุดในโลกอยู่ที่ประเทศรัสเซีย จะเป็นอย่างไรเมื่อความหนาวปกคลุม ทะเลสาบทั้งผืนกลายเป็นน้ำแข็ง ทะเลสาบไบคาล ได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งมีความสำคัญที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการยุคต่างๆ ของโลกอีกด้วย

ทะเลสาบไบคาล (Lake Baikal) ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรียประเทศรัสเซีย เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ 31,722 ตารางกิโลเมตร และมีปริมาตร 23,615 ลูกบาศก์กิโลเมตร ซึ่งทะเลสาบไบคาล แห่งนี้เกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตก เมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว

แอฟริกาใต้ (South Africa)

( ท่องเที่ยวสวนสัตว์ : ประเทศแอฟริกาใต้ )

โลกของสัตว์ใที่มีอยู่ในสวนสัตว์แอฟริกาใต้นั้นมี ช้างแอฟริกัน, สิงโต, เสือชีตาห์, ยีราฟ,ม้าลาย, จระเข้, ละมั่ง และลิงหลายสายพันธุ์นกและอื่น ๆ ตัวแทนของสัตว์ในแอฟริกาใต้ทุกวันนี้กำลังใกล้สูญพันธุ์ที่หาชมได้ยาก

( นักท่องเที่ยวสามารถขับรถดูสัตว์ในสวนสตว์ได้ แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย )

( การเล่นดนตรีแอฟริกา )

ประเพณีของชนเผ่าในแอฟริกา จะมีการทำพิธีที่เป็นวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ชาวแอฟริกาเชื่อในพลังที่เหนือธรรมชาติ แต่ละหมู่บ้านหรือแต่ละชนเผ่า จะต้องมีหมอผี ที่สามารถรักษาโรคเวลาคนในหมู่บ้านเจ็บไข้ได้ป่วย หมอผีก็จะช่วยปัดเป่าไล่ภูตผีปีศาจให้ออกไปจากหมู่บ้าน และยังมีการเต้นรำร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นพอธีแต่งงาน หรือมีงานฉลองในโอกาสต่างๆที่สำคัญ

ทัวร์ญี่ปุ่น อุโมงค์ดอกวิสทีเรียในฝัน

ใครที่มีแพลนไปทัวร์ญี่ปุ่นหรือคนที่ชอบดอกไม้ ห้ามพลาดกับการไปดูอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย สวนดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกมนต์สะกดเอาไว้ ใครที่ชอบไปทัวร์ญี่ปุ่น ต้องแวะไปชมถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสถานที่หนึ่งเลยที่ต้องแวะเข้าไปชม

เราจะมาเล่าประวัติความเป็นมาของคาวาจิ ฟุจิ การ์เด้น ที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1977 ไฮไลต์เด็ดอยู่ตรงบริเวณตัวอุโมงค์ดอกไม้ ที่เป็นทางเดินยาวขนาด 80 เมตร และ 220 เมตร บริเวณนี้เองที่ทำเอาหลายคนตะลึงกับความงดงามดั่งมนต์สะกดของดอกวิสทีเรียในเฉดสีที่แตกต่างถึง 22 สายพันธุ์รวมทั้งสิ้น 150 ต้น ส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่วสวนรอบๆ กำลังออกดอกบานสะพรั่งห้อยระย้าไปจนสุดทางของอุโมงค์ บางดอกห้อยระย้าให้เห็นชัดได้ในระดับสายตาจนทำเอาใครหลายคนรู้สึกเสมือนหนึ่งได้ทะลุมิติ เดินทางเที่ยวเล่นอยู่ในอุโมงค์แห่งสรวงสวรรค์ ก่อนที่จะตื่นตาตื่นใจไปกับต้นวิสทีเรียที่มีอายุถึง 100 กว่าปีตรงสุดทางเดิน

โดยค่าเช้าชมนั้นจะอยู่ประมาณที่ 500-1,500 เยน (ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละฤดู) สวนคาวาจิ ฟุจิ การ์เด้น เปิดให้เข้าชมปีละ 2 ช่วงฤดู คือ ฤดูชมดอกวิสเทอเรีย (กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) 9.00 -18.00 น.และฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสี (กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม) 9.00-18.00 น.

หากใครที่ทัวร์ญี่ปุ่นแล้วจะเดินทางโดยรถไฟ JR ให้ขึ้นรถไฟจากสถานี JR Hakata(Fukuoka) ขึ้นรถไฟสาย Kagoshima Main Line ไปลงที่สถานี JR Yahata จากนั้นให้ต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 แล้วลงที่ป้าย Kawachi Elementary School เดินประมาณ 10-15 นาทีก็จะเจอคาวาจิ ฟุจิ การ์เด้น

ทัวร์ยุโรป ท่องเที่ยวเมืองในฝัน

คุณเคยนึกหรือฝันว่าอยากไปเที่ยวในสถานที่ที่มีความสวยงาม เหมือนอย่างกับในหนังเทพนิยายดินแดนมหัศจรรย์หรืออยากเข้าไปอยู่ในภาพวาดเมืองหรือภาพวาดสถานที่สวยๆ ที่กลั่นกรองออกมาจากจินตนาการของใครสักคน ที่วาดออกมาได้งดงามดูเหมือนสวรรค์บนดินที่เกินความเป็นจริง และคิดว่ามันคงไม่มีสถานที่สวยงามดั่งในเทพนิยายอย่างนั้นอยูู่จริงๆหรอกใช่ไหมแต่คุณเชื่อเถอะสถานที่แบบนั้นมีอยู่จริงๆ

วันนี้ เราจะพาคุณไปดูสถานที่ท่องเที่ยว หากคุณอยากไป ทัวร์ยุโรป สักครั้ง แต่ยังกังวลไม่กล้าตัดสินใจสักทีว่าจะไปดีไหม ทั้งไกล สถานที่จะสวยงามอย่างที่คิดหรือไม่ ฯลฯ ดังน้น เราจะขอเป็นคนพาท่านไปดูสถานที่ต่างๆของแต่ละประเทศในแถบยุโรปนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้างและอยู่ประเทศอะไร เราตามมาชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

 

เที่ยว อัมสเตอร์ดัม ประเทศ เนเธอร์แลนด์

(ภาพเมืองอาคารบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์)

( รอบๆบริเวณถนนสวนสาธารณะเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์)

อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงอันดับโลก มีคลองมากกว่า 165 แห่ง ใช้ในการขนส่งและค้าขาย จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ด้วยค่าและที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์งานศิลปะของจิตรกรชื่อดังอันดับโลกอย่าง แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh) ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะสามารถไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ภาพวาดได้ที่ Van Gogh Museum นอกจากนี้ยังมีจิตรกรชื่อดังอีกมากมาย เช่น Rembrandt, Vermeer, Frans Hals, Hieronymus Bosch, Piet Mondrian และ MC Escher เป็นต้น เป็นเมืองที่มีทางจักรยานที่ดีที่สุดในโลกหรือจะล่องเรือชิวๆ ชมบรรยากาศและสถาปัตยกรรมอันสวยงามตลอดสองฝั่งคลองให้เพลิดเพลินกันเลย

มีทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบัน หมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลีกและศูนย์ฝึกอบรมแต่บางหลังก็ยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวอยู่เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมชาวเนเธอร์แลนด์ ชื่อว่า หมู่บ้านกังหันลมโบราณ (Zannse Schans)

( ภาพหมู่บ้านกังหันลม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ )

 

เที่ยวย่านเมืองเก่า Gamla Stan, ประเทศสวีเดน

Gamla Stan ในภาษาสวีเดนแปลว่า เมืองเก่า ที่นี่มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองสตอกโฮล์มเป็นส่วนที่เก่าแก่ และล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในเมือง อีกทั้ง ยังเป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวง ตรบริเวณรอบๆมีตรอกซอกซอยต่างๆเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีให้เลือกชมมากมายเรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือ รวมถึงบ้านเรือนอันสวยงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมย้อนยุคแบบสวีเดน ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบัน ยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ได้อย่างดีเยี่ยมสามารถผสมผสานกับความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตึกอาคารมีสีสีนสวยงามยิ่งช่วงเทศในคริสต์มาสก็จะมีการจัดตกแต่งประดับประดาดวงไฟตามตึกอาคารกันอย่างสวยงาม

( เที่ยวย่านเมืองเก่าประดับประดาไฟอย่างสวยงาม Gamla Stan, ประเทศสวีเดน )

เที่ยวบรูจส์ (Bruges) , ประเทศเบลเยี่ยม

เมืองบรูจส์ เป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ฟลานเดอร์ มีความสำคัญทางประวัติศาตร์และศิลปะ นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคแบบดั้งเดิมอีกด้วยค่า เมืองบรูจส์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงทางด้านการค้าและวัฒนธรรมของยุโรป เราจะได้พบกับความสวยงามของลำคลองหลายสาย ซึ่งลำคลองพวกนี้ถูกใช้ในการคมนาคมขนส่งต่างๆ จนได้รับการขนานนามว่า “The Venice of the North”

( อาคารตึกเก่าสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคดั้งเดิม เมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยี่ยม )

ทัวร์ไต้หวันที่ไปฮวาเหลียน

ประเทศไต้หวัน เมือง“ฮวาเหลียน”หรือ“ฮัวเหลียน” (Hualien) ชื่อเมืองนี้บ้างก็ว่ามาจากการกลับคำในภาษาจีน คือ “เหลียนฮวา”(Lianhua) ที่แปลว่า“ดอกบัว”เป็น“ฮวาเหลียน” บ้างก็ว่ามาจากคำว่า“หุ้ยหลัน”(Huilan) ที่แปลว่าน้ำวน ซึ่งมาจากการที่แม่น้ำฮวาเหลียนที่ไหลผ่านเมืองนี้ในช่วงที่จะไหลออกสู่ทะเลจะมีลักษณะเป็นสายน้ำวน ฉะนั้น ฮวาเหลียนยังเป็นเมืองที่มีพื้นที่ราบไม่มาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน และมีภูเขาโอบล้อมถึงสามด้าน ในแนวตอนเหนือ-ใต้-ตะวันตก ส่วนทางด้านฝั่งตะวันออกเป็นแนวชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกยาวตลอดเหนือจรดใต้

( ภาพวิวทิวทัศน์สวยงามของเมืองฮวาเหลียน ประเทศไต้หวัน )

( อุทยานแห่งชาติ ทาโรโโกะ เมืองฮวาเหลียน ประเทศไต้หวัน )

ใครที่ว่าเมืองเล็กๆของประเทศไต้หวันอย่างเมืองฮวาเหลียน คงจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวนั้นละก็ คุณคิดผิดแล้ว เพราะความเป็นเมืองเล็กๆ อาจจะไม่ค่อยมีคนเดินทางมาท่องเที่ยวกันเท่าไหร่นัก ทำให้แต่ละสถานที่นั้นยังความเป็นธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่่ที่เรียงรายกันอย่างสวยงาม รายล้อมด้วยป่าไม้สีเขียวขจี และยังมีลำธารสายน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ สถานที่นั้น คือ อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งมีเอกลักษณ์คือถนนที่สร้างตัดผ่านหน้าผาสูงชัน อยู่ใต้แนวกำแพงหินอ่อนสูงหลายพันเมตร และยังมีธรรมชาติที่สวยงามไม่เหมือนที่ไหนๆ สถานที่นี้จึงเป็นสถานที่ที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยวยิ่งนัก นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮวาเหลียนอีกหลายที่ๆน่าสนใจ ดังนั้น วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราอยากมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองฮวาเหลียนว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง หากคุณมาทัวร์ไต้หวันแล้วได้มาท่องเที่ยวที่เมืองนี้ รับรองเลยว่าคุณต้องติดใจ และอยากกลับมาเที่ยวที่นี่กันอีกแน่นอน

สถานที่แรกเราได้เกริ่นกันไปข้างต้นแล้ว คือ อุทยานโทโรโกะ นั่นเอง เรามาต่อกันเลยกับสถานที่ต่อไป คือ ทะเลสาบหลีหยู่ หรือทะเลสาบปลาคาร์ป เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองนี้ มีที่พักตากอากาศ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือใครทีชอบปั่นจักรยานก็มีให้เช่าปั่นเที่ยวไปรอบๆหาดได้ตามสบายเลย แถมยังมีเรือให้นั่งปั่นดูวิวทิวทัศน์ชมบรรยากาศรอบๆทะเลสาบก็ดูน่าสนุกดี ซึ่งเหมาะเป็นสถานที่ไว้ไปพักผ่อนหย่อนใจอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ

 

( พักผ่อนหย่อนใจที่ ทะเลสาบหลีหยู่ )

อีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่การท่องเที่ยวไต้หวัน อยากนำเสนอให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ได้เดินทางไปสัมผัสกับอากาศดีๆท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสุขใจ ฟังเสียงคลื่นทะเลชิวชิว ลมพัดเย็นสบาย ต้องไปที่นี่เลย หาดซีซิงถัน (Qixingtan) หรือ ทะเลสาบเจ็ดดาว นั่นเอง ซึ่งแนวชายหาดมีลักษณะเป็นรูปวงพระจันทร์ยาวกว่า 20 กิโลเมตร ถือว่าเป็นทะเลที่สวยงามที่หนึ่งของไต้หวันที่อยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ไต้หวัน ได้แวะมาเที่ยวทีนี่กันสักครั้ง

( ภาพหาดซีซิงถัน (Qixingtan) หรือ ทะเลสาบเจ็ดดาว เมืองฮวาเหลียน ประเทศไต้หวัน)

สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละ่ที่นั้นบรรยากาศช่างสวยงามเป็นธรรมชาติของแท้ที่ต้องปรุงแต่งใดๆ มองไปทางไหนก็ดูงดงามไปหมด ดูเงียบสงบ มีเสียงคลื่นทะเลเซาะหินหาดทรายคลอเบาๆ มีโอกาสไว้ลองหาวันหยุด มีเวลาว่างๆ เดินทาไงทัวร์ไต้หวัน มาเที่ยวพักผ่อนร่างกายกันสักหน่อยคงดีไม่น้อย

ที่มา : sites.google.com

ทัวร์ยุโรปตะวันออก ชมปราสาทในเทพนิยาย

สถานที่ดีๆ มีเมืองที่มีธรรมชาติสวยๆ อาหารอร่อยๆ วันนี้ เราขอแนะนำให้คุณไปทัวร์ยุโรปตะวันออกไปเที่ยวที่่ ออสเตรีย-เยอรมนี ที่เหมาะแก่การพักผ่อนไปเที่ยวให้เพลิดเพลินเป็นรางวัลให้กับตัวเองบ้างหลังจากทำงานกันมายาวๆ หากได้มีโอกาสได้หยุดยาวๆหรือหาวันที่เหมาะสม มีเวลาว่างอยากชาร์ตแบตให้ตัวเองหาที่เที่ยวผ่อนคลายสักหน่อยคงดี การได้ไปเที่ยวยุโรปตะวันออกถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ไปกันสักครั้งน่าจะสนุกดี มีสถานที่ที่น่าไปที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูกันเลย

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ประเทศเยอรมนี

ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย (มีพระชนม์ชีพระหว่าง 25 สิงหาคม พ.ศ. 2388 – 13 มิถุนายน พ.ศ. 2429 ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 140 ปี ผู้ที่ออกแบบปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่สถาปนิก แต่กลับเป็นคนออกแบบฉากละคร ทำให้ปราสาทแห่งนี้เหมือนปราสาทในจินตนาการมากกว่าปราสาทแห่งอื่นอย่างกับปราสาทในเทพนิยาย ภายนอกสร้างให้ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่ภายในเต็มไปด้วยศิลปะในยุคต่างๆแบบ ไบแซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก แถมพระองค์ยังมีหัวก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุด มาใช้ในปราสาทแห่งนี้ ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา แถมยังมีโทรศัพท์ในปราสาทอีกด้วย มีระบบทำน้ำร้อนน้ำเย็น

ห้องที่เห็นเรียกว่า Throne Hall หรือห้องราชบังลังก์ ’ ดูยิ่งใหญ่อลังการ สีเหลืองทองอร่ามในศิลปะแบบไบแซนไทน์ แต่ห้องนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะขาดสิ่งสำคัญที่สุดของห้อง ก็คือบัลลังก์นั่นเอง โคมระย้าที่ตั้งอยู่กลางห้องมีน้ำหนักถึง 900 กิโลกรัม สามารถชักรอกลงมาได้เพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเทียนเล่มใหม่

ห้องบรรทมของพระเจ้าลุดวิก’ ได้สร้างขึ้นในศิลปะแบบโกธิก มีงานแกะสลักไม้อย่างวิจิตรบรรจง ภาพวาดในห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Tristan and Isolde ของวากเนอร์ ข้างๆพระเก้าอี้สีน้ำเงินเป็นโต๊ะสำหรับล้างพระพักตร์ ใช้เทคโนโลยีน้ำประปายุคปัจจุบันให้น้ำไหลผ่านคอหงส์เงิน

ห้องชั้นบนสุดของปราสาท’ เรียกว่า Singers Hall เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดแสดงอุปรากรของวากเนอร์โดยเฉพาะ มีการออกแบบระบบอคูสติกของห้องเป็นอย่างดี และแน่นอน ภาพวาดที่ประดับห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Parsifal ของวากเนอร์ กษัตริย์ลุดวิกไม่มีโอกาสได้ทอดพระเนตรการแสดงในห้องนี้ขณะที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่

ปราสาทโฮนชวานเกา (Hohenschwangau)

 

ไม่ไกลจากปราสาทนอยชวานสไตน์ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงจะมองเห็นปราสาทแรกก่อน มีสีเหลือง ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ มีชื่อว่าปราสาทโฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เป็นพระราชวังฤดูร้อนโดยพระเจ้าแม็กซิมิเลียนที่สอง (Maximilian II) พระบิดาของพระเจ้าลุดวิก นอกจากนี้ยังมีปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ได้ทรงโปรดให้สร้างขึ้น อีก 2 ปราสาท คือ ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) และ ปราสาทแฮร์เรนคีมเซ (Herrenchiemsee)

 

ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof)

ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) ใกล้เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) เป็นปราสาทหลังเล็กๆ ในสไตล์ร็อกโคโค และเป็นปราสาทหลังที่สองที่พระเจ้าลุดวิกทรงโปรดให้สร้างขึ้น และ เป็นหลังเดียวที่สร้างเสร็จสมบูรณ์

 

ปราสาทแฮร์เรนคีมเซ (Herrenchiemsee)

ปราสาทแฮร์เรนคีมเซ (Herrenchiemsee) เป็นปราสาทหลังที่สาม ที่พระเจ้าลุดวิกโปรดให้สร้างขึ้นบนเกาะกลางทะเลสาบคีมเซ โดยได้ต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส แต่สร้างไม่เสร็จเพราะสิ้นพระชนม์เสียก่อน

เมื่อเวลาผ่านไป ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอันดับหนึ่งของเยอรมนี และทำรายได้ให้ประเทศเป็นเงินมหาศาล เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งทัวร์ที่มาจากเอเชีย และทัวร์ยุโรป ต่างพากันมาชื่นชมความงดงามของปราสาทอันเลื่องชื่อนี้ ดังนั้น สถานที่นี้จึงเป็นที่ที่เราอยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวที่เป็นคอหนังเทพนิยายต่างๆ ถ้าได้ลองมารับรองจะไม่ผิดหวังแน่นอน

ทัวร์ยุโรป ดินแดนมหัศจรรย์ เที่ยวชมแสงออโรร่า

แสงออโรร่าอาจเป็นคำที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย แต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แถบเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลที่มีอากาศหนาวเย็นนั้น สามารถมองเห็นแสงออโรร่าจากบนท้องฟ้าได้เกือบทุกวันซึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ไม่ได้หาดูกันง่ายๆ ถ้าใครได้ไปลองสัมผัสให้เห็นด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิตเพราะมันไม่ง่ายที่จะหาชมได้ตลอด โชคดีก็คงได้เห็น ความงดงามของธรรมชาติที่ทำให้เราทึ่งไปกับความมหัศจรรย์ โดยปรากฏการณ์ของแสง ออโรรา (Aurora) ที่เรียกกันว่าแสงเหนือหรือแสงใต้ ขึ้นอยู่กับสถานที่เกิด สำหรับ Aurora (ออโรรา) นั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีลักษณะเป็นแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน

 

ในปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากที่เดินทางข้ามโลกไปท่องเที่ยวทัวร์ยุโรป เพื่อไปชมความงดงามของแสงออโรร่า นักท่องเที่ยวสามารถพบแสงเหนือได้ที่ประเทศใดบ้าง ดังนี้

 

– ประเทศสวีเดน (SWEDEN)

– ประเทศรัสเซีย (RUSSIA)

– ประเทศไอซ์แลนด์ (ICELAND)

– ประเทศฟินแลนด์ (FINLAND)

– รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา (ALASKA)

– ประเทศแคนนาดา (CANADA)

– ประเทศนอร์เวย์ (NORWAY)

– ประเทศกรีนแลนด์ (GREENLAND)

 

การไปไล่ล่าแสงเหนือนั้น ถ้าอยากพบกับแสงเหนือสักครั้งคือมันไม่ได้ง่ายดายนัก เพราะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไม่มีใครทราบได้ ดั้งนั้น ใครอยากได้ยลโฉม ก็ต้องมีทั้งเวลา ถ้าโชคดีก็ได้เห็น

ประเทศไอซ์แลนด์ (ICELAND)

ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างเกาะกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร เป็นประเทศสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตามล่าหาแสงเหนือกัน เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจ โดยจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะไปตั้งตารอคอยชมแสงเหนือจะอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ ที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในไอซ์แลนด์ หนึ่งในนั้นก็คือ Kirkjufell Mountain เป็นภูเขารูปร่างสวยงามแปลกตา รวมทั้งน้ำตกที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร ถ้าใครได้เห็นความสวยงามนี้ คงไม่มีใครอยากกลับแน่นอน เพราะที่นี่คือดินอดนมหัศจรรย์จริงๆ

ทัวร์ยุโรป แผนที่เส้นทางรอบๆเกาะไอซ์แลนด์ทั่วเกาะ เรียกว่า Ring road (ขับตามถนนสายหลักหมายเลข 1)

ประเทศรัสเซีย (RUSSIA)

ทางตอนเหนือของรัสเซีย คือจุดที่คุณจะมีโอกาสที่จะได้พบกับ “แสงเหนือ” อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมือง Murmansk ใกล้ๆกับ The Kola Peninsula รัสเซียถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้เราได้พบกับแสงเหนือ สำหรับคนไทยสามารถเดินทางทัวร์ยุโรป สามารถท่องเที่ยวที่รัสเซีย ได้ถึง 30 วัน โดยไม่ต้องทำการขอวีซ่า ใครที่อยากไปชมแสงเหนือแบบยาวๆ ก็มาเที่ยวที่รัสเซียตั้งแคมป์รอชมความสวยงามกันได้อีกด้วยนะ

ประเทศนอร์เวย์ (NORWAY)

จุดเด่นของเกาะแห่งนี้นอกจากความมหัศจรรย์ของแสงเหนือแล้ว ยังมีผืนน้ำ ผืนฟ้า และภูเขาสูงสลับซับซ้อนสุดแสนสวยงาม โดยมีเมืองที่เงียบสงบ อิงแอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน และอีกหนึ่งที่ยอดนิยมคือ Tromso เมืองทางตอนเหนือของนอร์เวย์ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับการไปดูแสงสีเขียว นอร์เวย์ดินแดนในเขต ขั้วโลกเหนือที่เป็นจุดหมายปลายทาง ในฝันของนักล่าแสงเหนือ และนักถ่ายภาพทั่วโลก และนอร์เวย์ถือว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่เหมาะกับการดูแสงเหนืออย่างเมือง Lofoten เป็นหมู่เกาะอยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์

ประเทศสวีเดน (Sweden)

ประเทศสวีเดน เป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทาง สำหรับนักล่าแสงเหนือทางตอนเหนือสุดของประเทศ หรือ Lapland ของประเทศสวีเดนนั้น เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการชมแสงเหนือหรือแสงออโรร่าแบบตระการตา โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบที่สวยงาม สถานที่สำหรับชมแสงเหนือที่มีชื่อเสียงของประเทศสวีเดนมีอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น Aurora Sky Station สถานีชมแสงเหนือในอุทยานแห่งชาติอบิสโก Abisko National Park ที่นี่คุณจะต้องขึ้นกระเช้าไปยังตัวสถานีด้านบนภูเขา Abisko National Park มีความโดดเด่นในเรื่องท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากเป็นพิเศษ

ประเทศฟินแลนด์ (FINLAND)

อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดสำหรับนักล่าแสงเหนือตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์หรือ Lapland เป็นสถานที่ที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้สูง จุดชมแสงเหนือยอดนิยมของ Lapland ได้แก่ Sodankylä สถานที่ตั้งของ Finland’s National Observatory of Northern Lights ทะเลสาบ Inari

ภาพจาก :iStockPhoto

 

ประเทศแคนนาดา (CANADA)

ประเทศแคนาดา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากคุณมีโอกาสไปเยือนแคนาดา คุณจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันสวยงามราวกับดินแดนในฝัน ทั้งน้ำตกไนแองการ่า, ทะเลสาบเลค หลุยส์, เทือกเขาร็อกกี้ เมาน์เทน เป็นต้น แต่ที่อลังการขั้นสุดก็คือ ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือออโอร่า (Aurora) ที่จะสามารถพบเห็นได้ทางภูมิภาคทางด้านเหนือของประเทศ โดยเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ เมืองเยลโลว์ไนฟ์ (Yellowknife) คุณจะได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำบนฟากฟ้าเหนือยอดสน ท่ามกลางอากาศที่ติดลบ เป็นความประทับใจที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส

(ภาพ: อโกด้า / โดย Leonard Laub / unsplash.com)

กรีนแลนด์ Greenland)

ประเทศกรีนแลนด์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไอซ์แลนด์เท่าไหร่ ด้วยความที่มีอากาศหนาวเหน็บ พร้อมกับมีแสงเหนือพาดผ่านท้องฟ้าไม่ให้ค่ำคืนเงียบเหงา จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยว ส่วนพิกัดล่าแสงเหนือแนะนำ เช่น Lake Aurora, เมือง Ilulissat Town

เที่ยวงานเทศกาลหิมะ ที่เมืองซัปโปโร

งานเทศกาลหิมะที่เมืองซัปโปโร (Sapporo Yuki Matsuri) หรือ Supporo Snow Festival นับเป็นเทศกาลฤดูหนาวสุดปังประจำปีของเมืองซัปโปโร จัดขึ้นทุกปีที่ดังมากๆ เรียกได้ว่า ถ้าพูดถึงเทศกาลฤดูหนาวของญี่ปุ่นต้องนึกถึงงานนี้เป็นอันดับแรกๆ ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเดินทางมา ทัวร์ญี่ปุ่น กันมากในทุกปี และจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเริ่อยๆด้วย

งานแข่งขันแกะสลักหิมะที่เก่าแก่ก็ต้องเป็นที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นครั้งแรก ในช่วงปี พ.ศ.2493 เริ่มต้นจากกลุ่มนักเรียนมัธยมในเมืองซัปโปโรออกมาปั้นหิมะเล่นกันในสวนโอโดริ ในช่วงพักกลางวัน จนกลายเป็นจุดสนใจ และมีชาวเมืองออกมาร่วมปั้นด้วยอย่างเป็นการเป็นงาน ต่อมาการปั้นหิมะได้รับการส่งเสริม ต่อมาการปั้นหิมะก็ได้รับการส่งเสริมจากภาคธุรกิจเอกชน และองค์กรส่วนท้องถิ่นให้ยกระดับขึ้นเป็นกิจกรรมประจำปีในปี พ.ศ.2498 มีกำหนดจัดขึ้น ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่สวนสาธารณะโอโดริ กลางเมืองซัปโปโร ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเดินทางมาเข้าร่วมเดินทางมาทัวร์ญี่ปุ่นเที่ยวชมงาน มากกว่า 2 ล้านคน จึงถือได้ว่าเป็นงานเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในปัจจุบัน

เทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด มีผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจ ต่างเดินทางมาร่วมงานกว่า 2 ล้านคน โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยคือการชมประติมากรรมน้ำแข็ง ซึ่งประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันและคว้าแชมป์สมัยที่ 8 มาได้ในปี 2019 ที่ผ่านมา

ถามว่าทำไมประเทศไทยไม่มีหิมะ แต่ทำไมได้แชมปฺ์แกะสลักน้ำแข็งชนะเลิศ 10 สมัยซ้อน ผู้เข้าแข่งขันทีมไทยมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในการสร้างผลงาน ใช้ทีมงานทั้งหมดกี่คน มีประสบการณ์แค่ไหน เรามาอ่านบทสัมภาษณ์จาก คุณกุศล บุญกอบส่งเสริม จากโรงแรมแชง-กรีล่า คุณกฤษณะ วงศ์เทศ นักแกะสลักอิสระ และคุณอำนวยศักดิ์ ศรีสุข หรือพี่เซ็ง ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ จากโรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งชิงแชมป์โลก จากนี้ไปให้ทุกๆท่านได้ทราบกันไปอ่านบทสัมภาษณ์เบื้องหลังกว่าจะได้เห็นผลงานแกะสลักน้ำแข็งของทีมงานไทยกันเลย

  • มาแข่งขันแกะสลักที่งานซัปโปโรได้อย่างไร

    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเฟ้นหาคนที่แข่งแกะสลักได้เหรียญระดับประเทศ แล้วทาบทามให้รวมตัวมาแข่งให้มาช่วยกันเป็นทีม

 

  • ประสบการณ์ในการแข่งขันเป็นอย่างไร

เรามีประสบการณ์การแกะสลักอยู่แล้ว เมื่อเรามีโอกาสได้ไป มันก็เป็นโอกาสที่ดีที่น่าลองและ
ไม่ควรทิ้งโอกาสนี้ไป เลยมีการรวมตัวเป็นทีมขึ้นแล้วไปร่วมแข่งขันทันทันที

  • มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ตอนนั้นเราไปแบบไม่มีอะไรเลย ทั้งอุปกรณ์ที่เราเตรียมไปเท่าที่เรามีเราหาได้ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายไปซื้อหาเพิ่มเติมที่นั่นกันเพราะไปกันแบบกระทันหันทันทีทันใดเลยทำให้เราไปกันแบบเตรียมตัวกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว ส่วนเครื่องมือที่เราเตรียมไปนั้น เราก็ไม่รู้เลยว่าจะใช้ได้ไหมหรือจะใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน จำได้ว่าที่พกไปก็มีสิ่วที่ใช้แกะสลักคือสมัยก่อนสิ่วทำมาจากด้ามเหล็ก เมื่อเราต้องทำงานสู้กับอากาศหนาวติดลบขนาดนี้ แล้วต้องมาถือด้ามจับที่เป็นเหล็กอีก มันเลยค่อนข้างทำงานลำบาก เพราะทีมงานเราก็ต่างไม่คุ้นชินเลยกับอากาศหนาวมากกว่าปกติซึ่งยากมากที่ร่างกายเราจะปรับตัวได้ทันก็ต้องใช้เวลาในการต่อสู้อดทนในการทำงานกันมากเลยทีเดียว สิ่งสำคัญมากที่เราต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนไปแข่ง คือ โมเดลชิ้นงานต้นแบบงานแกะสลักของเรานั่นเอง เราต้องมีการคิดงานว่าเราจะสร้างผลงานอะไร รจะทำมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆตรงไหนบ้าง เราก้อสร้างโมมเดลขึ้นมา เพื่อให้ง่ายต่อการแกะสลัก เมื่อถึงเวายละเอียดของงานที่เราลาทำงานจริงๆ ทีมงานแต่ละคนจะได้ทำงานไม่ช้าใครรับผิดชอบ ส่วนไหนก็ว่ากันไปรับผิดชอบกันไป ส่วนเครื่องมือที่ทำเรามีการเตรียมกันไปเองด้วย เพราะแต่ละคนก็จะมีเครื่องมือที่ใช้ถนัดแตกต่างกันไปก็จะเอากันไปเอง แต่บางอย่างที่เราไม่มีที่นั่นก็มีเตรียมให้เราใช้บ้าง

  • ทีมงาน การทำงานเป็นทีม มีความสำคัญอย่างไร มากน้อยแค่ไหน

การทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญมาก ถ้าคนในทีมไม่เข้าขากัน อาจทำงานด้วยกันยาก เพราะการทำงานใช้ระยะเวลานาน ในการแข่งขันแกะสลักหิมะจะถูกแบ่งออกเป็นทีม ทีมละ 3 คน โดยมีตัวแทนจาก 11 ประเทศเข้าร่วม เช่น อินโดนีเซีย ฟินแลนด์ ออสเตรเลีย โปแลนด์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละทีมจะต้องแกะสลักบล็อกหิมะทรงลูกบาศก์ขนาด 3 เมตร โดยใช้เวลาภายใน 4 วัน แต่ละคนในทีมจะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบของตัวเอง ซึ่งจะมีการจัดแบ่งเวลาในการพักการทำงานให้ทุกคน ดังนั้น ทุกคนในทีมต้องประสานงานกันเป็นทีมเวิร์กเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีออกมา

  • ใครเป็นคนกำหนดหัวข้องานแกะสลัก

หัวข้อในการแกะสลักนั้นทาง ททท. จะกำหนดมา และให้ทีมงานทำการออกแบบดีไซน์กันเอง และมีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันก่อนว่าทาง ททท. อยากได้แบบไหน ใส่รายละเอียดงานตรงไหนบ้าง เราก็จะมัการแนะนำและดูว่าสามารถทำได้หรือไหม ถ้าทำแล้วอาจทำให้ผลงานเกิดความเสียหายหรือโค่นหักได้ เราก็็จะต้องแจ้งให้ทาง ททท. ทราบ

  • การดีไซน์ ออกแบบอย่างไร

เราจะมีการสเก็ตรูปกันก่อนว่าเราต้องการให้ออกมาแบบไหนรายละเอียดเล็กๆน้อยเก็บหมด ส่วนไหนเน้นความเด่นชัด เราก็จะนั่งคุยกันออกแบบจนกว่าจะเป็นที่น่าพอใจ ก่อนจะถึงวันไปญี่ปุ่นทั้ง สามคนก็ต้องหาวันมานั่งคุยกันก่อนเพราะว่าทำงานกันคนละที่และมาร่วมกันแกะโมเดลที่จะนำไปเป็นแบบในการแกะสลักหิมะที่ญี่ปุ่นก่อน โดยเราจะแกะเป็นโมเดลเล็กๆด้วยโฟม ขนาด 30 X 30 เซนติเมตร แล้วค่อยนำไปขยายแบบ 1 ต่อ 100 ในการแกะสลักของจริง

  • เมื่อเมืองไทยไม่มีหิมะแบบนี้ มีการฝึกซ้อมกันอย่างไร

ทักษะการแกะสลักของเราทุกคนมีกันอยู่แล้ว อีกทั้ง ยังมีพื้นฐานการวาดรูปทักษะการแกะสลักก็ได้ฝึกจากงานที่ทำอยู่ทุกๆวันอยู่แล้ว เช่น แกะสลักน้ำแข็ง แกะโฟม แกะช็อกโกแลต การทำงานก็เหมือนกับการซ้อมไปในตัว ดังนั้น การไปแข่งขันในแต่ละปีถือเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์เพิ่มขึ้นทุกครั้ง ทำให้เรารู้ว่าครั้งต่อไปเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร

  • ความแตกต่างในการแกะสลักหิมะ กับ การแกะสลักน้ำแข็ง แตกต่างกันหรือไม่

    การแกะสลักหิมะนั้นใกล้เคียงกับการแกะสลักน้ำแข็งซึ่งความยากง่ายนั้นมันขึ้นอยู่ที่อุณหภูมิของภูมิอากาศมากกว่า อุณหภูมิที่กำลังดีจะอยู่ที่ประมาณ -8 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากน้อยไปกว่านี้ก็จะเริ่มมีผลต่อผลงานของเรา ยิ่งอากาศประมาณ -2 องศาเซลเซียสก็ถือว่าแย่มากๆ เพราะถ้าอากาศอุ่นหรือร้อนไปหิมะจะละลายเรื่มกลายเป็นน้ำอาจทำให้เราแกะไม่ได้

แต่ในปี 2558 ที่เราแข่งแกะสลักหิมะ ชื่อ รถตุ๊กตุ๊ก ตอนนั้นอากาศแย่มาก แต่เราโชคดีที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งในปีนี้ผลงานของเราชิ้นนี้ก็ได้แชมป์ด้วย

  • ประเทศไทยเริ่มเป็นตัวเต็งในการแข่งแกะสลักหิมะเมื่อไหร่

งานศิลปะของประเทศไทย เป็นงานที่มีความละเอียดอ่อน เวลาไปแข่งกันชาติอื่นเห็นก็จะแซวกันเล่นๆว่าพวกเรา Grand Champion เพราะทีมไทยแข่งขันแกะสลักนับว่าเป็นประเทศที่ครองแชมป์มากที่สุด มีผลงานอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

 


ผลงานแกะสลักรูปช้าง ่(พ่อแม่ลูก) ชื่อ Family ปี พ.ศ.2552

 


ผลงานแกะสลักรูปครุฑยุดนาค ชื่อ Guruda and Naga ปี พ.ศ.2553

 


ผลงานแกะสลักรูปไกรทองสู้กับสาละวัน ปี.พ.ศ 2553

 


ผลงานแกะสลักรูปช้างวาดรูป ปี 2556

 


ผลงานแกะสลักรูปรถตุ๊กตุุ๊ก ชื่อ The Ubiquitous TUK-TUK ปี พ.ศ.2558

 


ผลงานแกะสลักรูปไก่ชน 2 ตัว พ.ศ. 2559

 

ผลงานแกะสลักรููปปลากัด พ.ศ, 2562

ทีมนักแกะสลักหิมะชาวไทยที่สร้างสรรค์ผลงาน “ปลากัด” สัตว์น้ำประจำชาติ สะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำของคนไทย เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยไปสู่สายตานักท่องเที่ยวนานาชาติ ในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 46” จัดขึ้นภายใต้เทศกาลหิมะ “Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 70 ซึ่งเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในวันที่ 3-7 กุมภาพันธ์ 2562 ณ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

 


ผลงานแกะสลักชิ้นล่าสุด รูปเต่า พ.ศ. 2563

และเป็นที่แน่นอนว่าแชมป์ล่าสุดในปี 2020 หนีไม่พ้น ทีมนักแกะสลักหิมะชาวไทย ที่ สร้างสรรค์ผลงาน “Future in our hands” สะท้อนอนาคตสัตว์ทะเลขึ้นที่ทุกคนต้องดูแลรับผิดชอบและส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 47” จัดขึ้นภายใต้เทศกาลหิมะ “Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 71 ซึ่งเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ณ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

  • เกณฑ์การตัดสินแพ้ชนะ

โดยปกติดูเรื่องคอนเซ็ปต์ การดีไซน์ การจัดวางองค์ประกอบ ความสวยงามและความละเอียดอ่อน ความตั้งในการทำงานทีมงานให้คว่ามสำคัญ ในเรื่องรายละเอียดซึ่งประเทศอื่นอาจดูมีรายละเอียดมากว่าเราอีก แต่การตัดสินของกรรมการอาจวัดจาก ผลงานที่เราทำได้แรงบรรดาลใจยัง กรรมการอาจตัดสินตรงที่เราตีตวามหมายของผลงานออกมาได้ดีมากกว่า

( ภาพเบื้องหลังการทำงานของทีมงานแกะสลักคนไทย )

ประเทศไทยได้แชมป์แกะสลักหิมะ อันดัที่ 1 ปี 2020 ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ได้รับรางวัล 3 ปีซ้อน กลายเป็น Grand Champion : ผลงานชุด Future in our hands

สรุปผล : การแข่งขันแกะสลักหิมะ “Sapporo International Snow Sculpture”

( ครั้งที่ 47 )

รางวัลอันดับที่ 1 ทีมประเทศไทย ชื่อผลงาน “Future in our hand”
รางวัลอันดับที่ 2 ทีมประเทศอินโดนีเซีย ชื่อ “Orang Utan the Endangered Habitat”
รางวัลอันดับที่ 3 ทีมประเทศฟินแลนด์ ชื่อผลงาน “THE SPIRAL”
รางวัลอันดับที่ 4 ทีมประเทศสิงคโปร์ ชื่อผลงาน “XYZ Star”
รางวัลอันดับที่ 5 ทีมมาเก๊า (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ชื่อผลงาน “Galloping”

ผลงานชิ้นโบแดง (รูปเต่า) มีชื่อว่า Future in our hands
ชนะเลิศอันดับที่ 1 สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกครั้ง ปี 2020
ถือเป็นความภาคภูมใจของเราชาวไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ (ททท.) เชื่อมั่นว่า ผลงาน “Future in our hands” จะช่วยตอกย้ำถึงความสามารถช่างแกะสลักของคนไทย ถือเป็นระดับแนวหน้าของโลก เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ที่จะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมากับ ทัวร์ญี่ปุ่น และหันเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากได้อย่างแน่นอน

จากผลงานที่เราได้ชมไปนั้น มันช่างดูอลังการงานสร้างแถมผลงานที่ทำออกมาแต่ละชิ้นเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย บางท่านคงที่ส่งแรงเชียร์ และคงใจจดใจจ่อรอดูผลงานที่ทำเสร็จออกมารวมทั้งรอลุ้นผลการตัดสิน ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนดูผลการตัดสินที่ประเทศไทยได้แชมป์อันดับ 1 มีผลงานรูปแบบเป็นอย่างไร แข่งขันช่วงปีไหน เราจึงนำภาพมาประกอบพร้อมบอกข้อมูล เพื่อให้ท่านดูและเข้าใจมากขึ้น

ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวต่างประเทศหรือชอบเดินทาง ทัวร์ญี่ปุ่น ไปเมืองที่มีอากาศหนาวมีหิมะตก อย่างเช่น เมืองซัปโปโร ก็คงเป็นอีกทางเลือกหนึงที่น่าไป ทว่าคิดไปคิดมาเที่ยวงานเทศกาลนี้เหมือนได้รับรางวัลสองเด้งเลยได้ทั้งเที่ยวที่ที่อยากไป แถมได้ชมงานเทศกาลแข่งแกะสลักหิมะ ที่มีคนไทยไปแข่งขันแล้วชนะกลับมา ถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ชมผลงานของจริง ถ้าได้ไป ทัวร์ญี่ปุ่น ในช่วงที่มีเทศกาลอย่างนี้มันคุ้มแสนคุ้มจริงๆ ไปเที่ยวที่นี่ทีไรก็ยังคงได้รับความสุข ความสนุก และยังได้ตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้ไปแน่นอน

สุดท้ายนี้ เราขอเป็นตัวแทนชาวไทยที่อยากกล่าวคำขอบคุณแกนนำหลักสำคัญอย่าง ททท.ที่หากิจกรรมที่ดีๆผลักดันกิจกรรมที่ดีและช่วยส่งเสริมสนับสนุนการทำงานให้เกิดพี่ๆทีมงานแกะสลักทุุกคนที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทยทุกคนออกไปแข่งขันสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามโลกประจักและที่สำคัญยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้ภาคภูมิใจกัน ดังนัั้น เราคงต้องหยิบคำนี้ขึ้นมาแล้วผงาดพูดขึ้นมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีกันเลยว่า คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก และขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จากพี่ๆที่มา แชร์ประสบการณฺ์เล่าเรื่องราวต่างๆ และแง่คิดดีๆ ให้เราได้รู้ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี และถือเป็นประโยชน์ และเป็นตัวอย่างให้ใครหลายคนอีกด้วย

ทัวร์ไต้หวัน ตามรอยเส้นทางรถไฟสายผิงซี

โดยปกติ ดอกชิบะซากุระ หรือ พิงค์มอส จะบานช่วงปลายเดือน เมษายน ไปจนถึง ต้นเดือนมิถุนายน ของทุกปี ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่งหลายทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้นด้วย

สถานีผิงซี (Pingxi Station,) ตั้งอยู่ถัดไปจากสถานีซือเฟิ่นเป็นอีกหนึ่งสถานีที่สามารถคงความดั้งเดิมของสถานีรถไฟและบ้านเรือนไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยสถาปัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และถนนโบราณผิงซี (Pingxi Old Street, 平溪老街) ที่มีทั้งร้านอาหารท้องถิ่น และร้านขายของที่รมีการจัดงานเทศกาลลอยโคมผิงซี(PingXi Sky Lantern Festival) เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนขึ้นที่นี่ด้วย และแน่นอนว่ากิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมาก คือ การปล่อยโคมลอยกระดาษกลางรางรถไฟที่ตัดผ่านโดยจะมีการเขียนคำขอพรหรือข้อความสะเดาะเคราะห์เอาไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองส่วน

และสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยว ทัวร์ไต้หวัน นิยมและต้องเดินทางมาชมกันให้ได้ ก็คือ งานเทศกาลปล่อยโคมไฟ นั่นเอง

 

นอกจากการนั่งรถไฟสายเก่า และชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดสองข้างทางแล้วn นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะเพื่อเที่ยวชมตัวเมืองและจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ของแต่ละสถานีที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้ด้วย โดยจะมีทั้งเส้นทางท่องเที่ยวชมธรรมชาติ, ภูเขา, แม่น้ำ, น้ำตกและอื่นๆ รวมทั้งย่านถนนสายเก่าที่มีการเปิดเป็นร้านค้า, ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกให้สามารถเดินเลือกซื้อของฝากและชิมอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่เก็บรวมรวมความทรงจำในอดีตเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละเมืองเอาไว้ให้ได้เข้าชมกันอีกด้วย

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไป ทัวร์ไต้หวัน ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดก็ตาม จากภาพที่เรามีให้ชมนั้น ล้วนแล้วแต่มีผู้คนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมาสัมผัสด้วยเองว่ามันเยี่ยมขนาดไหน เราไม่อยากให้คุณพลาดความสนุกสนานนี้ไปเลย รับรองได้ว่าถ้าคุณได้ไปแล้วหละก็ คุณต้องอยากกลับมาที่นี้อีกครั้งแ่นอน ส่วนใครที่ยังไม่เคยมา ลองมาดูสักครั้งสิการเดินทางก็ง่ายสะดวกไม่ไกลเมืองไทยบ้านเรานักไม่ว่าคณจะมาเดี่ยว มากับคู่รัก มากันครอบครัวหรือมาเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะมาแบบไหนก็สามารถจองตั๋วเดินทางส่วนตัวก็ได้ หรือคุณจะใช้บริการจองตั๋วเดินทางไปกับ ทัวร์ไต้หวัน ก็ดีเพราะทีมงานจะคอยบริการให้คุณได้รับความสะดวกสบาย ตั้งแต่เดินทางไปจนถึงวันเดินทางกลับแน่นอน

ทัวร์เที่ยวไต้หวัน : 1 Day Tour

ไปทัวร์ไต้หวัน เดินทางไปวันเดียวก็เที่ยวได้ เดินทางไปทัวร์ท่องเที่ยว เริ่มต้นที่แรก ชมน้ำตกซือเฟิ่น (Shifen) เที่ยวชมเทศกาลปล่อยโคมลอย แวะซื้อของฝาก

น้ำตกซือเฟิ่น (Shifen) ขึ้นชื่อว่าเป็น น้ำตกไนแองการา ของไต้หวัน น้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไต้หวัน และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม ในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งอยู่ในย่านผิงซี (Pingxi) เมืองนิวไทเป (New Taipei City) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากไทเปจุดท่องเที่ยวยอดฮิตของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ผิงซีอยู่ระหว่างสถานีซือเฟิ่น และสถานีต้าหััว (Dahua)

น้ำตกซือเฟิ่น จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนักด้วยความสูง 20 เมตรแต่ความกว้าง 40 เมตร ก็สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าชมได้ไม่น้อย ทั้งยังมีความงดงามไม่แพ้น้ำตกอื่นๆจนได้รับการขนานนามว่า “ไนแองการ่าแห่งไต้หวัน” (Taiwan’s Niagara Falls) เนื่องด้วยลักษณะของขอบน้ำตกโค้งรูปเกือกม้า และมีน้ำไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ คล้ายกับน้ำตกไนแองการ่า ของประเทศสหรัฐอเมริกา

นไนแองการ่าแห่งไต้หวัน

สะพานราวไม้ทางเดินชมน้ำตก


จุดชมวิว น้ำตกซือเฟิ่น

เที่ยวงานเทศกาลปล่อยโคมลอย

โคมลอยหลายพันดวงสว่างไสวอยู่กลางท้องฟ้ายามค่ำคืนของไต้หวัน หลังประชาชนพร้อมใจเขียนคำอธิษฐานและส่งความปรารถนาดีของพวกเขาสู่สวรรค์ โคมลอยกว่า 2,000 ดวงถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าในเขตผิงซี ใกล้กับกรุงไทเป ด้วยความสวยงามของโคมไฟที่ส่องสว่างไสวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นสวยงามมาก นักท่องเที่ยวจึงนิยมไปและไม่อยากพลาดงานนี้แน่นอน เที่ยวชมโคมไฟไป แวะซื้อของฝากเพลินๆกันสักหน่อยก่อนจบทริป

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริปท่องเที่ยวทัวร์ไต้หวัน 1 วัน ดูน่าเพลิดเพลินน่าไปใช่ไหมหล่ะ ใครที่มีวันหยุดน้อย ก็ไม่ต้องน้อยใจที่ไม่มีวันหยุดยาว แค่หาวันหยุดพักผ่อนสักวัน แล้วคุณจะรูู้ว่าเที่ยวไต้หววันไม่ได้ยาก และไกลเลย ลองหาเวลามาเที่ยวกันให้ได้นะ แล้วคุณจะรู้ว่าความสนุกแค่เอื้อม

ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวเกาะ แดนอาทิตย์อุทัย

เที่ยวญี่ปุ่น ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีชื่อทางการว่า 日本国 [Nihon-koku] ซึ่งมีความหมายว่า “ดินแดนต้นกำเนิดพระอาทิตย์” หรือ “ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย”

ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลรอบด้าน มีขนาดพื้นที่ประมาณ 378,000 ตารางกิโลเมตร เกาะต่างๆของประเทศญี่ปุ่นนั้นเรียกรวมกันว่า หมู่เกาะญี่ปุ่นประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายกันอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นจำนวนมากกว่า 3,000 เกาะ ในวันนี้ เราจะพูดถึงสถานที่เที่ยวบนเกาะฮอนชู (Honshu) ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ และในแต่ละปีจะมีคนนิยมเดินทางมากันเรื่อยๆไม่ขาดสายเลยทีเดียว เกาะนี้มีสถานที่เที่ยวอะไรน่าสนใจและน่าไปบ้างนั้น ตามมาอ่านดูกันเลย

เกาะฮอนชู (Honshu)


เกาะฮอนชู ซึ่งประกอบด้วย 5 จังหวัด คือ ฮิโรชิมะ (Hiroshima) ทตโตริ (Tottori) โอคะยะมะ (Okayama) ยะมะงุชิ (Yamaguchi) ชิมาเนะ (Shimane) เดินทางโดยทางเครื่องบินจากไทย บินถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว จากนั้นต่อไฟลท์ภายในประเทศ ไปยังสนามบินทะคะมัทสึ จังหวัดโอคะยะมะ ท้องฟ้าแจ่มใส ได้เห็นภาพมุมสูงของ ภูเขาไฟฟูจิ แลนด์มาร์กสำคัญของญี่ปุ่น ด้วยการเดินทางสู่ ชูโงะคุ คุณสามารถเดินทางต่อได้ทั้งรถไฟหัวจรวดชินคันเซนหรือต้องการเดินทางเองแบบส่วนตัวแบบเช่าญี่ปุ่นรถขับเที่ยวเอง ก็ได้ เมื่อมาถึง โอคะยะมะ ที่แรกที่ต้องไปเยือน คือ ปราสาทโอคะยะมะ หรือ ปราสาทอีกาดำ อีกที่ที่ไม่ควรพลาด คือ ศาลเจ้าคิบิสึ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับตำนาน โมโมทาโร เดินทางเหนื่อยก็แวะพักกันที่ โรงแรมยุบะระโคคุไซคังโค ซึ่งมีไฮไลต์ คือ ยุบะระออนเซน ให้นอนแช่แก้เมื่อย พอพักกันจนหายเมื่อยแล้ว ก็ออกเดินทางต่อด้วยการนั่งรถออกนอกเมืองไปยัง จังหวัดฮิโรชิมะ เที่ยวเมืองเก่าในเขตอนุรักษ์คัตสึยามะ ย่านประวัติศาสตร์คุระชิกิบิคัง และสวนสันติภาพฮิโรชิมะ

จากนั้น เราไปต่อกันที่เกาะโอคุโนะชิมะ หรือเกาะกระต่าย เพลิดเพลินกับฝูงกระต่ายน่ารักๆ นับพันๆตัวจากเกาะกระต่าย ต่อไปเดินทางไปไหว้พระยังย่านเมืองเก่าทาเคะฮาระ ที่นี่มีวัดสวยบนเนินเขาชื่อ วัดไชโฮจิ ชม ปราสาทฮิโรชิมะ เราไปลงเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือมิยะจิมะกุชิ เมืองฮัตสึกาอิจิ ข้ามไปยังเกาะมิยะจิมะ สักการะ ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ หรือ ศาลเจ้าลอยน้ำ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก มี “เสาโทริอิยักษ์สีแดง” ตั้งเด่นกลางทะเล เวลาน้ำขึ้นจะทำให้รู้สึกเหมือนว่า ศาลาศาลเจ้าสีแดงที่เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน ลอยอยู่ในทะเลอย่างน่าอัศจรรย์

สุดท้ายเดินทางไป ยะมะงุชิ ชมความงดงามของ สะพานคินไตเคียว เป็นสะพานไม้ 5 โค้ง สร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ปี ค.ศ.1673 เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น หากใครมาทัวร์ญี่ปุ่นในช่วงเดือนเมษายน จะได้ชมประเพณีข้ามสะพานแบบโบราณ พร้อมกับดอกซากุระที่ผลิบานงดงาม


สถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวไปต้องขอยกนิ้วให้ สำหรับความน่าหลงใหล ทั้งธรรมชาติ สัตว์ป่าน่ารัก และสถานที่ต่างๆที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจริงๆ หากใครอยากจะมาท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นเราบอกเลยว่าเกาะฮอนชู (Honshu) ที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อได้มาเยือนญี่ปุ่นกัน

4 ฤดู กับ 4 สถานที่เที่ยวในไต้หวัน

ถ้าเราพูดถึงอากาศเมืองไทย มีกี่ดู คงมีแต่คนบอกว่า ร้อน ร้อนมาก หรือ โคตะระร้อนเลย (พูดแบบขำขำนะ) แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงประเทศที่มีทั้ง 4 ฤดู น่าเดินทางไปท่องเที่ยวคือ ทัวร์ไต้หวัน ซึ่งเป็นอีกประเทศในโลกที่น่าสนใจ และอยู่ไม่ไกลประเทศไทยมากนัก เราลองมาดูกันประเทศไต้หวันนั้น แต่ละฤดูที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนน่าไปเที่ยวกันบ้างนะ

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)

 


เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม

เริ่มตั้งแต่ เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม เมื่อสิ้นฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิในเดือนมีนาคม อุณหภูมิจะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส และอุ่นขึ้นเรื่อยๆ จนเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ 29 องศาเซลเซียส บรรยากาศในฤดูนี้จะสวยที่สุด จากสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นซากุระที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องถนนและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สวยงามไม่แพ้ญี่ปุ่นเลย เช่น วัดเทียนหยวน เขตตั้นสุ่ย (Tianyuan Temple – Tamsui District)

วัดเทียนหยวน (Tianyuan Temple) ถือเป็นแหล่งชมดอกซากุระบานที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของไต้หวัน ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากไทเปเท่าไหร่นัก และยังมีดอกซากุระบานเต็มรอบบริเวณ ทำให้ในช่วง full bloom สถานที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวทัวร์ไต้หวัน และชาวต่างชาติหลั่งไหลกันเข้ามา เพื่อชมความสวยงามของดอกซากุระ นอกจากนี้ ไฮไลท์ของที่วัดเทียนหยวนคงหนีไม่พ้นเจดีย์ทรงกลห้าชั้น ที่ตั้งเด่นเป็สง่าอยู่บนเนินเขาทำให้เวลาถ่ายรูปซากุระออกมาจะมีฉากหลังที่สวยแปลกตา และมีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยภายในเจดีย์ทรงกลมห้าชั้นนี้ เราสามารถเข้าไปไหว้ขอพรเทพเจ้าได้ทุกชั้น และสามารถเดินชมวิวถ่ายรูปจากมุมสูงได้อีกด้วย

ฤดูร้อน (Summer)


เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกันยายน

เริ่มตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกันยายน เมื่อเริ่มเข้าเดือนมิถุนายน อุณหภูมิไต้หวันจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส และจะร้อนในระดับนี้ไปจนจบฤดู ความร้อนของฤดูร้อนไต้หวันก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ยังเทียบชั้นประเทศไทยไม่ได้อยู่ดี ฤดูร้อนที่ไต้หวันเป็นฤดูที่มีพายุและฝนตกบ่อยที่สุด ลองไปทัวร์ไต้หวัน เที่ยวทะเลใต้หวันดูเสียหน่อยหาดยอดฮิตอย่าง อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park)

อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park) อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะไต้หวันมีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมบริเวณทางตอนใต้สุดของเกาะไต้หวัน ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สำหรับอุทยานแห่งชาติเขิ่นติง เริ่มเป็นที่รู้จักราวๆปี 1986 ที่เขิ่นติง (Kenting) เป็นสถานที่ที่ดีที่สุด ในการชมดาวหางฮัลเลย์ในช่วงเวลานั้น และเคยใช้เป็นฉากหนึ่ง ของภาพยนตร์ชื่อดังของไต้หวัน ทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้

ฤดูใบไม้ร่วง (Aumtumn)


เดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม

เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม อุณหภูมิจะต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม เป็นสัญญาณของการเตรียมตัวเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศจะเย็นพอๆ กับฤดูใบไม้ผลิ เมื่อไปเที่ยวไทเปไต้หวันในฤดูใบไม้ร่วง สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการดูใบเมเปิ้ล และถ่ายภาพวิวสวยๆ เพราะบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีส้มทั่วทั้งพื้นที่แบบนี้ หาดูค่อนข้างยากในประเทศไทย ส่วนสถานที่ยอดฮิตที่ผู้คนมักจะไปชมใบเมเปิ้ลมีมากมาย แต่สถานที่ที่เราขอแนะนำคือ ฝูโช่วซาน ฟาร์ม (Fushoushan Farm, Taichung, Taiwan)

ฟาร์มแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่ผู้ก่อตั้งฟาร์มรัก และผูกพันกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาอย่างยาวนานมากกว่า 40 ปี และไฮไลท์ของฟาร์มนี่ก็คือต้นเมเปิลหลากหลายสายพันธุ์ที่แข่งขันกันอวดสีสันแดงสดใส สลับกับเหลือง แสด มาที่นี่เราจะได้เพลินเพลิดไปกับธรรมชาติที่ละลานตามากๆเลยที่เดียว ใครจะมาที่นี่ แนะนำให้พักกันสัก 1-2 คืน จะดีกว่าจะได้ไม่เหนื่อยล้า จากการเดินทาง เพราะอาจจะใช้เวลาพอสมควรในการมาที่ฟาร์มแห่งนี้ แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน

ฤดูหนาว (Winter)

 

ภาพจาก : Yongyut

เดือนมกราคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์

เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูหนาวของไต้หวันจะไม่หนาวจัดจนมือชา หน้าชา หูแข็ง เหมือนเกาหลี แต่อากาศจะเย็นสบายท่องเที่ยวทัวร์ไต้หวันในฤดูหนาว อยากเห็นหิมะกันใช่ไหมถึงแม้อากาศในเมืองจะเย็นสบายน่าเดินเล่น แต่บนภูเขานั้นก็หนาวเหน็บจนมีหิมะสีขาวโพลนอย่างกับอยู่คนละประเทศ การปีนเขาก็เป็นเป้าหมายสำหรับคนที่อยากเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง ใครสนใจก็ลองไปปีน เขาเหอหวนซาน (Hehuanshan Mountain)

ภาพจาก : Yongyut

เขาเหอหวนซาน อยู่ห่างจากเมือง Cingjing ประมาณ 25 กิโล แต่เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขา ถนนแค่สองเลนรถเลยต้องขับช้าๆ บางจุดถนนแคบมากใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมง รถไต่ระดับขึ้นไปมองผ่านกระจกรถ เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวเมฆบัง เดี๋ยวหมอกลง อากาศเปลี่ยนตลอดเส้นทาง แล้วเขาสูงมากจริงๆเห็นเมฆอยู่บนหัวแค่เพียงเอื้อมมือสวยงามมากยิ่งถ้าช่วงมหิมะตกนะยิ่งน่ามอง และต้องไม่พลาดไปทัวร์ไต้หวันให้ได้สักครั้ง

ทัวร์ยุโรปเที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศษ ฤดูไหนดี

ทวีปยุโรป ดินแดนแห่งอารยธรรม และศิลปะมหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง นั่นคือ สมญานามเพียงส่วนเดียวของนครปารีส ที่ถือเป็นศูนย์กลางการออกแบบ และแฟชั่นของโลก นครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รัก หอไอเฟล มหาวิหารรูอ็อง มงต์แซงต์มิเชล ชาโตชองบอร์ด รัฐโมนาโก หรือไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นำเที่ยวโดยทีมงานบริษัททัวร์มืออาชีพไปกับทัวร์ยุโรป

หากคุณมีแผนไปเที่ยวยุโรปโซนตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ (Switzerland) อิตาลี (Italy) ฝรั่งเศษ (France) แต่ละประเทศนั้นมีสถานที่เที่ยวที่ไหนที่สวยงามน่าไป แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับช่วงฤดูที่่ใช่ และอุณหภูมิช่วงเดือนที่เหมาะสมกับสถานที่ที่จะเดินทางไปด้วย ดังนั้น วันนี้อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตะลอน ทัวร์ยุโรป ประเทศต่างๆที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น จะมีสถานที่เที่ยวไหนน่าเดินทางไปช่วงไหนของปีบ้างนั้นตามมาดูกันเลย

ช่วงฤดูหนาว ( Winter )

 

เดือน : ธันวาคม – กุมภาพันธ์

สถานที่ท่องเที่ยว : Grindelwald ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เมืองกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) เมืองรีสอร์ทที่สมบูรณ์แบบของสวิส ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงวันหยุดพักผ่อน มีอุณหภูมิประมาณ – 3 องศา ถึง 6 องศา ซึ่งหากเป็นพื้นที่บนภูเขาสูงอาจมีอุณหภูมิ -10 องศา คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้เวลาว่างในการออกสำรวจ ความงดงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันยอดเยี่ยม ซึ่งรวมถึงยอดเขาที่มีชื่อก้องโลกทั้ง 3 แห่ง อย่าง ไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Monch) และจุงเฟรา (Jungfrau) ลองทำกิจกรรมแสนสนุกมากมาย เช่น การนั่งกระเช้าลอยฟ้า (ออกค่าใช้จ่ายเอง), เดินข้ามสะพานแขวน Cliff Walk หรือนั่งรถไฟไปเที่ยวชมความงดงามของเทือกเขารายล้อมปกคลุมไปด้วยหิมะขาวที่ภูเขาริจิ ในเทือกเขาแอล์ป ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (Spring)

 

เดือน : มีนาคม – พฤษภาคม

สถานที่ท่องเที่ยว : เวนิส ประเทศอิตาลี

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสุดในการมาเที่ยวประเทศอิตาลี อุณหภูมิประมาณ 7-14 องศา ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังผลิดอกบานซะพรั่ง ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับบรรยากาศสุดฟินในช่วงนี้พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าเดิม ทำให้มีช่วงเวลากลางวันที่ยาวขึ้น ช่วงฤดูนี้เป็นอีกฤดูหนึ่งที่น่าเที่ยวมาก เมืองที่ตกแต่งสวยงามด้วยดอกไม้ ที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือน ที่มีสีสันสวยงามสองฝั่งแม่น้ำ เช่น เวนิส มนต์เสน่ห์ แห่งอิตาลี เมืองแห่งสายน้ำสุดโรแมนติก เมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้ เวนิส เป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก ดินแดนในฝันที่ใครๆหลายต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต ลองไปทัวร์ยุโรป ที่อิตาลีแล้วรับรองว่าคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันสุดแสนน่าประทับใจแน่นอน

ฤดูร้อน (Summer)

เดือน : มิถุนายน – สิงหาคม

 

สถานที่ท่องเที่ยว : ชมทุ่งลาเวนเดอร์ เมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศษ

เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน มีอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น เปลี่ยนประมาณ 20 องศา – 28 องศา สถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศ อันแสนจะคึกคักสุดๆเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่มาทัวร์ยุโรป ได้เดินทางมาเยือนประเทศฝรั่งเศส ชมทุ่งลาเวนเดอร์ เมืองโพรวองซ์ (Provence) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส บนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ติดกับประเทศอิตาลี มีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ โพรวองซ์ซาลป์-โกตดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d’Azur) ที่มีสภาพภูมิประเทศ ที่หลากหลายเชื่อมระหว่างเทือกเขาแอลป์ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอาชีพหลักของคนที่นี่ คือ การปลูกทุ่งลาเวนเดอร์ และการทำไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์ แคว้นผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส บอร์กโดซ์ ภาพของบ้านหลังเล็กสีสดใสแทรกตัวระหว่างพุ่มลาเวนเดอร์ และพวงองุ่นช่อโตที่งดงามเหมือนในเทพนิยาย อีกทั้งยังมีศิลปินระดับโลกอย่าง เซซานน์ (Cézanne) และแวน โก๊ะห์ (Van Gogh) จุดกำเนิดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะยุคโพสอิมเพรสชั่นนิสม์ (Post-Impressionism)

หวังว่าบทความที่เราได้แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละประเทศนั้น อาจจะทำให้ใครๆหลายคนตกหลุมรัก กับมนต์เสน่แห่งความงดงาม และเชื่อว่าคงจะอดใจไม่ไหว หาวันหยุดยาว รีบวางแผนเตรียมเก็บกระเป๋าจองตั๋วพร้อมออกเดินทางไปท่องเที่ยว ทัวร์ยุโรป ไม่พลาดแน่นอน

แนะนำเครื่องรางของไต้หวัน

บทความนี้เราจะมาเอาใจสายชอบสะสมเครื่องรางของขลัง ของประเทศไต้หวัน วัดหลงซาน อย่างที่เรารู้กันว่าคนส่วนใหญ่ที่จะไปทัวร์ไต้หวัน 1 ในโปรแกรมทัวร์ไต้หวัน จะต้องมีการไปไหว้พพระขอพร กับวัดชื่อดังต่างๆของประเทศไต้หวัน เพื่อความเป็นสิริมงคล หลายคนเดินทางเพื่อเจาะจงขอพรต่างๆโดยเฉพาะก็มี แต่การขอพรอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะหลายคนก็ชอบที่จะไปซื้อเครื่องรางที่ไต้หวันอีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเครื่องรางของไต้หวัน ว่ามีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่บ้าง

 

วัดเม่งเจียหลงซาน หรือ วัดหลงซาน เป็นวัดจีนเก่าแก่และศาลเจ้าจีนที่ตั้งอยู่ในเขตวานหัว กรุงไทเป ไต้หวัน วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้มาตั้งถิ่นฐานที่อพยพมาจากฝูเจียนในช่วงราชวงศ์ชิง

ที่อยู่: No. 211, Guangzhou Street, Wanhua District, Taipei City, ไต้หวัน 10853
เปิดทำการ: พ.ศ. 2281
ชั่วโมง:
เปิด ⋅ ปิด 22:00

โทรศัพท์: +886 2 2302 5162
ปีที่เริ่ม: ค.ศ. 1738

ขอบคุณรูปภาพจาก : pantip.com/topic/38422549

ทัวร์ยุโรป ที่ประเทศฮังการี

ประเทศอฮังการี คือหนึ่งประเทศในโซนยุโรป ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง และยังเป็นประเทศที่เก่าแก่ที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตมากนัก หากใครอยากไปทัวร์ยุโรป ก็อย่าลืมนึกถึงประเทศฮังการี อย่าง บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่สวยงามติดอันดับของโลก และยังมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านกลางเมือง ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปะวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน

และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของประเทศฮังการีก็คือ อาหาร เพราะอาหารของที่นี่จะไม่เหมือนประเทศยุโรปกลาง ส่วนผสมหลักของอาหารที่นี่คือ ปาปริก้า พร้อมทั้งยังมีเครื่องเทศผสมที่คล้ายกับแกงไทย นอกจากอาหารแล้ว คนฮังการี ยังชอบดื่ม เหล้ากลั่นผลไม้ มีชื่อว่า ปาลิงก้า ใครอยากทัวร์ยุโรป ประเทศฮังการี ก็น่าสนใจไม่น้อยนะครับ มาดูกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของที่นี่ มีอะไรบ้าง

1.มหาวิหารเซนต์สตีเฟน(St.Stephen Basilica) ซึ่งมหาวิหารแห่งนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ.1851 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เซนต์สตีเฟน กษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชอาณาจักรฮังการี มีความสูงถึง 96 เมตร

 

2.สะพานเชนเซเชนยี (Széchenyi Chain Bridge)

เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่งแม่น้ำดานูบ ฝั่งบูดากับฝั่งเปสต์ไว้ด้วยกัน ถือเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป

3.ปราสาทบูดา (Buda Castle)

ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง บูดาเปสต์ ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้เห็นได้แบบสะดุดตา และมีความยาวถึง 300 เมตร ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของกษัตริย์ฮังการีและเป็นป้อมปราการสำหรับป้องกันผู้รุกราน ในยุคอดีตการณ์

4.โรงอาบน้ำเซเชนยี (Széchenyi Thermal Bath)

เป็นโรงอาบน้ำที่มีน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นน้ำแร่ธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะแช่แบบกลางแจ้ง หรือแช่แบบในร่ม

5.ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion)

เป็นป้อมปราการที่สร้างเพื่อระลึกถึงความเสียสละของกลุ่มชาวประมงที่รวมตัวกันปกป้องดูแลเมืองบูดาเปสต์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งสถานที่

6.จัตุรัสวีรชน (Heroes’ Square)

สร้างขึ้นมาเพื่อฉลองครบรอบ 1,000 ปีประเทศฮังการีนั่นเอง จัตุรัสวีรชนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์วีรบุรุษแห่งฮังการีในอดีต

7.เกลเลิร์ต ฮิลล์ (Gellert Hill)

สถานที่ชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวบูดาเปสต์ทั้งสองฝั่งได้แบบพาโนรามาก็ต้องมาที่เกลเลิร์ต ฮิลล์แห่งนี้เลย เพราะที่นี่เป็นเนินเขาสูง ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองได้ทั้งสองฝั่ง

8.เซเกสเฟเฮอร์วาร์ (Székesfehérvár)

เมืองปราสาทแห่งรักชั่วนิรันดร์ เมืองเซเกสเฟเฮอร์วาร์เป็นเมืองสำคัญด้านประวัติศาสตร์ของฮังการี ในเมืองมีปราสาทและพระราชวังเก่าแก่มากมาย

9.เมืองเอเกอร์ (Eger)

เมืองทางตอนเหนือที่มีโบสถ์สำคัญและมีสถานที่เก็บกระดูกบุคคลสำคัญในฮังการีไว้มากมายอย่างโบสถ์เอเกอร์ (Eger Basilica)

10.เมืองเปชส์ (Pécs)

เมืองสุดท้ายในฮังการีที่เอ็กซ์พีเดียอยากจะแนะนำได้แก่เมืองเปชส์ เมืองในหุบเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวิถีชีวิตชาวยุโรป เพื่อนๆ สามารถแวะเวียนไปสัมผัสชีวิตวิถีชุมชนได้ เช่น ไปแช่น้ำร้อนที่ห้องอาบน้ำเก่าแก่ที่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ของชาวเติร์ก เป็นต้น

โรงแรมที่คนไปทัวร์ญี่ปุ่น นิยมไปพัก

สำหรับประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปทัวร์ญี่ปุ่น นั่นก็คือเมือง Tokyo เมือง Osaka เมือง Sapporp เมือง Fujikawaguchiko เมือง Kyoto เมือง Takayama เมือง Nagoya เมือง Hakodate เมือง Narita และเมือง Fukuoka ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง หากคุณเลือกเมืองที่อยากจะไปทัวร์ญี่ปุ่นไว้แล้ว กำลังมองหา โรงแรมที่พัก วันนี้เราจะมาแนะนำ โรงแรมที่คนไปทัวร์ญี่ปุ่น นิยมไปพักมาฝากกันครับ

โรงแรมตามภูมิภาคที่นิยมของญี่ปุ่น

1.จังหวัดโตเกียว 2.จังหวัดโอซาก้า 3.ฮอกไกโด 4.กุนมะ 5.คิวชู 6.ชิบะ 7.โอกินาว่า 8.ไซตามะ 9.เกียวโต 10.ฟุกุโอกะ

11.คุมาโมโตะ 12.นิเซโกะสกี 13.ภูเขาฟูจิ 14.อาโอโมริ 15.อิบารากิ 16.ยามานาชิ 17.โทชิกิ 18.นากาโนะ 19.ฮิโรชิมา

20.กิฟุ

โรงแรมยอดนิยมในญี่ปุ่น

1.TUNE STAY KYOTO

ที่อยู่: 708 Ebisunocho, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8310 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 75-644-6660

http://tune-stay.kyotohotelspage.com/en/

 

2. Mitsui Garden Hotel Fukuoka Gion

ที่อยู่: 2 Chome-8-15 Hakata Ekimae, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0011 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 92-414-3131

https://www.gardenhotels.co.jp/fukuoka-gion/eng/

 

3. ONSEN RYOKAN YUEN SHINJUKU

ที่อยู่: 5 Chome-3-18 Shinjuku, Shinjuku City, Tokyo 160-0022 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 3-5361-8355

https://ryokan-yuen.jp/en/room/

 

4. Nest Hotel Hiroshima Hatchobori

ที่อยู่: 13-12 Noboricho, Naka Ward, Hiroshima, 730-0016 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 82-225-6090

 

5. Hotel Vischio Kyoto by GRANVIA

ที่อยู่: 44-1 Higashikujo Kamitonodacho, Minami Ward, Kyoto, 601-8002 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 75-280-0055

https://www.hotelvischio-kyoto.com/en/

 

6. Randor Residential Hotel Sapporo Suites

ที่อยู่: 7 Chome-1-2 064-0805 Minami 5 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0805 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 11-521-7210

https://randorresidentialhotelsapporosuites.jphotel.site/th/

 

7. Hamacho Hotel Tokyo

ที่อยู่: 3 Chome-20-2 Nihonbashihamacho, Chuo City, Tokyo 103-0007 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 3-5643-1811

https://hamachohotel.jp/en/

 

8. Four Points by Sheraton Nagoya, Chubu International Airport

ที่อยู่: 4-10-5 Centrair, Tokoname, Aichi 479-0881 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 569-84-8888

 

9. karaksa hotel grande Shin-Osaka Tower

ที่อยู่: 3 Chome-3-24 Miyahara, Yodogawa Ward, Osaka, 532-0003 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 6-6391-6602

https://karaksahotels.com/en/shin_osaka/

 

10. Hiyori Hotel Osaka Namba Station

ที่อยู่: 3 Chome-1-2 Nanbanaka, Naniwa Ward, Osaka, 556-0011 ญี่ปุ่น

โทรศัพท์: +81 6-6643-5280

ทัวร์ญี่ปุ่น เดินเที่ยวกำแพงหิมะ ตามรอยแอลป์

เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะเปรียบเป็น “หลังคาของญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นเส้นทางทะลุผ่านเขาทาเตยามะ แอลป์ญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเล 2400 เมตร ที่สามารถข้ามผ่านจากจังหวัดโทยาม่าไปจังหวัดนากาโน่ โดยการนั่งยานพาหนะชนิดต่างๆ ไม่เพียงแต่ความงดงามของเทือกเขาแอลป์ ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมาก และบรรดานักเดินเขาตื่นตะลึงแล้ว

นักท่องเที่ยวยังจะได้รับประสบการณ์ชมวิวอันกว้างใหญ่ และสวยงามอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย วิวทิวทัศน์ในมุมกว้างบนเส้นทางที่ เป็นทิวเขาข้ามผ่านพื้นที่ราบเท็นงุไดระ กำแพงหิมะ “ยูคิโนะโอทานิ” (หลังเปิดเส้นทางปลายเดือนเม.ย.-พ.ค. เป็นกำแพงหิมะมีขนาดใหญ่ที่สุดหลังเดือนมิถุนายน กำแพงหิมะจะลดระดับความสูงเรื่อยๆ แม้จะเข้าเดือนสิงหาคม ก็ยังมีหิมะเหลือให้เล่นกันได้) หรือถ้านักท่องเที่ยวชอบแนวท้าทายผจญภัยปีนเขาก็มีนะ

ปีนเขาของนักปีนเขาในพี้นที่อิจิ-โนะ-โกชิ โทยาม่า ภูเขาทาเตยามะเป็นสถานทัวร์ญี่ปุ่นที่จัดเพื่อให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น และนักปีนเขาจำนวนมากเดินทางเข้ามาได้โดยสะดวกภาพทิวทัศน์ที่ชมแล้วน่าประทับใจนี้มีหลากหลายความสวยงามและแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ซึ่งจะเห็น ได้บนเส้นทางที่ทอดยาวราว 90 กิโลเมตร


ช่วงวัน เปิด-ปิด ให้บริการ
ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริิการทุกเส้นทาง (เด็นเทสึโทยาม่า – ชินาโน่โอมัตจิ) 15 เมษายน 2019 – 30 พฤศจิกายน
ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการบางส่่วน (เด็นเทสึโทยาม่า – มิดางะฮาระ) 10 เมษายน 2019 – 14 เมษายน

ปิดเส้นทางตั้งแต่ เดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนเมษายน

ความ“ประสมประสานกัน”ทางธรรมชาติกับการท่องเที่ยว
การปกป้องรักษาสภาพแวดล้อมภูเขาที่กว้างใหญ่สวยงามแห่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเรา เพื่อมุ่งหวังให้เส้นทางแอลป์ทาเตยามะ-คุโรเบะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบเดินชมตามแนวเส้นทางธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในโลก ด้วยเหตุนี้เราจึงใช้ยานพาหนะระบบใช้ไฟฟ้า กระเช้าไฟฟ้าที่ลดการปล่อยมลพิษออกมาให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

 

ถ้าคุณเป็นผู้ที่ชอบหลงใหลความงามของธรรมชาติแบบนี้หรือชอบผจญภัยชอบเที่ยวแนวลุยๆท้าทายทั้งความสูง และความหนาวหล่ะก็ สถานที่แห่งนี้แหละจะตอบโจทย์
ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยาก เพียงคุณตั๋วเลือกบริการเดินทางไปกับทัวร์ญี่ปุ่น เพียงเท่านี้ง่าย คุณก็จะได้ไปผจญภัยกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ มันส์ๆกันเลย

ทัวร์ยุโรป เที่ยวโปแลนด์

โปแลนด์ (Poland) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของทวีปยุโรป ซี่งเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ในชีวิตต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นประเทศที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดี มีธรรมชาติภูเขาป่าดงพงไพรอันอุดมสมบูรณ์ และยังมีทะเลสาบที่งดงาม เราอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตติดอันดับที่คุณไม่ควรพลาดทัวร์ยุโรปไปชม จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

 

  • มหาวิหารวาเวล (Wawel Cathedral)

มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า อัครอาสนมหามหาวิหารหลวงนักบุญสตานิสลาฟ และ นักบุญวาสลาฟบนเนินเขาวาเวล (Bazylika archikatedralna św. Stanisława i św. Wacława w Krakowie) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกประจำอัครมุขมณฑลกรากุฟ ตั้งอยู่บนเนินเขาวาเวลที่เมืองกรากุฟ ประเทศโปแลนด์ เป็นอาสนวิหารที่มีประวัติเก่าแก่ยาวนานราวๆหนึ่งพันปี และเป็นสถานที่ทำพิธีอภิเษกของพระมหากษัตริย์ของประเทศโปแลนด์ สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันแบบกอทิก เป็นอาสนวิหารที่สามที่สร้างขึ้นบนตำแหน่งเดียวกันนี้ยังเป็นอาสนวิหารแรกสร้างขึ้น และถูกทำลายในคริสต์ศตวรรษที่ 11 มหาวิหารที่สองที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้ถูกทำลายในเพลิงไหม้ในปี ค.ศ.1305 การก่อสร้างมหาวิหารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเริ่มขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ตามคำสั่งของบิชอป

 

  • ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle)

ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle) ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศโปแลนด์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบทรงกอธิค ที่มีความยิ่งใหญ่ และงดงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นปราสาทก่อสร้างจากอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมที่นี่ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์กรยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1997 ด้วยสีสันสีส้มอิฐสวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศ ที่นี่เป็นวิหารของนับรบศาสนาคริสต์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 13 สิ่งก่อสร้างภายในเป็นศิลปะแบบยุคกลางที่ออกแบบให้แข็งแรงและรองรับต่อการสู้รบในช่วงสงครามยุคกลางเกิดความเสียหายและได้รับการซ่อมแซมและบำรุงรักษาในช่วงศตวรรษที่ 19-20 จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามให้ได้ชมกันจนถึงปัจจุบันนี้

  • เหมืองเกลือวิเอลิคชกา (Wieliczka Salt Mine)

วิลลิกซ์กา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโปแลนด์ สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดนักท่องเที่ยว 1.5 ล้านคนในปีนี้ โดยจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากมายที่ต้องแวะเวียนมาชมให้เป็นขวัญตาประกอบด้วยโบสถ์ที่แกะสลักจากเกลือ งานประติมากรรมจากเกลือ ทะเลสาบน้ำเค็มใต้ดิน และร่องรอยการขุดเกลือภายในเหมือง นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่นการช็อปปิ้ง การรับประทานอาหารเลิศรส การแสดงดนตรี การบำบัดด้วยสปาเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การพบปะกับคนงานเหมืองของที่นี่

 

  • ป่าเบียวอเวียชา (Białowieża Forest)

ป่าเบียวอเวียชาเป็นป่าไม้ขนาดใหญ่เขียวขจีทั่วทุกพื้นที่ตามแนวชายแดนโปแลนด์ และเบลารุสที่ในครั้งหนึ่งเคยปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินท่องป่าหรือปั่นจักรยานในป่าแห่งนี้ และยังสามารถชมไวเซนต์ นั่นคือ วัวกระทิงสายพันธุ์ยุโรป ที่ได้รับการคุ้มครองราว 800 ตัวได้อีกด้วย มันช่างเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามซะจริงๆ แล้วคุณจะพลาดได้ไง

 

  • ค่ายกักกันเอาชวิทซ์-เบียร์เคเนา (Auschwitz Concentration Camp)

ค่ายกักกันเอาชวิทซ์-เบียร์เคเนา ( Auschwitz-Birkenau) ในประเทศประเทศโปแลนด์ เป็นค่ายกักกัน และค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซี ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่สอง โดยในปี ค.ศ.1947 เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิต โปแลนด์ได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ณ ที่ตั้งของค่ายกักกันของสองค่าย และปี ค.ศ. 1994 มีนักท่องเที่ยวเข้าชมค่ายกักกันถึง 22 ล้านคน – 700,000 คนต่อปี ซึ่งที่ผ่านประตูจะมีอักษรบนเหล็กดัดว่า “การทำงานนำมาซึ่งอิสรภาพ” (Arbeit macht frei) และในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1945 ถือว่าเป็นวันปลดปล่อยค่ายกักกัน และกองทัพโซเวียตได้รำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผาพันธุ์นานาชาติ (International Holocaust Remembrance Day), วันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผาพันธุ์ในสหราชอาณาจักร และวันรำลึกในวาระที่คล้ายคลึงกันในประเทศอื่นๆอีกด้วย ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเยือน

สถานที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็มรดกโลก และเป็นสถานที่สำคัญในทางประวัติศาสตร์ของประเทศโปแลนด์ ทั้งนั้น เราไม่อยากให้คุณพลาดเสียโอกาสดีๆไป เมื่อคุณมีแพลนที่จะเดินทางไปทัวร์ยุโรป โปแลนด์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายควรเลือกไป เรารับประกันได้เลยว่า ถ้าคุณได้ไปแล้ว คุณจะไม่อยากรีบกลับกันเลย

คำศัพท์น่ารู้ก่อนทัวร์ยุโรป

สำหรับใครที่ไม่เก่งด้านภาษาอังกฤษ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องไปประเทศแถบยุโรป หรือแม้แต่อยากจะไปทัวร์ยุโรป เพื่อท่องเที่ยว พักผ่อนย่อนใจ วันนี้เรามีคำศัพท์น่ารู้ก่อนทัวร์ยุโรป 100 คำมาฝาก ให้คุณได้ลองฝึกพูดก่อนไปทัวร์ยุโรป และมาดูกันว่ามีประเทศยุโรป ประเทศไหนบ้างที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ได้แก่

1.ประเทศอังกฤษ 2.ประเทศไอร์แลนด์ 3.ประเทศไอร์แลนด์เหนือ 4.ประเทศสกอตแลนด์ 5.ประเทศมอลตา 6.ประเทศเวลส์ 7.ประเทศยิบรอลตาร์ 8.ประเทศไอล์ออฟแมน 9.ประเทศเจอร์ซีย์ 10.ประเทศเกิร์นซีย์

 

คำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่คนยุโรปใช้ในชีวิตประจำวัน

การทักทาย/แนะนำตัว

Hello, my name is ‘….’. สวัสดีฉันชื่อ….

Nice to meet you. ยินดีที่ได้รู้จัก

How are you? คุณสบายดีไหม?

Fine thanks, and you? ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ?

I’m okay, thank you. ฉันสบายดี ขอบคุณ

Where are you from? คุณมาจากไหน?

I’m from Thailand. ฉันมาจากประเทศไทย

What’s your job? คุณทำงานอะไร?

How old are you? คุณอายุเท่าไหร่?

I’m twenty-five years old. ฉันอายุ 25 ปี

When is your birthday? คุณเกิดวันไหน?

Fourth of July. วันที่ 4 กรกฎาคม

Do you have a mobile phone? คุณมีโทรศัพท์มือถือใช่ไหม?

Yes, I do. ใช่ ฉันมี

How long have you been here for? คุณอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว

What’s your nationality? คุณถือสัญชาติอะไร?

How tall are you? คุณสูงเท่าไหร่?

What is your weight? คุณน้ำหนักเท่าไหร่?

Everybody can be my friend. ทุกคนสามารถเป็นเพื่อนกับฉันได้

So we’ve met again,eh? เราจะได้พบกันอีกใช่ไหม?

 

งานอดิเรก/เวลาว่าง

What have you been doing? ช่วงนี้คุณทำอะไรบ้าง?

Who is your favourite singer? คุณชอบนักร้องคนไหน?

What kind of music do you like? คุณชอบเพลงแนวไหน?

I like pop music. ฉันชอบเพลงป๊อป

What’s your favorite food? คุณชอบอาหารแบบไหน?

What’s your favorite movie? หนังเรื่องโปรดของคุณคือเรื่องอะไร?

What’s your favorite sport? คุณชอบกีฬาอะไร?

My favourite sport is football. กีฬาโปรดของฉันคือ ฟุตบอล

What animals do you like? คุณชอบสัตว์อะไร?

I like dogs. ฉันชอบสุนัข

What kind of fruit do you like? คุณชอบผลไม้อะไร?

Do you like bananas? คุณชอบกล้วยไหม?

I like watching TV. ฉันชอบดูโทรทัศน์

I really like gardening. ฉันชอบการปลูกต้นไม้มากๆ

I love the cinema. ฉันชอบไปดูหนังที่สุด

I enjoy travelling. ฉันชอบการเดินทาง

I’m interested in photography. ฉันสนใจการถ่ายภาพ

I read a lot. ฉันอ่านเยอะมาก (ฉันชอบอ่าน)

How many languages can you speak? คุณสามารถพูดได้กี่ภาษา

Can you sing? คุณร้องเพลงได้ไหม?

 

การเดินทาง

Everyone, let’s go ทุกคนไปกันเถอะ

Please take me to this address. ช่วยพาฉันไปตามที่อยู่นี้หน่อย

Behind the bank. ด้านหลังธนาคาร

Across from the bank. อยู่ตรงข้ามกับธนาคาร

Be careful driving. โปรดระมัดระวังขณะขับรถ

I need to go home. ฉันอยากกลับบ้าน

Walk for about 10 minutes. เดินไปประมาณ 10 นาที

Do you know where the toilet is? คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ไหน?

It’s very far from here. มันอยู่ไกลจากที่นี่มาก

It’s on the other side of the park. อยู่อีกด้านหนึ่งของสวน

Cross the road. ข้ามถนน

You have to go that way. คุณเดินไปทางนั้นได้เลย

At the end of the road. สุดถนน

Turn left at the next corner. เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมข้างหน้า

You’re going to the wrong way. คุณกำลังไปผิดทางแล้ว

Go over the bridge. เดินข้ามสะพานไป

How can I get to the Grand Place? ฉันจะเดินทางไปพระราชวังได้อย่างไร?

Get in the car. ขึ้นรถเลย

Don’t forget to fasten the seat belt. อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย

I’ll take you to the bus stop. ฉันจะพาคุณไปที่ป้ายรถเมล์

ซื้อของ/ถามราคา

I’ll pay. ฉันจะจ่ายเอง

What do you want to eat? คุณอยากกินอะไร?

What are you looking for? คุณกำลังมองหาอะไร?

I’m looking for shoes. ฉันกำลังมองหารองเท้าอยู่

I’m just looking. ขอดูก่อน

Can I try it on? ขอลองได้ไหม?

It’s just right. พอดีแล้ว

I’ll take this one. เอาตัวนี้ล่ะ

I like it very much. ฉันชอบมันมาก

I’ll take it. จะเอาอันนี้

This is the last piece! นี่ชิ้นสุดท้ายแล้วนะ

Today is the last day of promotion. โปรโมชันวันนี้วันสุดท้าย

That seems expensive. ดูท่าจะแพงไปหน่อย

Do you have a less expensive one? คุณมีแบบอื่นที่ถูกกว่านี้ไหม?

What size do you wear? คุณใส่ไซส์อะไร?

How much is it? ราคาเท่าไหร่?

Can you give me a discount? ลดราคาหน่อยได้ไหม?

This is a special price for you. อันนี้เป็นราคาพิเศษแล้ว

Do you deliver? มีบริการส่งของไหม?

Does it have a warranty? มีประกันหรือเปล่า?

ประโยคทั่วไป

Thanks for everything. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง

That’s not fair. นั่นมันไม่ยุติธรรม

Can you translate this for me? แปลอันนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?

Try your best! พยายามให้ถึงที่สุด!

Almost done. เกือบเสร็จแล้ว

Everything is ready. ทุกอย่างพร้อมแล้ว

Forget about it. ช่างมันเถอะ

Just kidding. ล้อเล่นน่ะ

Always the same. เหมือนเดิมตลอด

How cute! ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้!

Have a good trip. เที่ยวให้สนุกนะ

How do you say it in English? คำนี้ออกเสียงอย่างไรในภาษาอังกฤษ

I think so. ฉันคิดว่าอย่างนั้น

Just a moment. รอสักครู่

He’s very annoying. เขาน่ารำคาญมาก

Leave me alone. ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว

Something is wrong. มีบางอย่างผิดปกติ

So what next then? งั้นเอายังไงต่อล่ะ?

Understand me? เข้าใจฉันไหม?

Visit me often. มาหาฉันบ่อยๆ นะ

สกุลเงินทวีปยุโรปมีอะไรบ้าง

หลายคนที่ชอบเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่คนไทยมักนิยมเดินทางไปเที่ยวที่แถบเอเชียสะมากกว่า เพราะไม่ต้องลางานหลายวัน เหมือนกับการไปทัวร์ยุโรป แต่ก็มีหลายคนที่เดินทางไปเที่ยวแถบเอเชียมาเกือบหมดแล้ว แล้วอยากจะลองไปทัวร์ยุโรปดูบาง หรือชอบไปทัวร์ยุโรปมากกว่า วันนี้เรามี สกุลเงินทวีปยุโรป ของแต่ละประเทศมาบอกกันครับ

ประเทศโซนเงินตราคู่รหัสประเทศ
กรีซทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBGR
จอร์เจียทวีปยุโรปตะวันออกGEL ลารีจอร์เจียGEL / THBGE
ซานมารีโนทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBSM
ตุรกีทวีปยุโรปตะวันออกTRY ลีราตุรกีTRY / THBTR
บริเตนใหญ่ทวีปยุโรปGBP ปอนด์สเตอร์ลิงสหราชอาณาจักรGBP / THBUK
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่าทวีปยุโรปตะวันออกBAM มาร์คแปลงสภาพBAM / THBBA
บัลแกเรียทวีปยุโรปตะวันออกBGN เลฟใหม่บัลแกเรียBGN / THBBG
ฝรั่งเศสทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBFR
ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBFR
ฟินแลนด์ทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBFI
มอนเตเนโกรทวีปยุโรปตะวันออกEUR ยูโรEUR / THBME
มอลตาทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBMT
มอลโดวาทวีปยุโรปMDL ลิวมอลโดวาMDL / THBMD
ยิบรอลตาร์ทวีปยุโรปGIP ปอนด์GIP / THBGI
ยูเครนทวีปยุโรปตะวันออกUAH ฮรีฟเนียยูเครนUAH / THBUA
รัสเซียทวีปยุโรปตะวันออกRUB รูเบิลรัสเซียRUB / THBRU
ลักเซมเบิร์กทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBLU
ลัตเวียทวีปยุโรปตะวันออกEUR ยูโรEUR / THBLV
ลิกเตนสไตน์ทวีปยุโรปCHF ฟรังก์สวิสCHF / THBLI
ลิทัวเนียทวีปยุโรปตะวันออกLTL ลีตัสลิทัวเนียLTL / THBLT
วาติกันทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBVA
สวิสเซอร์แลนด์ทวีปยุโรปCHF ฟรังก์สวิสCHF / THBCH
สวีเดนทวีปยุโรปSEK โครนาสวีเดนSEK / THBSE
สหภาพยุโรปทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBEU
สาธารณรัฐมาซิโดเนียทวีปยุโรปตะวันออกMKD ดีนาร์มาซิโดเนียMKD / THBMK
สาธารณรัฐสโลวะเกียทวีปยุโรปตะวันออกEUR ยูโรEUR / THBSK
สาธารณรัฐเช็กทวีปยุโรปตะวันออกCZK โครูนาสาธารณรัฐเช็กCZK / THBCS
สเปนทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBES
สโลวีเนียทวีปยุโรปตะวันออกEUR ยูโรEUR / THBSI
หมู่เกาะสฟาลบาร์และยานไมเอนทวีปยุโรปNOK โครนนอร์เวย์NOK / THBSJ
อดีตยูโกสลาเวียทวีปยุโรปตะวันออกYUN ดีนาร์ยูโกสลาเวียYUN / THBYU
อดีตสหภาพโซเวียตทวีปยุโรปตะวันออกRUB รูเบิลรัสเซียRUB / THBRU
ออสเตรียทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBAT
อันดอร์ราทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBAD
อาร์เมเนียทวีปยุโรปตะวันออกAMD ดรัมอาร์เมเนียAMD / THBAM
อาเซอร์ไบจันทวีปยุโรปตะวันออกAZN มานัทใหม่อาร์เซอร์ไบจันAZN / THBAZ
อิตาลีทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBIT
ฮังการีทวีปยุโรปตะวันออกHUF ฟอรินต์ฮังการีHUF / THBHU
เกาะ Isle of ManทวีปยุโรปIMP ปอนด์เกาะแมนIMP / THBIM
เซอร์เบียทวีปยุโรปตะวันออกRSD ดีนาร์เซอร์เบียRSD / THBRS
เดนมาร์กทวีปยุโรปDKK โครนเดนมาร์กDKK / THBDK
เนเธอร์แลนด์ทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBNL
เบลเยียมทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBBE
เบียโลรัสเซีย (เบลารุส)ทวีปยุโรปตะวันออกBYN รูเบิลเบลารุสBYN / THBBY
เยอรมนีทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBDE
เสื้อไหมพรมทวีปยุโรปGGP ปอนด์GGP / THBGG
เอสโตเนียทวีปยุโรปตะวันออกEUR ยูโรEUR / THBEE
แฟโรทวีปยุโรปDKK โครนเดนมาร์กDKK / THBFO
แอลบาเนียทวีปยุโรปตะวันออกALL เลคแอลบาเนียALL / THBAL
โครเอเชียทวีปยุโรปตะวันออกHRK คูนาโครเอเชียHRK / THBHR
โปรตุเกสทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBPT
โปแลนด์ทวีปยุโรปตะวันออกPLN ซลอตีโปแลนด์PLN / THBPL
โมนาโกทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBMC
โรมาเนียทวีปยุโรปตะวันออกRON ลิวใหม่โรมาเนียRON / THBRO
ไซปรัสทวีปยุโรปEUR ยูโรEUR / THBCY

ที่มา : fxtop

ไปทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวไหนดี ปี 2566

ทัวร์ญี่ปุ่น 2566 เราอยากพาคุณไปชมใบไม้เปลี่ยนสี เที่ยวฮอกไกโด-ฮาโกดาเตะ-ซัปโปโร-โจซังเค-โอตารุ สัมผัสบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วง ชมใบไม้แดงที่หุบเขานรก ขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ชมภูเขาไฟโชวะและภูเขาฮาโกดาเตะ ทะเลสาบโทยะ ชมป้อมโกเรียวคาคุ โกดังอิฐแดงริมน้ำ ทานอาหารทะเลสดๆที่ตลาดปลา พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี โรงงานช็อกโกแลตอิชิยะ ช้อปปิ้งเอ้าท์เล็ท บริการอาหาร และที่พักระดับพรีเมี่ยม เดินทางโดยสายการบินไทย คุณภาพดี จัดทำโดยบริษัททัวร์มืออาชีพ

ทัวร์ญี่ปุ่น 2566 ชมซากุระ(นาโกย่า-โอซาก้า) ชมซากุระบาน ที่นาโกย่า พร้อมชมความโรแมนติกของสวนดอกไม้และอุโมงค์ประดับไฟสุดตระการตา นั่งกระเช้าลอยฟ้าสู่ยอดเขาชินโกเบ เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช้อปปิ้งย่านซาคาเอะ และถนนชินไซบาชิ เสิร์ฟท่านด้วยเนื้อโกเบ สไตล์เทปันยากิ ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็น บริการที่พักระดับพรีเมี่ยม

ทัวร์ญี่ปุ่น 2566 ช่วงสงกรานต์ ปี2566 เที่ยวฮอกไกโด เมืองซัปโปโร – โอตารุ ชมหมู่บ้านนินจา พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดภูเขาไฟ “โชวะ ชินซัง” ชมบ่อหมีสีน้ำตาล สนุกกับการทำไอศกรีม ชมเนินแห่งพระพุทธเจ้า คลองโอตารุ ชมพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี โรงงานช็อกโกแลตอิชิยะ ช้อปปิ้งย่านการค้าของซัปโปโร บริการอาหารและที่พักระดับพรีเมี่ยม

ทัวร์ญี่ปุ่น 2566 ช่วงสงกรานต์ ปี2566 สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลเจ้าฮารุนะและวัดเซนโคจิ ผ่อนคลายกับออนเซ็นเลื่องชื่อ KUSATSU ONSEN ชมปราสาทอูเอโดะ พาท่านขึ้นชมกำแพงหิมะเป็นกลุ่มแรกๆบนเทือกเขาทาเทยามะ ชมเมืองคานาซาว่า หมู่บ้านมรดกโลก ” หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ” เมืองทาคายาม่า ชอปปิ้งย่านซาคาเอะและย่านโอสุ

ทัวร์ญี่ปุ่น 2566 ปราสาทโคคูระ (Kokura Castle)ตั้งอยู่ในตัวเมืองคิตะคิวชู(Kitakyushu)ของจังหวัดฟูกุโอกะ(Fukuoka) เรียกได้ว่าหากเห็นว่าแลดูงดงามเหมือนๆกับปราสาทหลายๆแห่งทั่วๆไปก็ไม่ถูกนัก เพราะจริงๆปราสาทแห่งนี้ก่อสร้างมาอย่างยาวนานจนกลายมาเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทของทั่วประเทศญี่ปุ่น ปราสาทโคคูระ มีรูปแบบการสร้างตามสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ มีความสูง 5 ชั้น โดยตัวหลังคาก็ไม่ใช่แค่เรียบๆชั้นเดียวหากมีถึง 4 ระดับ ซึ่งหลังจากมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมจึงได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีข้อมูลและประวัติศาสตร์ของบริเวณแถวๆนี้ สิ่งที่จัดแสดงก็จะมีทั้งวัตถุโบราณ ชุดกิโมโน ชุดซามูไร โมเดลจำลองของบ้านเมืองสัมยโบราณ ตัวอย่างห้องของโชกุน ห้องชมภาพยนตร์ งานแสดงศิลปะ และที่สำคัญสามารถขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อไปชมวิวงามๆได้อีกรอบๆเนี่ยก็มีดีไม่แพ้กันเพราะติดกับบริเวณปราสาททางทิศตะวันออกจะมีสวนญี่ปุ่น ตั้งอยู่ ซึ่งภายในจะแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ คือ ส่วนที่เป็นสวนแบบญี่ปุ่น ส่วนที่เป็นอาคารไม้ตั้งอยู่ริมบึงของสวนที่เอาไว้นั่งจิบชาชมสวนพร้อมกับวิวปราสาทด้วย มันช่างน่าไปเที่ยวซะจิง

คุณสามารถจองตั๋วโดยสารเครื่องบินไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับทัวร์กันได้ และในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์วันหยุดยาวๆทั้งที ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะไปไหนกันดีละก็ งั้นลองมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันสิ แล้วคุณจะไม่พลาดความสนุก ความน่าตื่นเต้นที่ใครๆฝันก็อยากไปสักครั้งให้ได้ในชีวิต