ออสเตรีย (Austria)
เวียนนา (Vienna) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ อันขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแสนสะอาดรายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขา เป็นเมืองที่น่าอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาด มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป เช่น
พระราชวังมรดกโลก-พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace)
สถานที่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ถึงสองแห่ง คือ เขตเมืองเก่าใจกลางกรุงเวียนนา ปี ค.ศ. 2001 และพระราชวังเชินบรุนน์ ปี ค.ศ. 1996 ดินแดนแห่งปราสาทและตำนานลี้ลับ ตกแต่งพระราชวังสไตล์แบบรอคโคโคทั้งหมด (Schonbrunn Palace) แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย ชื่อ เชินบรุนน์ มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม เพราะด้วยแต่เดิมมีการผุดขึ้นของน้ำบาดาลที่อยู่รายล้อมพระราชวังแห่งนี้นั่นเอง ตรงบริเวณด้านหน้าพระราชวังเชินบรุนน์แสดงถึงความอลังการที่อยู่เบื้องหลังสวนดอกไม้นานาชนิด ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความโอ่อ่าหรูหราจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ที่เดินทางแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม และความอลังการของพระราชวังแห่งนี้กันมาก หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนแประเทศออสเตรีย คุณจึงไม่ควรพลาดมาชม
จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz) ศูนย์กลางกรุงเวียนนา ผู้คนมากมายนิยมมาเที่ยวที่จัตุรัสแห่งนี้ เพราะเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) สัญลักษณ์ของเมืองและสำคัญที่สุดของออสเตรีย ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่อ่อนช้อยงดงามมาก เป็นต้น
เบลเยี่ยม (Belgium)
ประเทศนี้ มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ประเทศเล็กๆแห่งนี้แสนสงบอากาศดี อุณหภูมิเฉลี่ย 5-18 องศาเซลเซียส ตลอดปี น่าไปชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ โดยเฉพาะ “กรุงบรัสเซลส์” (Brussels) เมืองหลวง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสหภาพยุโรป มีความงามเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน จัตุรัสกรองด์ ปลาส (Grong Plas) สถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเบลเยียม อายุกว่า 400 ปี ถือเป็นจุดดึงดูดให้ทุกกรุ๊ปทัวร์มาเยือน เพราะสวยงามติดอันดับต้นๆ ของทวีปยุโรป เเวดล้อมไปด้วยอาคารเก่าเเก่สถาปัตยกรรมเเบบบาร็อก, โกธิก เเละนีโอโกธิก เเต่ละอาคารที่โอบล้อม ล้วนสูงตระหง่านสง่างาม และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1983
เดนมาร์ก (Denmark)
โอบล้อมด้วยมหาสมุทร และเต็มไปด้วยสถานที่สวยงามมากมาย ทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็น อาทิเช่น
พระราชวังอะเมรินโบรก ที่ยิ่งใหญ่ เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก อาคารเป็นสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ตรงกลางมีลานกว้างใหญ่แบบแปดเหลี่ยม ประดิษฐานอนุสาวรีย์ King Frederik V ประทับบนหลังม้า
พระราชวังโรเซนเบิร์ก กรุงโคเปนเฮเกนซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมดัตส์เรเนสซอง อายุกว่า 400 ปี ด้านนอกโอบล้อมด้วยสวนคิงส์การ์เด้น
จัตุรัสซิตี้ฮอลล์ สถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยที่สุดของกรุงโคเปนเฮเกน และใกล้ๆ กัน ยังมี ถนนคนเดินสตรอยก์ (Stroget) แหล่งช้อปปิ้งที่ถูกยกให้เป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในยุโรป
อังกฤษ (England)
ประเทศที่มีอิทธิพลต่อทวีปยุโรปมาตั้งแต่อดีตจวบจนมาถึงปัจจุบัน เสน่ห์ที่ทำให้ใครต่อใครหลงรัก อังกฤษมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ มีธรรมชาติที่สวยงามพร้อมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham palace) ถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมความยิ่งใหญ่อลังการของที่นี่ เพราะนอกจากจะเป็นพระราชฐานที่มีชื่อเสียงที่สุดของบริเตน ยังเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และที่ทรงงานสุดหรูหราของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เป็นพระราชฐานอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ นับตั้งแต่ค.ศ.1837 และยังเป็นศูนย์กลางของระบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษ เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญไว้จัดงานสมาคมอันหรูหรา และจัดงานเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญของราชวงศ์อยู่เสมอ
หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์กลางกรุงลอนดอน อายุมากกว่า 150 ปี สูงเกือบ 100 เมตรมีหน้าปัดนาฬิกาทั้ง 4 ด้าน ระฆังด้านในหนักถึง 13 ตัน
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) อนุสรณ์สถานที่สร้างความแปลกตาอันน่าอัศรรย์ มีกลุ่มแท่งหินมหึมา อายุมากกว่า 5,000 ปี เรียงเป็นวงกลม 2 วง ซ้อนกัน ช่างน่าทึ่ง และน่าไปสัมผัสด้วยตาตัวเองจริงๆ
ฝรั่งเศส (France)
พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) ออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามตระการตา ภายในมีห้องถึง 700 ห้อง พร้อมจิตรกรรมและประติมากรรมประดับตกแต่ง ด้านนอกมีสวนแวร์ซายที่ยิ่งใหญ่ให้ถ่ายรูปที่ระลึก มีสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรค และรอคโคโค ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ผสานกับลวดลายอันอ่อนช้อยบรรจง มีขนาดพื้นที่ของพระราชวัง ทั้งหมด 800 เฮกการ์ (5,000 ไร่) โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon และ The Park
พระราชวังฟงแตนโบล (Château de Fontainebleau) พระราชวังหลวงอันเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส มีสัญลักษณ์สำคัญ คือ บันไดเกือกม้าด้านหน้าพระราชวัง ซึ่งเป็นสถานที่นโปเลียนได้บัญชาการรบเพื่อขยายแสนยานุภาพไปทั่วทวีปยุโรปและยังมีห้องเลี้ยงรับรองสุดหรูซึ่งเคยเป็นที่รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
( รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จเยือนประทับที่พระราชวังฟงแตนโบล Château de Fontainebleau )
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับ 5 ประเทศในทวีปยุโรป แต่ละที่ล้วนมีความสวยงามแตกต่างกันไป ใครที่สนใจรีบๆจองตั๋วทัวร์ยุโรปกันสักครั้งสิ ลองหาเวลาเดินทางมาชมสถานที่น่าอัศจรรย์สวยงาม และมีความอลังการ ดูใหญ๋โตหรูหราชวนชม ดังนั้น คุณจึงไม่ควรพลาดการเดินทางมาเที่ยวยุโรป