Tax Free Shop เรื่องน่ารู้..ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นยังไงให้ปลอดภาษี

ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นยังไงให้ปลอดภาษี


เที่ยวญี่ปุ่นคือสวรรค์ของนักช้อปหลายๆ คนเลยค่ะ แต่ก่อนที่จะช้อปก็ไม่ควรมองข้าม “การทำเรื่องขอคืนภาษี” เพราะถ้าหากช้อปเยอะๆ ก็ช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋าไปไม่น้อยทีเดียว แต่จะมีสินค้ากี่ประเภทกันนะที่เราจะสามารถขอคืนภาษีได้ และมีข้อกำหนดเงื่อนไขอะไรที่จำเป็นต้องรู้บ้าง เพราะบางคนอาจจะไม่รู้ว่าสินค้าบางอย่างก็ไม่สามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้นะจ๊ะ แบบนี้แล้วรู้ไว้ดีกว่าจะได้ไม่ผิดพลาดและช้อปได้อย่างสบายใจ

1. กฎสำคัญที่ต้องรู้ก่อนช้อป

  • ซึ่งนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน ถึงจะสามารถทำการขอคืนภาษีได้ ชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ญี่ปุ่นนานกว่า 6 เดือนขึ้นไป และคนญี่ปุ่นทุกคนไม่สามารถทำการขอคืนภาษีได้ในทุกกรณีน้าา
  • ญี่ปุ่นไม่มีการทำเรื่องขอคืนภาษีย้อนหลังที่สนามบิน ดังนั้นใบเสร็จที่ทำการซื้อของมาทั้งหมดจะไม่สามารถทำการขอคืนภาษีที่สนามบินได้
  • ต้องพก พาสปอร์ต ติดตัวไว้ทุกครั้ง
  • ญี่ปุ่นจะใช้คำว่า “Tax Free Shop” แทนความหมายของการขอคืนภาษีไม่ใช่ Tax Refund นะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องมองหากันให้ปวดหัว

2. สินค้าที่สามารถขอคืนภาษีได้

  • สินค้ากลุ่มที่ 1 เครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง ต้องซื้อจากร้านเดียวกัน ภายในวันเดียวกัน โดยราคารวมในบิลต้องมีมูลค่า 5,001 เยน ขึ้นไป และต้องไม่เกิน 500,000 เยน ถึงจะสามารถทำเรื่องขอคือภาษีได้
  • สินค้ากลุ่มที่ 2 เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องซื้อจากร้านเดียวกันภายในวันเดียวกัน ราคาต้องรวมในบิลตั้งแต่ 10,001 เยน ขึ้นไป ถึงจะสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้

ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นยังไงให้ปลอดภาษี

ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นยังไงให้ปลอดภาษี

** TRICK สำคัญในการช้อป ** อันนี้สำคัญหลายคนพลาดบ่อย

ให้สังเกตุราคาสินค้าดีๆ เพราะสินค้าบางอย่างอาจจะติดป้ายราคาไว้ 2 แบบ คือ ราคาที่รวมภาษีและไม่รวมภาษี แต่ให้สังเกตุป้ายราคาที่แพงกว่า เพราะนั่นคือป้ายราคาที่รวมภาษีแล้ว เราจะต้องคำนวณจากป้ายนี้ ส่วนราคาที่ต่ำกว่านั่นคือราคาที่ยังไม่รวมภาษีนะห้ามคิดจากป้ายนี้เด็ดขาด

3. การช้อปแบบปลอดภาษีนั้นมี 2 แบบ

  • การหัก ณ ที่จ่าย Tax Free ทางร้านค้าจะหักภาษีออกทันทีตอนเราจ่ายเงิน เช่น ร้านขายยาทั่วไป ร้านสะดวกซื้อ ร้านเสื้อผ้า รองเท้า และร้าน Don Quijote
  • การขอคืนภาษีย้อนหลัง Tax Refund ต้องจ่ายสินค้าในราคาเต็มก่อน แล้วไปทำการขอคืนภาษีย้อนหลัง ซึ่งวิธีการแบบนี้จะเห็นตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ

4. ขั้นตอนการขอคืนภาษีง่ายๆ (Tax Refund)

  1. พุ่งตัวเข้าไปช้อปปิ้งให้หนำใจตามกำลังทรัพย์และตามเงื่อนไขของการขอคืนภาษี
  2. ให้สังเกตุร้านที่ติดป้าย “Tax Free” ไว้หน้าร้าน แสดงว่าร้านนั้นสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้
  3. นำสินค้าไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ตามปกติ และแจ้งพนักงานว่าขอคืนภาษี พร้อมแสดงพาสปอร์ต ทุกครั้งด้วย จากนั้นพนักงานจะคิดเงินโดยหักจากภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ออก และติดหลักฐานการขอคืนภาษีไว้ในพาสปอร์ต โดยหลักฐานนี้จะถูกเก็บจากเจ้าหน้าที่ที่สนามบินตอนขาออกจากประเทศญี่ปุ่น
  4. สินค้าทุกชิ้นที่มีการขอคืนภาษีจะห่อแปะสติ๊กเกอร์ไว้อย่างดี ห้ามแกะสินค้าออกมาใช้ก่อน น้าา เนื่องจากเป็นกฎของการขอคือภาษีทางญี่ปุ่น แม้บางครั้งหลายคนจะยืนยันว่าไม่มีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่สนามบินก็ตาม แต่ก็ควรปลอดภัยไว้ก่อนหากเป็นสินค้าที่มีราคาแพงๆ หรืออาจโดนสุ่มตรวจในบางกรณีก็ได้

ปัจจุนบันอัตราภาษีของประเทศญี่ปุ่นคือ 8% แต่ปี 2019 เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ญี่ปุ่น จะปรับอัตรภาษีขึ้นเป็น 10%