กระเป๋าเดินทางขนาดเท่าไหร่ขึ้นรถไฟญี่ปุ่นได้

ประเทศที่การคมนาคมสะดวกสบายที่สุดประเทศหนึ่ง คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก เช่น การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยรถไฟ ที่ช่วยลดเวลาในการเดินทางไปไหนมาไหนได้มากเลยทีเดียว

ซึ่งการขนส่งทัวร์ญี่ปุ่นที่มีความรวดเร็วนั้น การขนสัมภาระ เช่นกระเป๋าเดินทางจึงเป็นสิ่งที่นักเดินทางจะต้องนำไปขนรถไฟกันแทบทุกคน ดังนั้นทางประเทศญี่ปุ่น จึงมีกฎข้อบังคับใหม่ขึ้นมาให้เริ่มต้นใช้นับตั้งแต่ เดือน พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป คือ เรื่องการจองที่วางกระเป๋าเดินทางทัวร์ญี่ปุ่น มีกฎอย่างไรบ้างนั้น ดังนี้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง 1 คน สามารถนำกระเป๋าขึ้นได้ 2 ใบ (น้ำหนักห้ามเกิน 30 กิโลกรัม) มีกฎในการขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟทัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ดังนี้

  • ขนาดปกติ (กว้างxยาวxหนา รวมไม่เกิน 160 cm.) สามารถนำขึ้นเก็บไว้บนชั้นวางเหนือศรีษะได้
  • ขนาดใหญ่ (กว้างxยาวxหนา รวมไม่เกิน 160-250 cm.) ต้องจองที่วางอินเทอร์เน็ต หรือเคาน์เตอร์ (ในกรณีไม่ได้จองไว้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1000 เยน)
  • ขนาดใหญ่มาก ( กว้างxยาวxหนา เกิน 250 cm.) ขนาดเกินกำหนด (ห้ามนำขึ้นรถไฟ)

ลำดับขั้นตอนด่านตรวจคนเข้าประเทศยุโรป

ถ้าคุณต้องเดินทางไปท่องเที่ยวทัวร์ยุโรป และก่อนที่คุณจะผ่านเข้าไปยังประเทศนั้นได้ คุณจะต้องผ่านด่านตรวจเข้าเมือง หรือ (ตม.) เสียก่อน วันนี้เราจะมาเรียงลำดับขั้นตอนในการตรวจ (ตม.) ดังนี้

ลำดับที่ 1 : การทำความเข้าใจ (วีธีการตรวจ ตม.) ยุโรป

ด่านตวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในยุโรป ประเทศในกลุ่มเชงเก้นนั้น จะมีลักษณะคล้ายทุกประเทศทั่วโลก ต่างกันเพียงในกลุ่มเชงเก้นจะถือกฏว่าทุกประเทศในกลุ่มเปรียบเสมือนประเทศเดียวกัน และถ้าต้องเดินทางต่อไปประเทศอื่น ก็เปรียบได้กับการเดินทางในประเทศ (Domestic) ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองอีก

ประเทศในยุโรป ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเชงเก้น เช่น สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ รัสเซีย ตุรกี ยูเครน เซอร์เบีย มอนเตเนโกร และโครเอเชีย ต้องผ่าน ตม.ทุกครั้งที่เข้า-ออกประเทศ

ลำดับที่ 2 : การกรอกใบตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Form)

เมื่อเครื่องใกล้ลงสยามบินปลายทาง พนักงานจะนำใบ ตม. มาให้คุณกรอกรายละเอียด เพื่อที่คุณจะได้นำให้เจ้าหน้าที่ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง

ลำดับที่ 3 : ลงเครื่องไปด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

เมื่อลงจากเครื่องแล้วเดินตามป้าย Immigration ไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

ลำดับที่ 4 : เข้าแถวรอด่าน ( ตม.) ตรวจ

ด่านตรวจคนเข้าเมืองยุโรป จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง คือ ผู้ถือสัญชาติในประเทศยุโรป (EU Citizens) และ ถือสัญชาติอื่นๆ (All Passports) ให้คุณเลือกเดินไปที่ช่อง ถือสัญชาติอื่นๆ (All Passports) กรณีที่เดินทางกันมาเป็นกลุ่ม (จำนวนครั้งละไม่เกิน 3-4 คน)

ลำดับที่ 5 : ถึงคิวตรวจคนเข้าเมือง

เมื่อถึงคิวคุณแล้วให้คุณเดินเข้าไปหาเจ้าหน้า ที่พร้อมยื่นเอกสารใบที่กรอกข้อมูลคุณ เจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์ถามข้อมูลของคุณ และถ้าหากคุณน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจหรือขอเรียกดูเอกสารบางอย่าง คุณควรเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็ว

ลำดับที่ 6 : เจ้าหน้าที่ให้ผ่านเข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่จะให้เราสแกนนิ้วมือพร้อมประทับตราลงบนหนังสือเดินทาง จากนั้นให้เดินไปตามป้าย Baggage Reclaim เพื่อรอรับสัมภาระและผ่านด่านศุลกากร ในกรณีต้องเปลี่ยนเครื่องให้เดินตามป้าย Transfer Flights ไปจนถึงประตูทางขึ้นเครื่อง

ลำดับที่ 7 : เดินเข้าด่านศุลกากร

หากไม่มีสิ่งของที่ต้องแสดง ให้ผ่านช่องเขียว หากมีสิ่งของที่ต้องแสดง เช่น เนื้อสัตว์,นม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อ นม ปลา ไข่ น้ำผึ้ง ให้เข้าช่องแดง

ดังนั้น หากคุณนักเดินทางทั้งหลายไม่อยากรอที่จะต้องโดนด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กักตัวอยู่นานๆ ฉะนั้นคุณควรทำการเตรียมตัวให้ดีทุกครั้งก่อนที่คุณจะเดินทางออกไปท่องเที่ยวยุโรปเพื่อความสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลารอตรวจ

เทคนิคดีๆ ถาม-ตอบอย่างไรให้ผ่าน (ตม.) ยุโรป

การเดินทางไปท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปนั้นคุณควรเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการเดินทางให้พร้อมเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง เอกสารส่วนใหญ่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ (ตม.) เรียกตรวจสอบ มีดังนี้

› พาสปอร์ต (จะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันเดินทาง)

› วีซ่า ( สำหรับประเทศที่จะต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ )

› ใบ ตม. หรือใบตรวจคนเข้าเมือง ( Immigration Card )

› ตั๋วเครื่องบิน ทั้งขาไปและขากลับ

› แพลนการเดินทาง

› เอกสารการจองที่พัก

› หนังสือรับรองบริษัท ที่ระบุวันลาพักร้อนที่ตรงกับระยะเวลาที่เราไปและกลับ

› เอกสารสำคัญอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าเรามีเจตนาที่จะมาเที่ยวประเทศนี้จริงๆ เช่น หนังสือท่องเที่ยว คู่มือท่องเที่ยว บัตร Pass ต่างๆ ที่ซื้อล่วงหน้าไม่ได้มาทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายโดยเอกสารทุกอย่างจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ สำหรับใบ ตม. จะต้องกรอกข้อมูลให้ครบ และถูกต้องในแต่ละช่องที่กำหนด โดยกรอกเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้นซึ่งแต่ละประเทศเจ้าหน้าที่ ตม. ก็จะเรียกตรวจเอกสารแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สถานการณ์

เมื่อคุณถูกเจ้าหน้าที่ชักถาม หรือมีคำถามถามคุณ และถ้าหากคุณไม่อยากให้มีอุปสรรคต้องโดนตรวจสอบจาก (ตม.) คุณก็ต้องมีการเตรียมตัวซักซ้อมในเรื่องของภาษาที่ต้องใช้ในการตอบคำถาม เพื่อการสื่อสารที่เข้าใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันกับเจ้าหน้าที่ (ตม.) หากถูกเรียกตรวจสอบขึ้นมา และคำถามที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ใช้ถามส่วนใหญ่ ได้แก่

 

(คำถาม) เกี่ยวกับประวัติของคุณ และ จุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่

 

  • What’s your name? May I have your first name? Your first name is … right?

 

( คุณชื่ออะไร? ฉันขอทราบชื่อจริงของคุณได้ไหม? ชื่อจริงของคุณคือ…ใช่หรือไม่?

 

  • Where are you from?

 

( คุณมาจากที่ไหน?)

 

  • How old are you?

 

( คุณอายุเท่าไหร่?)

 

  • Could you please open your baggage?

 

( คุณสามารถเปิดกระเป๋าเดินทางได้หรือไม่? )

 

  • How long will you stay here?

 

( คุณจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่? )

 

  • What’s your purpose in this trip?

 

( จุดประสงค์ของทริปนี้คืออะไร? )

  • Why are you here? / Why are you coming here?

(คำถามแบบตรงประเด็น)

 

  • Where will you gonna stay?

 

( คุณจะไปพักที่ไหน? )

 

  • How many persons in your trip?

 

( ในทริปของคุณมีสมาชิกกี่คน? )

 

(คำตอบ) เกี่ยวกับประวัติของคุณ และ จุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่

 

  • I’m here on vacation.

 

(ฉันมาที่นี่เพื่อพักร้อน)

 

  • to travel.

 

(มาเพื่อท่องเที่ยว)

 

  • study.

 

( มาเรียน)

 

  • Visit Relatives.

 

(มาเยี่ยมญาติ)

 

  • I’m here to visit my friend.

 

(มาเยี่ยมเพื่อน)

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณเดินทางมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหม

  • Is this your first time here? (first time แปลว่า ครั้งแรก) / นี่คือครั้งแรกของคุณใช่ไหม
  • Yes, this is my first time. ใช่ นี่คือครั้งแรกของฉัน

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับอาศัยอยู่นานเท่าไหร่

  • How many day are you planning to be here?
  • How long are you. going to be in ……? (ชื่อประเทศ) (How long แปลว่า นานเท่าไหร่)
  • How long will you be staying? อยู่กี่วัน
  • Show me your return ticket, please. ขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับด้วย
  • I’II be here for …… days. (ชื่อประเทศ) ฉันจะอยู่ที่นี่กี่วัน หรือตอบสั้นๆ ว่า Day .. (จำนวนวัน) แล้วนำตั๋วเครื่องบินที่เตรียมไว้ยื่นไปเลย พร้อมกับพูดว่า Here it is.

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณเดินทางมากับใคร

 

  • Who are you traveling with? (traveling with แปลว่า เดินทางกับ?)
  • Are you traveling alone? (traveling alone แปลว่า เดินทางคนเดียว?)

 

  • I’m alone. แบบสั้นๆ หรือ I’m traveling alone. ฉันเดินทางมาคนเดียว
  • I’m traveling with my friend. ฉันเดินทางมากับเพื่อน
  • I’m traveling with my family. ฉันเดินทางมากับครอบครัว

 

(คำถาม-ตอบ) เกี่ยวกับคุณจะพักที่ไหน

  • Where are you staying? (staying แปลว่า อาศัยอยู่)
  • Where will you be staying?
  • I’ll be staying at …..(ชื่อโรงแรม)

ฉันจะพักอยู่ที… .(ชื่อโรงแรม)

(คำถามเพิ่มเติม)

 

  • Where will you be visiting?

 

ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ถ้าทำแผนการท่องเที่ยวมาก็แสดงไปเลย หรือยกตัวอย่างไปสักสอง สามที่

 

  • What do you do?

 

คุณทำอาชีพอะไร ตอบไปตามความจริงว่าทำอาชีพอะไร

 

  • what are you studying?

 

(ในกรณีที่เป็นนักเรียน)ก็ตอบชื่อหลักสูตร โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มาเรียน

  • where is your school?

โรงเรียนอยู่แถวไหน เมืองไหน อาจจะตอบเป็นพื้นที่ที่เราพอทราบ หรือเตรียมเอกสารของโรงเรียนที่มีที่อยู่มาด้วย

  • Do you plan to work here?

คุณมีแผนที่จะทำงานต่อที่นี่หรือไม่ ตอบตามความจริง และเช็ควีซ่าที่เราได้มาว่าเป็นประเภทที่สามารถทำงานได้หรือไม่

 

  • How much money are you bringing?

 

พกเงินมาด้วยเท่าไร ตอบตามจำนวนที่พกมา ประมาณคร่าวๆ ตรวจสอบข้อมูลมาก่อนด้วยว่าแต่ละประเทศมีข้อกฏหมายในการพกเงินสดไม่เกินเท่าไหร่

 

คำถามและรูปแบบของประโยคที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ใช้ถาม

  • คำถามอาจแตกต่างกันไปตามวาระและโอกาสในการเดินทาง
  • สำเนียงภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่ (ตม.) ของแต่ละประเทศที่ไมได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
  • สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว อาจโดนถามละเอียดมากหน่อยจากเจ้าหน้าที่ หากคุณเตรียมตัวเตรียมพร้อมมาอย่างดีคุณก็ไม่ต้องกังวล

 

เที่ยวยุโรปอย่างไร ให้ปลอดภัยจากกลลวง

ในทุกๆปี มีนักท่องเที่ยวในเอเชียเดินทางไปเที่ยวยุโรปกันค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนทำงาน,คู่รัก,หนุ่มสาวที่เดินทางไปเป็นกลุ่มกับกรุ๊ปทัวร์ซึ่งมันก็ใช่ที่ใครหลายๆคนไปทัวร์ยุโรป พอได้ไปเที่ยวแล้วกลับมาบอกว่าดี ต่างบอกกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นสวยงาม บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน และสภาพแวดล้อมอากาศดี แต่มันก็มีนักท่องเที่ยวที่ไปแล้วกลับต้องเจอปัญหาที่เกิดจากภัยสังคมในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากพวกมิจฉาชีพที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนคุณ โดยที่คุณไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดภัยร้ายขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น ภัยที่ต้องระวังในการเดินทางไปทัวร์ยุโรป มีรูปแบบไหนบ้างและควรหลีกเลี่ยงอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยจากภัยเหล่านี้ คือ

1.การถูกโน้มน้าวชักจูง ช่วยเหลือ กลลวงนี้เป็นภัยสังคมที่เกิดขึ้นในสังคมแทบทุกๆวัน

คุณอาจจะเจอมันมาในรูปแบบ ขอรับบริจาคช่วยงานการกุศลทำบุญสร้างนั่นสร้างนี่หรือก็อาจจะมีช่องโหว่ที่ทำให้พวกมิจฉาชีพแอบเดินมาล้วงกระเป๋าเสื้อ กางเกงหรือรูดซิปและหยิบของมีค่าในกระเป๋าของคุณในช่วงเวลาที่คุณเดินทางอยู่ตามท้องถนนในสถานต่างๆ ก็เป็นได้

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงเดินเข้าไปใกล้กลุ่มคนที่อยู่ตามถนนมองหาคนเดินไปมาถือปากกามีเอกสารให้กรอกข้อมูลอะไรสักอย่างกับคนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยว

2.อย่าแลกเปลี่ยนเงินกับคนแปลกหน้า เมื่อนักท่องเที่ยวประสบกับปัญหาเงินสกุลต่างประเทศที่ได้แลกไว้เกิดไม่พอใช้ ซึ่งคุณกำลังหาที่แลกเปลี่ยนสกุลเงิน แต่ไม่รู้ไปแลกที่ไหนตอนช่วงที่คุณท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศซึ่งมีพวกมิจฉาชีพที่ชอบยืนดักรอนักท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวต่างๆ เดินเข้าหาเสนอตัวเข้าช่วยเหลือแบบแนบเนียน ถ้าคุณไม่รู้ดันหลงเชื่อคนพวกนี้คุณอาจจะโดนร้านรับแลกเงินฉ้อโกง ปรับเปลี่ยนเรทแลกเงิน สลับบัตรธนบัตร หรือนำบัตรสกุลเงินต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยนกับเงินของคุณก็เป็นได้

วิธีป้องกัน คุณควรไปแลกเปลี่ยนเงินกับร้านที่ที่รับแลกเปลี่ยนสกุลต่างชาติโดยเฉพาะ อย่านำเงินไปแลกเปลี่ยนกับคนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด เพราะคุณอาจสูญเงินไปง่ายๆแบบไม่รู้ตัว

3.แกล้งทำของหล่นหรือหกใส่คุณ วิธีนี้เป็นวิธีที่มิจฉาชีพหลอกทำกันเยอะมากๆ ซึ่งคนพวก นี้มีลักษณะท่าทีเหมือนสร้างสภานการณ์หมือนไม่ได้ตั้งใจทำอะไรสักอย่างใส่คุณแต่ทำเหมือนเป็นอุบัติเหตุแล้วกระตือรือล้นอยากเข้าช่วยเหลือคุณมากซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าช่วงนั้นได้หยิบหรือฉกของมีค่าหรือกระเป๋าสตางค์คุณไปแล้ว

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงหรือปฎิเสธคนพวกนี้ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือไปเลยดีที่สุด

 

4.หลักเลี่ยงการเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟฟรี คุณไม่ควรต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรี มั่วๆ

เมื่อคุณไปตามสถานที่ต่างๆ ถ้าคุณเกิดเชื่อมต่อฟรี และเผลอเข้าใช้มันอาจมีความเสี่ยงคุณอาจจะโดนพวกแฮ๊กเกอร์ปล่อยสัญญาณ หรือล้วงลับข้อมูลส่วนตัวของคุณได้

วิธีป้องกัน หากคุณจำเป็นต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจริงๆ ตุณควรสอบถามร้าน หรือสถานที่ที่คุณไปว่ามีบริการให้ใช้เปิดสัญญาณไวไฟฟรีหรือไม่ แล้วขอรหัสเข้าไวคงจะปลอดภัยกว่า

 

5.เสนอตัวเข้าช่วยเหลือกดเงินให้ ในกรณีนี้มิจฉาชีพ ทำเหมือนคนทั่วไป ที่กดเงินตาม

 

ตู้เอทีเอ็ม (ATM) เมื่อเจอเหยื่อที่สามารถเข้าไปหลอกได้ ก็จะทำเป็นเข้าไปช่วยเหลือ ถ้าเหยื่อหลงเชื่อก็อาจโดนฉกเงินไปเรียบร้อยแล้ว

วิธีป้องกัน หากคุณต้องการกดเงินสดที่ตู้กดเงินคุุณควรไปในที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่ไปในที่เปลี่ยวคนเดียว หากมีคนเข้ามาพูดคุยสอบถาม หรือขอช่วยเหลือตอนที่คุณกำลังที่ธุรกรรมที่ตู้อยู่ คุณควรปฎิเสธทันที

6.ปลอมตัวแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยวจะพบได้ตามเมืองสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ

โดยการทำงานของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนึ่งแสดงตัวเป็นพวกสร้างปัญหา อีกพวกหนึ่งจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พอทำทีเกิดขึ้น และเมื่อคุณอยู่ในสถานการร์นั้น ก็จะมีพวกที่แสดงเป็นเจ้าหน้าที่เนี่ยแหละเข้ามาขอดูขอตรวจเอกสารของคุณ ซึ่งมันเนียนมากซึ่งคุณจะไม่รู้ตัวเลยว่ามันเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไป

วิธีป้องกัน คุณไม่ควรพกพาสปอร์ตเล่มจริงติดตัวออกไปเที่ยว เพราะมีเปอร์เซ็นต์อาจวางลืมหรือโดนมิจฉาชีพฉกไป คุณอาจแค่ถ่ายเอกสารพาสปอร์ตไว้พกไปก็พอ

 

7.แก๊งขอทาน เป็นเรื่องที่เราๆเจอกันประจำทั่วไป ลักษณะคือเดินขอเงินนักท่องเทื่ยวอยู่

 

ตามท้องถนน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบพิการแขนขา ตาบอด หรือทำตัวน่าสงสาร ทั้งๆที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ด้วยความที่เห็นแล้วเรารู้สึกสงสารเราก็ช่วยเหลือไป หรือไม่ก็ทำทีขอทานพอคุณเผลอก็อาจฉกทรัพย์สินคุณไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

วิธีป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการให้เงินแก่ขอทานตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือถ้าหากคุณไม่แน่ใจแต่อยากช่วยเหลือ ก็อาจจะซื้อเป็นอาหารหรือขนมให้แทนคงดีกว่า

เรียนรู้คำศัพท์สำคัญ ก่อนรีรันเที่ยวยุโรป

คุณคงมีการวางแผนและเตรียมพร้อมในการเดินทางท่องเที่ยวกันแล้วแต่สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ้งที่เป็นอุปสรรค และเป็นปัญหาของใครหลายๆคน นั่นคือ เรื่องของความรู้ในการศึกษาข้อมูลก่อนออกทริป หรือเรื่องที่คุณไม่เข้าใจ และไม่สามารถสื่อสารในการพูดภาษากับชาวต่างๆชาติได้ นั่นจึงเป็นอุปสรรคกับใครหลายๆที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ว่าจะไปทัวร์ยุโรปหรือเอเชีย ที่คุณยังกังวลว่าจะสื่อสารกับชาวต่างชาติไม่เข้าใจ ล้วนแต่เป็นอุปสรรคในการเดินทางต่างๆ ประเทศเป็นอย่างมาก

การเรียนรู้ศึกษาหาข้อมูลหรือจดจำคำศัพท์ที่สำคัญๆที่ต้องใช้ในการเดินทาง เพื่อใช้สื่อสารได้ มีคำศัพท์น่ารู้ๆ ที่เราควรรู้ไว้ก่อนออกทริปเดินทางไปต่างประเทศ มีคำศัพท์น่ารู้ที่คุณควรรู้ไว้ ก่อนเดินทางทัวร์ท่องเที่ยว อาทิเช่น

– Ticket คือ ตั๋วที่เป็นกระดาษ ออกโดยสายการบืน โดยซื้อที่เคาร์เตอร์
– E-Ticket หรือ Electronic Ticket คือ ตั๋วที่ได้จากการซื้อแบบออนไลน์
– Booking หรือ Reservation คือ การจองตั๋วเครื่องบิน
– Boarding Pass คือ บัตรโดยสาร หรือใบผ่านเพื่อขึ้นเครื่องบิน
– Carry- on คือ กระเป๋าใบเลกที่คุณสามารถหิ้วขึ้นเครื่องได้
– Flight Number คือ หมายเลขไฟลท์ที่เราจะขึ้นเครื่องบิน ลักษณะเป็นตัวหนังสือภาษา
– Immigration Card คือ บัตรสำหรับตรวจคนเข้าเมือง
– Passport Control คือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
– Gate Number คือ หมายเลขประตูที่เราต้องรอไปขึ้นเครื่อง
– Board Time คือ เวลาที่คุณขึ้นเครื่องช้า เลยเวลาขึ้นเครืองบิน
– Final Call คือ การประกาศเรียกผู้โดยสารครั้งสุดท้ายก่อนเครื่องจะออกบิน
– Flight Delayed คือ เครื่องบินออกล่าช้ากว่ากำหนด
– Departure Time คือ เวลาเครื่องบินขึ้น
– Arrival Time คือ เวลาเครื่องบินลง
– Baggage Claim คือ หมายเลขหรือรหัสตัวอักษร ที่กำหนดให้คุณไปรับสัมภาระ
กระเป๋าเดินทางที่คุณโหลดฝากเอาไว้
– Booking Number หรือ Reference Number คือ หมายเลขการจองตั๋วเครื่อง
บิน
– Check – in คือ การยืนยันการขึ้นเครื่องบิน
– Checked Baggage คือ กระเป๋าต่างๆ ที่เราฝากโหลดไว้ใต้เครื่องบิน ที่เราจะ
ได้หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วฺ

10 สายการบินที่ดีที่สุด เที่ยวยุโรป

ปัจจุบันนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทัวร์ยุโรปกันเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี เมื่อมีคนหันมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ก็ส่งผลดีในเรื่องของการคมนาคมทางอากาศ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วเดินทางอาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่คนก็นิยมเลือกการเดินทางโดยการขึ้นเครื่องบินโดยสาร เพราะยอมรับในการให้บริการที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย นั่นก็คือ การขึ้นเครื่องบินโดยสาร นั่นเอง

วันนี้ได้มีการจัด 10 อันดับ สายการบินยุโรปที่ดีที่สุด มีสายการบินอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

แอร์ฟรานซ์ (Air France)

แอร์ฟรานซ์เป็นสายการบินประจำชาติ ของประเทศฝรั่งเศษ
ปัจจุบัน เข้าร่วมกับสายการบินเนเธอแลนด์ จึงกลายเป็นสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France KLM) เที่ยวบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ของแอร์ฟรานซ์จะออกจากท่าอากาศยานในกรุงปารีสแต่ก็มีบางเที่ยวบินที่ออกจากเมืองนีช ซึ่งเส้นทางการบินของแอร์ฟรานซ์มีอยู่ทั่วโลก

เวอร์จิน แอตแลนติก แอร์เวย์ (Virgin Atlantic Airways)

สายการบินพาณิชย์ ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ใช้นวัตกรรมต่างๆ สร้าง Virgin Atlantic นำมาใช้ล้วนเกี่ยวพันกับการบริการและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร เช่น จอโทรทัศน์สำหรับที่นั่งในระดับ Business class, ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก, ระบบเช็กอินแบบไดรฟ์ ทรู, บาร์เครื่องดื่ม, บริการนวดและบริการ super economy ซึ่งเป็นระดับที่อยู่ระหว่าง economy กับ business เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง ถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจในการให้บริการ จึงทำให้แบรนด์สามารถครองใจผู้ บริโภค และประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ในปัจจุบัน Virgin Atlantic เป็นสายการบินอันดับ 2 ของประเทศอังกฤษ

เคแอลเอ็ม โรยัลดัตช์ แอร์ไลน์ (KMLl Royal Dutch Airlines)

เคแอลเอ็ม โรยัลดัตช์ แอร์ไลน์ เป็นบริษัทลูกของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม โดยก่อนที่จะควบรวมกับแอร์ฟรานซ์นั้น เคแอลเอ็ม จึงเป็นสายการบินแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ มีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัม

ฟินน์แอร์ (Finnair)

เป็นสายการบินแห่งชาติ และเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ มีผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบิน คือ รัฐบาลฟินแลนด์ ที่มีสัดส่วนทั้งสิ้น 55.8% ให้บริการผู้โดยสาร 8.8 ล้านคน ในจุดหมายปลายทางภายในประเทศ 15 จุดหมายและระหว่างประเทศ 55 จุดหมาย ที่มีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่เฮลซิงกิ-วานตาและเป็นสมาชิกของพันธมิตรสายการบินวันเวิลด์สกายแทรคจึงจัดอันดับสายการบินฟินน์แอร์อยู่ในสายการบินระดับสี่ดาว

ออสเตรียน แอร์ไลน์ ( Austrian Airlines )

เป็นสายการบินแห่งชาติออสเตรียนสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ที่มีสายการบินในเครือ เช่น ไทโรเรี่ยนแอร์เวย์ (สายการบินท้องถิ่น) และ เลาด้า แอร์ (สายการบินเช่าเหมาลำ) ออสเตรียน

แอร์ไลน์มีฐานบินใหญ่อยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา หนึ่งในสมาชิกพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลน์แอนซ์

อีเจียนแอร์ไลน์ ( Aegean Airlines )

สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกรีซ อีเจียนแอร์ไลน์ปฏิบัติการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสทั้งสิ้น 46 ลำ (ประกอบด้วยรุ่นเอ 320 จำนวน 37 ลำ เอ 321 จำนวน 8 ลำ และ เอ 319 จำนวน 1 ลำ) เครื่องบิน เอ 321 นีโอสามารถบินได้กว่า 4,000 ไมล์ทะเล (หรือ 7,400 กิโลเมตร) เครื่องบินเหล่านี้ จะเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเราในการให้บริการที่มีมาตรฐานสูง มีการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อบริการให้แก่ผู้โดยสารทั้งบนเส้นทางบินระยะใกล้และระยะไกล

บริติชแอร์เวย์ (Britsh Airways)

บริติชแอร์เวย์ มีเส้นทางการบินครอบคลุมกว่า 160 จุดหมายปลายทางในทวีปยุโรป 75 ประเทศ สำหรับเส้นทางการบินจากประเทศไทยจะเป็นเที่ยวบินที่ออกจากกรุงเทพฯ โดยมีเที่ยวบินยอดนิยมที่ออกจากประเทศไทยไปยังเมืองต่างๆ ได้แก่ ประเทศ สหราชอาณาจักร (ลอนดอน/แอเบอร์ดีน เอดินบะระ / เบลฟัสต์ / กลาสโกว์), ไอร์แลนด์ (ดับลิน), ฝรั่งเศส (ปารีส), ฮังการี (บูดาเปสต์), อิตาลี โรม / มิลาน) เป็นต้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ทำสถิติบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเร็วที่สุด

สวิส อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ (Swiss International Airlines)
เป็นสายการบินประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นบริษัทลูกของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า มีฐานบินหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานซูริค เปิดให้บริการสู่จุดหมายปลายทางในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป และเอเชีย โดยมีจุดหมายปลายทางมากกว่า 50 สนามบิน เป็นให้บริการทุกวัน จากกรุงเทพฯ ไปซูริค นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในกลุ่ม Star Alliance อีกทั้ง สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ยังแชร์โค้ดกับการบินไทย ระหว่างกรุงเทพฯ และซูริค

ลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa)
เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรปรองจากกลุ่มแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France KLM) และใหญ่เป็นอันดับห้าของโลกในจำนวนผู้โดยสาร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโคโลญ สายการบินเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลน์แอนซ์และมีสายการบินในเครืออีก คือ สายการบินสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบินทัวร์ยุโรป ภายในประเทศ 18 ประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ 203 ประเทศ ใน 78 ประเทศ ทั้งทวีปในยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา

สายการบินตุรกี (Turkish airlines)

สายการบินตุรกีให้บริการจุดหมายปลายทางมากกว่าสายการบินอื่นๆในโลก และทำการบินตั้งแต่ ปี 2019 รวมแล้วสายการบินตุรกีมีเส้นทางบินไปยัง 315 จุดหมายปลายทางใน 126 ประเทศ สายการบินนี้ให้บริการทั้งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ได้รับรางวัล “สายการบินที่ดีที่สุดในยุโรป” 6 ปีซ้อนจากสกายแทร็กซ์ และเป็นหนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรในกลุ่มสตาร์ อัลไลแอนซ์

ขอวีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) ก่อนทัวร์ยุโรป

เมื่อนักท่องเที่ยวต้องการออกเดินทางออกทัวร์เที่ยวยุโรป ควรให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมในการขอยื่นเอกสารการขอวีซ่าเชงเก้นกันก่อน วีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) เป็นหนังสือเดินทางระยะสั้น อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน หรือเป็นเวลา 3 เดือน สามารถใช้เดินทางเที่ยวได้กว่า 26 ประเทศ เช่น เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, กรีซ, โปรตุเกส, สเปน, เยอรมนี, ออสเตรีย, ฟินแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, สวีเดนนอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, มอลตา, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, ฮังการี, โปแลนด์, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และโมนาโก

การขอยื่นเอกสารการขอวีซ่าเชงเก้น ผู้ขอวีซ่าควรกรอกข้อมูลไปในประเทศที่เราจะเดินทางตามความเป็นจริงมากที่สุด หากคุณจะไปประเทศไหนก็ควรขอวีซ่ากับสถานฑูตประเทศนั้น และถ้าคุณต้องเดินทางไปหลายประเทศก็ควรขอวีซ่ากับสถานฑูตประเทศแรกที่คุณจะไปก่อน เพราะการขอวีซ่าเชงเก้นไม่สามารถยื่นขอคำร้องล่วงหน้าก่อนเดินทาง 90 วันได้ ดังนั้นหากคุณไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ อาจทำให้คุณเจอปัญหาในการเดินทางโดน ตม. กักบริเวณไว้ หรืออาจถูกส่งกลับได้

รายชื่อสถานฑูต ที่สามารถขอวีซ่าเซงเก้นได้ มีดังนี้

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตเบลเยี่ยม ประเทศไทย
สถานทูตประเทศสาธารณรัฐเช็ก
สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก

ขั้นตอนเตรียมเอกสารขอวีซ่าเชงเก้น

1. เอกสารแบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่าที่กรอกแล้วโดยสมบูรณ์พร้อมเซ็นชื่อ

คุณยื่นขอวีซ่าประเทศอะไรเพราะแต่ละประเทศนั้นอาจมีการใช้แบบฟอร์มที่แตกต่างกันให้เข้าไปเช็คข้อมูลที่หน้าเว็ปของสถานทูตนั้นๆประจำประเทศไทยก่อน เนื่องจากมีสถานทูตบางแห่งที่มีการรับยื่นเอกสารวีซ่าจากตัวแทนหรือการให้สัมปทานบริษัทรับยื่นวีซ่า คุณควรกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง

(ตัวอย่าง) แบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นงเก้น (Shengen Visa)

ขอบคุณรูปจาก pantip.com/topic/32617605

 

2. เตรียมเอกสารสำเนาพาสสปอร์ตเดินทาง

พาสปอร์ต (Passsport) ที่จะใช้สำหรับยื่นขอวีซ่าจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือ 180 วันนับจากวันที่เราเดินทางกลับออกจากประเทศนั้น ควรเตรียมสำเนาเอกสารทั้งหมด 2 ชุด พร้อมเซ็นชื่อรับรองสำเนาด้วย

3. เตรียมรูปถ่าย 2”นิ้ว (35mm.x45mm.) / จำนวน 2 รูป

ควรถ่ายให้เห็นใบหน้าตรง ทำหน้าปกติไม่ยิ้มหรือทำหน้าตาแปลก พื้นหลังสว่างเพื่อให้เห็นภาพถ่ายใบหน้าให้ชัดเจนขึ้น


3. เอกสารรับรองการทำงาน (Work Permit)

เอกสารรับรองการทำงาน (มีอายุนับจากวันที่ออกเอกสารไม่เกิน 1 เดือน) แบ่งเป็นกรณีต่างๆ ดังนี้

พนักงานบริษัททั่วไป ต้องให้บริษัทต้นสังกัดออกใบรับรองให้ โดยระบุชื่อคุณ ตำแหน่งงาน
วันที่เริ่มเข้าทำงาน เงินเดือน และจำนวนวันที่ทางบริษัทอนุมัติให้คุณลา

หมายเหตุ: จำเป็นต้องครอบคลุมวันที่คุณเดินทางไป-กลับ ถ้าเกินกว่านั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าน้อยกว่าจะไม่ได้

  • เจ้าของกิจการธุรกิจ ต้องขอหนังสือจดทะเบียนบริษัท ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจ แบบฉบับ
    (เป็นภาษาอังกฤษ) โดยที่มีชื่อของเจ้าของธุรกิจกำกับอยู่
  • คนทำงานฟรีแลนซ์ ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ต้องทำหนังสือแจ้งรายได้ประจำวัน และรายได้ส่วนต่างๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) ว่าได้มาจากใครหรือที่ใด
  • นักเรียน นักศึกษา ต้องขอหนังสือรับรองของสถานศึกษานั้นๆ (เป็นภาษาอังกฤษ) จะต้องมีตราปั๊มจากสถานศึกษาบนเอกสารด้วย

5. เอกสารหลักฐานทางการเงิน (Statement)

คุณต้องมีบัญชีฝากประจำ และทำการยื่นขอเอกสารรับรองทางการเงิน หรือ Statement (ย้อนหลัง 6 เดือน) แล้วให้แจ้งกับทางธนาคารว่าคุณต้องการขอวีซ่าเชงเก้น เพื่อให้ทางธนาคารออกเอกสารรับรองเป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ที่รับรองว่าคุณมียอดเงินหมุนเวียนสม่ำเสมอทุกเดือน (ถือว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการที่เค้าจะตัดสิน เพื่อให้วีซ่าเชงเก้น) มี 2 กรณี คือ

  • กรณีผู้มีรายได้ บัญชีคุณควรมีรายได้หมุนเวียนสม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันก็ตาม
  • กรณีผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือไม่มีงานทำ จะต้องมีหนังสือ Sponsor Letter ที่ออกโดยผู้ที่ออกค่า ใช้จ่ายให้พร้อมลายเซ็นเป็นฉบับภาษาอังกฤษ พร้อมแนบหนังสือแสดงความสัมพันธ์ด้วย เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองบุตร และเอกสารรับรองรายได้ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายให้พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษ

6. ทำแผนการท่องเที่ยว (เป็นภาษาอังกฤษ)

ทำเอกสารแจ้งการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย คุณไปสายไหน ไปสายการบินอะไร เวลาเที่ยวบิน ไฟลท์การบิน เข้า-ออกประเทศใด วันที่เท่าไหร่ พักที่ไหน ใช้เวลาเดินทางกี่วัน สถานที่ๆเราไปเทียว คุณควรตอบให้ตรงกับความเป็นจริง

7. เอกสารจองที่พัก และ ตั๋วโดยสาร

รวบรวมเอกสารรายละเอียดในการจองที่พักและตั๋วการเดินทางทัวร์ยุโรป เที่ยวบินทั้งขาไป-กลับ(ถ้าเป็นตัวบินระหว่างประเทศในโซนยุโรป) คุณสามารถแนบเอกสารการจองอื่นๆไปด้วยได้ โดยอ้างอิงจากข้อที่ เช่น ตั๋วเข้าชมสถานที่ ตั๋วโดยสารยานพาหนะอื่นๆ

8. หนังสือเชิญ (ในกรณีที่ถูกองค์กร หรือบุคคลเชิญ)

สำหรับเชิญรูปแบบองค์กร ในหนังสือองค์กรนั้นต้องส่งมาพร้อมชื่อเราที่ต้องแนบมาด้วย

สำหรับเชิญรูปแบบบุคคลจำเป็นต้องใช้หลักฐานของผู้ที่เชิญแนบไปด้วยเช่น ให้ผู้เชิญทำการ
ส่งหนังสือแสดงโค้ดเชิญจากสถานีตำรวจจากประเทศนั้นๆพร้อมสำเนาหนังสือเดินทางของผู้เชิญเพื่อใช้แนบคู่ไปกับเอกสารอื่นๆ

9. ขอเอกสารจากบริษัทกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทาง (ที่สถานฑูตยอมรับ)

ตัวประกันการเดินทางต้องมีระยะเวลาคุ้มครองที่ครอบคลุมช่วงเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปต้องให้การคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ ค่ารักษาอาการเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง ซึ่งการประกันภัยการเดินทางต้องมีวงเงินประกันมากกว่า 30,000 ยูโรขึ้นไป ควรหาประกันภัยที่ให้การคุ้มครองครบทุกด้านสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ อาทิเช่น มีอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาล ประกันกระเป๋าเดินทางหาย หรือเสียหาย, ตกเครื่อง, ไฟลท์บินทัวร์ยุโรปยกเลิกหรือดีเลย์ หากเราใช้กรมธรรม์ที่เราซื้อนี้ยื่นหลักฐานวีซ่าแต่เกิดการโดนรีเจ็ควีซ่าทางบริษัทจะต้องคืนเงินประกันให้เราด้วย

10. ค่าธรรมเนียมการขอยื่นขอวีซ่าเชงเก้น

ราคาปกติของค่าธรรมเนียมในการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นกับสถานทูต ประมาณ 60 ยูโร หรือประมาณ 2,265 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินในแต่ละวัน)

หากทำการยื่นผ่านบริษัทตัวแทนรับยื่นวีซ่า อาจมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้เป็นค่าบริการจัดการด้านเอกสารต้องทำการเช็คกับบริษัทตัวแทนรับยื่นวีซ่านั้นๆโดยตรง

** (ข้อควรระวัง และข้อแนะนำ ) การขอทำวีซ่าเชงเก้น คือ

เอกสารการรับรองทุกฉบับที่ขอจากองค์กรต่างๆ ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน
เกอสารทุกฉบับต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมันทั้งหมดรวมทั้งแผนการเดินทาง
แนะนำว่า หากคุณใช้บริการจากที่รับแปลเอกสารควรเป็นที่รับแปลที่น่าเชื่อถือและควรมีประสบการณ์ด้วย

ทัวร์ยุโรปตะวันออก ปี 2020

จากกระแสตอบรับที่ดีในช่วงปีที่ผ่านมามีผลสำรวจว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทัวร์ยุโรปกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่มีมากกว่า 81% มาท่องเที่ยวกันมาก เพราะถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในยุโรปตะวันออก ซึ่งนักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสนใจกันมาก และเมื่อมีโอกาสก็อยากหาทัวร์เดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆในยุโรปที่ต่างไปจากการเที่ยวแต่ประเทศเดิมๆที่เคยได้ไป วันนี้เราจะให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปตะวันออก มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

ซัลตา ประเทศอาร์เจนตินา

ซัลตาตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาแอนดีสในประเทศอาร์เจนตินา มีสถาปัตยกรรมโคโลเนียล 9 de Julio Plaza จตุรัสเขียวชอุ่มใจกลางเมือง โบสถ์ซานฟรานซิสโกหรือโบสถ์ และอารามเก่าแก่ที่มีความสวยสดงดงามเต็มไปด้วยสีสัน สร้างความสดใสให้เมืองนี้เป็นอย่างมาก ทั้งมีภูมิประเทศหลากสีสันซึ่งอยู่ใกล้เคียงอย่างเนินเขาเจ็ดสีและ Salinas Grandes (ที่ราบเกลือ)

สถานที่พัก : Hostal Prisamata (ห้องพัก + อาหารเช้าแบบคอรติเนนตัล)

ชาเบลียค ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro)

สถานที่นี้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่มีทิวทัศน์งดงามปกคลุมผืนป่าไปด้วยต้นไม้อันสีเขียวชะอุ่มมกับอุทยานแห่งชาติ Durmitor National Park ตื่นตาตื่นใจกับทะเลสาบ Black Lake รอบด้านมีป่าสนเรียงรายมองไปเห็นภูเขาช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะพาครอบครัว หรือคนรัก ออกทางไปเที่ยวพักผ่อน เพราะบรรยากาศดี เงียบสงบ ให้ความเป็นส่วนตัวหรือชวนเพื่อนๆเดินทางแคมป์ปิ้งไปกรุ๊ปทัวร์กันหลายๆ คนก็น่าสนุกไม่ใช่น้อย

สถานที่พัก : Holiday Home Vile Calimero บ้านพักติดกับภูเขาบ้านพักตั้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวมีพื้นที่ใช้สอยสะดวกสบายหรือทำพานักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ทำกิจกรรมบริเวณรอบที่พักได้และที่พักก็อยู่ใจกลางเมืองชาเบลียค ไม่ไกลจากลิฟต์สกี Javorovac Ski Lift ด้วย

เยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย ( Yerevan Armenia )

กรุงเยเรวานได้รับการขนานนามจาก UNESCO ว่าเป็น World Book Capital อีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวมีตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม และเชิงประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาร์เมเนีย มหาวิหารเซนต์เกรกอรี่ ดิ อิลลูมิเนเตอร์เป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์นิกาย Armenian Apostolic Church ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, วิหารซวาร์ทนอส ที่ราบสูงอารารัต, Cascade บันไดขนาดยักษ์ที่สร้างจากหินปูน ประดับประดาด้วยสวนน้ำพุ,รูปปั้น และรีพับบลิคสแควร์ จตุรัสใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุดนตรีแสนบันเทิง มาทัวร์ยุโรปทั้งที คุณคงไม่พลาดที่จะมาประเทศอาร์เมเนียกันนะ

สถานที่พัก : Panorama Resort & Suites สถานที่พักตั้งอยู่บนยอดเขาชวนให้คุณทั้งหลายทัศนียภาพพลางสำรวจรอบๆ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้ลงเล่นกันเพลินๆ

อิล กซีรา ประเทศมอลตา ( Malta )

ประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป เมือง อิล กซีรา ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอลตาที่สามารถมองเห็นวิวกรุงวัลเลตตาที่มีกำแพงล้อมรอบได้ ส่วนป้อม Fort Manoel สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1726 ตั้งอยู่บนเกาะ Manoel ที่อยู่ติดกับตัวเมืองอิล กซีรา จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทริปทัวร์ท่องเที่ยวไปเช้าเย็นกลับ ให้ผู้เดินทางได้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง และกินอาหารแบบท้องถิ่น


สถานที่พัก : Sweet Home malta ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิล กซีราและอยู่ใกล้กับเกาะ Manoel มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมในยูนิตอพาร์ตเมนต์ปรับอากาศ และที่พักแห่งนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากอ่าว Balluta Bay

ชวีโนวิชแจ ประเทศโปแลนด์

ชวีโนวิชแจ (Swinoujscie) นั้นเป็นเมืองท่าที่สวยงามริมทะเลบอลติกทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปแลนด์ และยังมีหอประภาคารยุคศตวรรษที่19 เพื่อชมวิวมุมกว้างของท่าเรือจากหอสังเกตการณ์ รวมทั้งยังมีการเล่นกีฬาทางน้ำที่หาดชวีโนวิชแจ หนึ่งในชายหาดที่กว้างที่สุดของโปแลนด์

สถานที่พัก : Houseboat Porta Mare III ที่พักมีลักษณะเป็นแพลัักษณะเป็นเรือตั้งอยู่ริมน้ำ คุณสามารถสัมผัสกับความเพลิดเพลิน และทำกิจกรรมในน้ำ และพิพิธภัณฑ์การประมงทะเลซึ่งคุณสามารถปั่นจักรยานไปได้ตามเส้นทาง

ซานฮวน ประเทศเปอร์โตริโก

กรุงซานฮวนเมืองหลวงของเปอร์โตริโกเป็นจุดหมายยอดเยี่ยมในแถบแคริบเบียนซึ่งมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา ลองเดินไปตามถนนหนทางที่ปูด้วยอิฐของย่านเมืองเก่าซานฮวน และคุณจะพบกับอาคารบ้านเรือนยุคอาณานิคมสเปนหลากสีสัน สำรวจถนนฟอร์ตาเลซา หรือที่รู้จักกันว่า “ถนนร่ม”

สถานที่พัก : Nomada Urban Beach Hostel มีบริการจัดทัวร์และกิจกรรมสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการเที่ยวเป็นกลุ่ม ที่พักเหมาะอย่างยิ่งกับการทำกิจกรรม เพราะมีพื้นที่ให้ย่างบาร์บีคิว มีสวนหย่อมให้นั่งเล่น

สถาปัตยกรรมล้ำค่า ในทวีปยุโรป

ถ้าพูดถึงบนโลกนี้ หนึ่งทวีปที่คุณอยากไปเยือนสักครั้งคงหนีไม่พ้น “ทวีปยุโรป” ทวีปที่มีความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีต่างๆ และยังเป็นผู้นำแฟชั่นอันทันสมัยที่สุดในโลกก็ว่าได้ ถือว่าเป็นทวีปที่เป็นตั้งของหลายประเทศที่มีสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความล้ำค่าและสวยงามที่สุดระดับต้นๆ ของโลก ที่ยังคงหลงเหลือให้เราได้ชมกันอยู่กับ 10 ที่สุด ของสถาปัตยกรรม อยู่ทีเมืองไหนประเทศอะไรบ้าง ดังนี้

ประเทศอิตาลี มีสถาปัตยกรรม 6 สถานที่ ได้แก่ (สนามกีฬาโคลอสเซียม) (หอ
เอนปิซ่า) (นครรัฐวาติกัน) (วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม) (น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม) (บันไดสเปน กรุงโรม)

ประเทศฝรั่งเศษ มีสถาปัตยกรรม 3 สถานที่ ได้แก่ (พระราชวังแวร์ซายส์ กรุง
ปารีส) (หอไอเฟล กรุงปารีส) (พิพิธภัณฑ์ลูฟร์)

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสถาปัตยกรรม 1 สถานที่ ได้แก่ (ยอดเขายุงเฟรา)

1. สนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศ อิตาลี (Colosseum Italy,Rome)

สนามกีฬากลางแจ้งตั้งอยู่ที่กรุงโรมของประเทศอิตาลี 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬาในยุคอาณาจักรโรมันโบราณที่มีขนาดใหญ๋ก่อสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ปีค.ศ.72 ถึง 80 ที่สร้างรูปทรงมีลักษณะอาคารเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ ภายในบริเวณอาคารสามารถบรรจุคนนั่งดูได้ถึง 80,000 คน บริเวณใต้อัศจรรย์และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต รวมทั้งสิงโตหลายร้อยห้อง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ ก็อาจรอดชีวิตไป หรือไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเองยิ่งถ้าต่อสู้กัน และสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตายจะได้รับเกียรติอย่างสูง เพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมยกย่องกันมาก ซึ่งในทุกๆปีหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน

2. หอเอนเมืองปิซ่า ( Leaning Tower of Pisa , Italy )

หอเอนแห่งเมืองปิซ่า เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน ลักษณะรูปทรงมีความพิศดาร สูงถึง 54 เมตร. หรือ 181 ฟุต มีทั้งหมด 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตรรองรับ ได้ลงมือสร้างเมื่อ (ค.ศ.1174) ไปเสร็จในปี (ค.ศ.1350) ใช้เวานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ความน่ามหัศจรรย์อีกอย่าง คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียงแต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมาเพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วงเมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มและยังทรงตัวอยู่ได้เมื่อสร้างเสร็จ ส่วนยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร หรือ 14 ฟุต

3. นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City)

นครรัฐวาติกันและอิตาลี ได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราช มีอำนาจอธิปไตยของตนเองตั้งแต่ พ.ศ. 2503 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดน ที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ (International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict) เนื่องจากเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมของโลก มีหอสมุดอันเก่าแก่ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 (the Apostolic Library of the Vatican) ทำให้นครรัฐวาติกันจึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก และนักท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปส่วนใหญ่ต้องมาเที่ยวที่ประเทศนี้ เพราะเป็นประเทศที่เล็กและสวยงามมาก

4. วิหารเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม ( Basilica of Saint Peter )

วิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระมหาวิหารนักบุญเปโตร เป็นมหาวิหารเอกหนึ่งในสี่แห่งในกรุงโรม นครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารสูงโดดเด่นสามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม โบสถ์นี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่ตั้งโบสถ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของนักบุญซีโมนเปโตร ซึ่งเป็นหนึ่งในอัครทูตของพระเยซู คริสตจักรถือว่านักบุญเปโตรเป็นบิชอปองค์แรกของแอนติออก ต่อมาก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรม เพราะนิกายโรมันคาทอลิกเชื่อกันว่าร่างของนักบุญเปโตรถูกฝังไว้ที่นี่ จึงเป็นประเพณีกันต่อมาว่าพระสันตะปาปาหลายองค์ก็ฝังไว้ที่นี้

5. น้ำพุเทรวี่ กรุงโรม ( Trevi Fountain )

น้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เขตเทรวี่ในกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) ความกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม ในสมัยบาโรกก็มีการแข่งขันออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ กัน มีการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1732 และเสร็จในปี ค.ศ. 1762 นานหลังจากพระสันตะปาปาคลีเมนต์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เมื่อประติมากรรมโอเชียนัส (เทพเจ้าแห่งน้ำ) มีปิเอโตร บรัคชิ (Pietro Bracci) ได้รับการติดตั้งในช่องกลางน้ำพุ

6. บันไดสเปน กรุงโรม (Scalinata della Trinità dei Monti )

บันไดสเปนในกรุงโรมของประเทศอิตาลี เป็นบันไดที่กว้างที่สุด และยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ฟรันเชสโก เด ซังค์ติส (Francesco de Sanctis) กับอาเลสซันโดร สเปคคี (Alessandro Specchi) สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1723-1725 ด้วยเงินจากกองทุนมรดกของนักการทูตฝรั่งเศส เอเตียน เกฟีเย (Étienne Gueffier) ลานด้านหน้าบันไดสเปน กลางลานมีฟอนตานาเดลลาบาร์คัชชา น้ำพุแบบอย่างบาโรกยุคต้นรูปทรงเรือโบราณตั้งโดดเด่น สร้างขึ้นในปี 1627-1629 ผลงานของนักประติมากรชื่อดัง ปีเยโตร แบร์นีนี บิดาของ จัน โลเรโซ แบร์นี่นี่ ประติมากร และสถาปนิกบาโรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งกว่าผู้พ่อ ตามตำนานว่า พระสันตะปาปาอูร์บาโนที่ 8 มีดำริให้สร้างจำลองจากเรือที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำไทเบอร์ตอนน้ำท่วม

ที่มุมขวาของเชิงบันได จะเห็นอาคารที่เคยเป็นสถานที่พำนักอาศัยของจอห์น คีตส์ กวีชาวอังกฤษ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1821 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ Keats-Shelley Memorial House เพื่อรำลึกถึงคีตส์และเพอร์ซี บิช เชลลี และยังเป็นหอจดหมายเหตุรวบรวมผลงานสำคัญ รวมทั้งต้นฉบับและงานเขียนของกวีในยุคโรแมนติกอีกหลายท่าน

7. พระราชวังแวร์ซายส์ กรุงปารีส ( Versailles Palace)

เป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซาย แวร์ซายเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรฝรั่งเศสโดยพฤตินัยเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ นับจาก ค.ศ. 1682 ถึง 1789 โดยปัจจุบันนี้เมืองแวร์ซายได้เป็นชานเมืองที่ร่ำรวยของกรุงปารีสและยังคงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองเป็นตุลาการที่สำคัญ เมืองแวร์ซายตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของกรุงปารีสห่างจากใจกลางเมืองมา 17.1 กิโลเมตร โดยสภาเมืองแวร์ซายมีหน้าที่ปกครองส่วนอีฟลินส์ จากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2008 ที่ผ่านมา เมืองแวร์ซายมีประชากรทั้งสิ้น 88,641 คน ลดลงจากที่เคยมีมากที่สุกถึง 94,145 คนในปี ค.ศ.1975

8. หอไอเฟล กรุงปารีส ( Eiffel )

หอไอเฟล เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 (Exposition universelle de Paris de 1889) เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม หอคอยสูงงดงามแห่งนี้เป็นดาวเด่นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน หอไอเฟลกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสและใน ค.ศ. 2006 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 8

9. พิพิธภัณฑ์ลูฟ ( louvre museum )

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือมูว์เซดูลูฟวร์ มีชื่อทางการว่าthe Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศษ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและเก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีรูปทรงลักษณะเป็นพีระมิดแก้วออกแบบโดยไอ.เอ็ม.เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปีค.ศ.1988 เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดินที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด และต่อมาได้มีการวางโครงการขึ้นอีก คือ พีระมิดกลับหัวซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกันที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดินโดยฐานพีระมิดที่อยู่บนพื้นผิวระดับถนน โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1993

10. ยอดเขายจงเฟรา ( jungfrau )

ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตร ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007

ทวีปยุโรป ยังมีอีกหลายประเทศที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันล้ำค่า ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมรดกของโลกอันทรงคุณค่า ที่มีความปราณีตสวยงาม และยังคงเหลือไว้ให้ชื่นชมนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนจากทั่วทุกมุมโลก ในปัจจุบันมีนักท่องให้ความสนใจ และออกเดินทางมาท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปกันเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่อื่นๆอีกมากมายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มาเยือน

สัมผัสบ่อแช่เท้าใกล้ๆ ในกรุงไทเป ไต้หวัน

ในประเทศไต้หวันนั้น เต็มไปด้วยอุทยาน ป่าไม้เขียวขจี รายล้อมด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีสภาพแวดล้อมมีทิวทัศน์และธรรมชาติสวยงาม ให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายเลือกไปผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou) ในกรุงไทเป ที่ว่ากันว่า น้ำพุร้อนที่นี่ มี 3 แบบ ด้วยกัน คือ แบบที่มีกำมะถันเขียวๆหน่อย แบบที่มีกำมะถันสีขาว และสุดท้ายแบบโปร่งใสเลย ซึ่งคุณสมบัติทางด้านสุขภาพก็จะต่างกันไปนั่นเอง

ย่าน ซิน เป่ยโถว (Xin-Beitou) เป็นย่านเมืองใหม่ของเป่ยโถวที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่แค่นอกเมืองไทเปเท่านั้น ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมของชาวไทเป บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยรีสอร์ท และสปาทั้งหลากหลายแบบตั้งแต่แบบบ้านๆไปจนถึงแบบหรูหรา มีทั้งห้องอาบน้ำสาธารณะ บ่อแช่เท้า ร้านน้ำชา คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ

เมืองซินเป่ยโถวเพิ่งถูกสร้างขึ้นในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายในใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นเท่านั้น ช่วงประมาณ ปี ค.ศ.1900 ทำให้ในเมืองนี้จะมีบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นหลงเหลืออยู่มากมาย เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นคลั่งไคล้ในการแช่ออนเซนหรือบ่อน้ำร้อนกันขนาดไหน ในทุกวันนี้คนไต้หวันหรือนักท่องเที่ยว จากทุกสารทิศในโลก ก็นิยมมาบ่อน้ำพุร้อนในกรุงไทเปกันแบบไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของย่านซินเป่ยโถวมีอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
สวน Qixing Park , ศูนย์วัฒนธรรมไข่ตาเก๋อหลาน (Ketagalan Cultural Center), ห้องสมุดสาธารณะไทเปประจำเมืองเป่ยโถว (Taipei Public Library), พิพิธภัณท์บ่อน้ำแร่เป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum) ห้วยนรก หรือ Themal Valley บ่ออาบน้ำสาธารณะ Millennium Hot Spring

สำหรับโรงอาบน้ำสาธารณะในย่านซินเป่ยโถวนั้นมีให้บริการอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีกฏระเบียบแตกต่างกันไปบางแห่งจะเป็นแบบเปลือยกายแยกบ่อสำหรับผู้ชายและผู้หญิงแต่บางที่ก็เป็นแบบใส่ชุดว่ายน้ำแช่รวมกันส่วนใหญ่จะเป็นแบบกลางแจ้ง หรือสามารถจองห้องพักของโรงแรมที่สามารถจองเวลาใช้งานได้แบบส่วนตัวเลยก็ได้ซึ่งจะมีทั้งแบบให้บริการเป็นรายชั่วโมงและแบบที่ต้องค้างคืนถึงจะใช้บริการได้ ซึ่งแบ่ง โปรแกรมบ่อน้ำพุร้อนออกเป็น 3 โปรแกรม ดังนี้

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 1– เขตบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่มือที่สวนสาธารณะชีซิง

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 2– น้ำพุผิวกระจกที่สวนสาธารณะเป่ยโถว

โปรแกรมทัวร์ไต้หวันที่ 3– แช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งที่เป่ยโถว

ที่มา : travel.taipei

เอกสารขอวีซ่า วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวัน

ในส่วนของประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ จากภาครัฐผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและสายการบินต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปไต้หวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติเดือนมกราคม ปี 2562 พบว่า มีนักท่องเที่ยวไทย จำนวน 140,925 คนเดินทางไปเที่ยวไต้หวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% โดยในปี 2562 เดือนมกราคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 27,164 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.44% เดือนกุมภาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 28,829 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.66% เดือนมีนาคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,649 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26% และในเดือนเมษายน มีนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 42,283 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.92%

จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างชัดเจน จากการที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวสนับสนุนอย่างเต็มที่นั้น ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยนั้นยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ประกาศขยายยกเว้นการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ระหว่าง วันที่ 1 สิงหาคม 2562 – 31 กรกฎาคม 2563 นั้น คงเป็นที่ทราบกันดีแล้ว

วันนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ในการเดินทางเข้าไต้หวัน (กรณียกเว้นวีซ่า) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เราควรเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จะยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันได้มั่นใจว่าเราจะเดินทางออกจากไต้หวันเมื่อครบกำหนดเวลา มีการงานที่มั่นคงเชื่อถือได้ และสิ่งสำคัญที่คุณต้องเตรียมในการเดินทางเข้าไต้หวัน มีดังนี้

หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หรือตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 (กรณีที่ไม่ได้กลับประเทศไทย)

ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเมือง
ใบจองโรงแรม/ที่พัก หรือข้อมูลที่อยู่ของคนที่เราไปพักอาศัยด้วย
เอกสารทางการเงิน เช่น เงินสด บัตรเครดิต และหนังสือรับรองทางการเงิน เป็นต้น

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบออนไลน์ (กรณียกเว้นวีซ่า)

 

วิธีกรอกใบขาเข้ามี 2 แบบ คือ

กรอกใบขาเข้า ( Arrival Card ) แบบออนไลน์ (ล่วงหน้า 30 วันก่อนเดินทาง) คุณสามารถ

เข้าไปกรอกข้อมูลออนไลน์ได้ที่ http://oa1.immigration.gov.tw/nia_acard/acardAddAction.action

กรอกใบขาเข้า แบบในกระดาษ (พนักงานจะแจกให้ก่อนขึ้นเครื่อง)

ตัวอย่าง : วิธีการกรอกใบขาเข้าไต้หวันแบบกระดาษ (กรณียกเว้นวีซ่า)

ดังนั้น หากคุณเคยคิดว่าการท่องเที่ยวไปประเทศไต้หวันนั้นยุ่งยาก วันนี้คุณไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไป เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารให้ครบตามขั้นตอนที่เราแนะนำเพียงแค่เท่านี้ คุณก็เตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยวในไต้หวันให้เพลิดเพลินกันได้เลย

เครดิตข้อมูล : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2674304

สภาพอากาศ ที่เที่ยวที่กิน ไต้หวัน

ก่อนที่เราจะเดินทางไปทัวร์ประเทศไต้หวัน เราควรหาข้อมูลสภาพอากาศในช่วงที่เราออกเดินทางให้ดีว่าสถานที่นั้นเหมาะสมแก่การไปเที่ยวหรือไม่ เพราะหากสภาพอากาศไม่ดีนั่นก็รวมไปถึงมีผลต่อการชมทัศนียภาพ ของสภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นๆ อาจจะไม่ดีไม่เหมาะแก่การออกทริป ดังนั้นก่อนออกทริปแต่ละครั้งควรตรวจสอบให้แน่ชัด คุณจะได้ไม่ผิดหวังกลับมา

สมัยก่อนคนไต้หวันจะพูดกันแต่ภาษาจีนกลาง หรือเรียวกอีกอย่างว่า ภาษาฮกเกี้ยน แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไปการสื่อสารของคนไต้หวัน เริ่มมีความนิยมใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันมากขึ้น คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ

สภาพอากาศไต้หวัน (หลากฤดูตลอดทั้งปี)

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) : ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมธรรมชาติ อุณหภูมิอยู่ที่ ประมาณ 17-27 องศาเชียลเชียส
  • ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – กันยายน) : สภาพอากาศช่วงนี้ค่อนข้างร้อน อาจเกิดพายุ ฝนตกในบางช่วง
  • ฤดูใบไม้ร่วง ( ตุลาคม – ธันวาคม) : ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็น โปร่ง อาจมีฝนตกบ้าง เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสี
  • ฤดูหนาว (มกราคม-กุมภาพันธ์) : อากาศค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิ 14 องศาเชลเชียล

จัดเต็มรวมแหล่งช้อปปิ้งจากทั่วโลก ขาช้อปทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นสวรรค์ของนักช็อปต้องยกให้ไต้หวันด้วยความที่ค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งมีโปรโมชั่นถึงใจ ของคุณภาพดี ไม่นิยมของปลอม นำเข้าแบรนด์ดังๆจากทุกมุมโลก

แหล่งช้อปปิ้งไต้หวันที่ขาช้อปห้ามพลาด ดังนี้

  • Ximending ซีเหมินติง
  • Gongguan ตลาดกงกวน
  • Wufenpu อู่เฟินผู่
  • Guang Hua Digital Plaza กวงหัว ดิจิตอลพลาซ่า
  • Camera street คาเมร่า สตรีท
  • Taipei City Mall ไทเป ซิตี้มอลล์
  • MITSUI OUTLET PARK LINKOU ห้างเอาท์เล็ทหลินโค่วซานจิ่ง
  • Fengchia night market ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย,ไถจง

ดังนั้น คุณที่เป็นขานักช้อปทั้งหลาย ไม่ควรพลาดที่จะไปจับจ่ายซื้อสินค้าในประเทศไต้หวัน ซึ่งมีสินค้าจากแบรนด์ดัง ไอเท็มโดนๆ ที่คุณต้องอยากจับจองหาซื้อไว้มาครอบครองแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นนักช้อปชาวไทยคงไม่พลาดจองตั๋วมาแน่นอนเพราะเดินทางง่ายโดยไม่ต้องใช้วีซ่า

แหล่งสรรค์ของคนชอบกิน

ถ้าพูดถึงอาหารยอดนิยมในตอนนี้เราคงนึกถึงอะไรปิ้ง ๆ ย่างๆ กันในไต้หวันถือว่ามีร้านเด็ดดังๆอยู่หลายร้านที่ตั้งอยู่ในห้าง หรือตลาดกลางคืนก็จะมีร้านอาหารให้คุณได้เลือกหารับประทานกันตามใจได้เลย อาทิเช่น

1.Tim Ho Wan Taipei Main Station ร้านติ่มซำ ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ แต่ราคาถูกมาก เมนูเด็ดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ซาลาเปาหมูแดง (Baked Bun with BBQ Pork) อีกเมนูคือเกี๊ยวทอดไส้กุ้ง ราดด้วยซอสวาซาบิมาโย (Wasabi Salad Prawn Dumpling) มีโจ๊กฮ่องเต้ก๋วยเตี๋ยวแกงกะหรี่ เวลาเปิด-ปิด 10.00-22.00 น.(ทุกวัน) การเดินทาง อยู่ใกล้กับ MRT Taipei Main Station

2. LA FESTA ร้านตั้งอยู่ภายในโรงแรม Grand Victoria Taipei เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่เปิดโดยเชฟที่ได้รางวัล Michelin 1 ดาว ที่นี่ให้บริการเซ็ตอาหารกลางวันและอาหารเย็น นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารเป็นแบบ A LA CARTE ได้ด้วย เวลาเปิด-ปิด อาหารเช้า เวลา 06.30-10.00 น. (วันหยุด 06.30-10.30 น.), มื้อกลางวัน เวลา12.00-15.00 น. วันหยุด 11:30-15:00น.น อาหารว่างยามบ่าย เวลา15.00-17.00 น., มื้อเย็น เวลา 18.00-22.00 น. (วันหยุด 17.30-22.00น.) และมื้อดึก เวลา 22.00-00.00 น. การเดินทาง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานี Jiannan ทางออก 3

3. S.T.A.Y. By Yannick Alléno ร้านอาหารสุดหรูโดยเชฟมิชลิน 3 ดาว เมนูสไตล์ฝรั่งเศษ ที่คุณสามารถมาลิ้มลองรสชาติอันแสนละมุนนุ่มลิ้นโดยมีให้เลือกทั้งแบบ Course และ A la Carte อาหารในคอร์สจะมีทั้งหมด 10 รายการ ให้คุณได้ทานไปยิ้มไป เวลาเปิด-ปิด 12.00-15.00 น.,18.00-22.00น. การเดินทาง ชั้น 4 ตึก Taipei 101 รถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีแดง) ลงที่สถานี Taipei 101/World Trade Center Station

4. Yen Chinese Restaurant ร้านอาหารจีน สไตล์โมเดิร์นของเชฟมิชลิน มีบรรยากาศของวิวเมืองไทเปบนชั้น 31 “New Chinese Cuisine” หรือ “Nouvelle Chinese” ติ่มซำที่เป็นสุดยอดของความอร่อยไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบ,ฮะเก๋า,ซาลาเปา,เกี๊ยวซ่า ฯลฯ อีกหนึ่งในเมนูเด็ดนั่นก็คือ ข้าวต้มล็อปสเตอร์ (Deep Fried Rice Puff in Superior Braised Lobster Stock) และสำหรับเมนูแนะนำอื่นๆ คือ ซาลาเปาไส้หมูแดง (Baked Barbecue Pork Buns, Sugar Frost) แป้งสอดไส้หัวผักกาดสับละเอียดและชีสทอดกรอบ (Fried Turnip Shreds with Cheese) และเกี๊ยวซ่าไส้หมู (Pan Fried Pork Dumplings) เวลาเปิด-ปิด 11.30–14.30 น.,18.00- 22.00 น. (ทุกวัน) การเดินทาง ชั้น 31 ของโรงแรม W โดยตัวโรงแรม W ตั้งอยู่ทางขวามือของสถานีรถไฟใต้ดิน(สายสีน้ำเงิน) Taipei City Hall Station

ร้านอาหารทั้ง 4 ร้านนี้ เป็นร้านที่เราอยากแนะนำให้นักกินทั้งหลายได้ลิ้มลองรสชาติ อาหารทั้งสไตล์ฝรั่งเศษ จีน อิตาเลี่ยน ที่ได้รับรองความอร่อยเลิศระดับมิชลินสตาร์ ที่คุณไม่ควรพลาด

ตบท้ายด้วยของหวานต่างๆ หรือเครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยชื่นใจสักแก้ว เช่น ชานมไข่มุก ที่คัดสรรให้รสชาติจากชาต้นตำหรับชั้นดี ให้คุณได้เลือกดื่มกันได้ตามใจชอบตามร้านสตรีทฟู๊ด

 

 

 

สายการบินไปไต้หวัน และราคาตั๋วเครื่องบิน

(การเดินทางสายการบินจาก กรุงเทพฯ /เชียงใหม่ – ไต้หวัน)

from bangkok to taiwan

ในปัจจุบันให้บริการใช้งานทั้งหมด 2 เทอมินัล (Terminal) เส้นทางบินตรงไปทัวร์ไต้หวัน จาก (กรุงเทพฯ – ไทเป) ไปลงเทอมินัลต่างๆ ดังนี้

  • Terminal 1 : สายการบินไทย (Thai Airways:TG) / สายการบินไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines) / สายการบินนกสกู๊ต (NokScoot : XW) / สายการบินไทเกอร์แอร์ไต้หวัน (TigerAir Taiwan : IT)
  • Terminal 2 : สายการบินอีวีเอแอร์ (EVA Air : BR)

สายการบินเวียตเจ็ต รุดขยายเครือข่ายสู่เมืองแห่งชาไข่มุกของเอเชีย เปิดเส้นทางบินตรงเชื่อมดานัง เมืองชายทะเลทางภาคกลางของเวียดนาม สู่เมืองไทเปในไต้หวัน เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล “สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019)

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทถือเป็นสายการบินที่มีเส้นทางเชื่อมเวียดนามสู่ไต้หวันมากที่สุดถึง 8 เส้นทางและมีบริการ 20 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เป็นสายการบินยอดนิยมของผู้บริโภค ทั้งนี้เนื่องจากมีตารางเที่ยวบินที่สะดวกสบายบริการระดับคุณภาพ และบัตรโดยสารราคาประหยัด ชวนนักเดินทางให้มาสัมผัสประเทศไต้หวัน ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปสีสันธรรมชาติที่สวยงามมีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เมนูอาหารที่หลากหลายและค่าครองชีพที่ทุกคนสามารถเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันได้อย่างสบายกระเป๋า

เที่ยวบินดานัง-ไทเป จะให้บริการทุกวันด้วยเครื่องบินลำใหม่ที่ทันสมัยรุ่น A320 และ A321 ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปออกเดินทางจากดานังเวลา 10.50 น. ถึงไทเปเวลา 14.30 น. เที่ยวบินขากลับออกเดินทางจากไทเป 15.30 น. กลับถึงดานังเวลา 17.30 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยใช้เวลาบินเที่ยวละ 3 ชั่วโมง

ผู้โดยสารมากกว่า 3,000 คน สามารถเดินทางอย่างสะดวกสบายระหว่างเมืองฮานอย ดานัง โฮจิมินห์สู่เมืองสำคัญในไต้หวันอย่าง ไทเป ไทจง เกาสง และไถหนาน บนเครือข่ายการบินที่ครอบคลุม ตารางเที่ยวบินที่สะดวกสบายและบัตรโดยสารราคาประหยัดของเรา นอกจากนี้ การเดินทางเที่ยวไต้หวันและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคจะยิ่งมีความสะดวกสบาย และคุ้มค่ามากขึ้น ด้วยการจองบัตรโดยสารราคาโปรโมชั่น

สายการบินที่มีให้บริการไปไต้หวันแบบ Direct Flight มีดังตารางด้านล่างนี้

Airline CompanyPrice
China Airlines12,000-16,000 บาท
Thai Airways11,000-18,000 บาท
Eva Air12,000-18,000 บาท
TransAsia(ยกเลิกเที่ยวบิน)

สายการบิน EVA Air

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน EVA Air)

สายการบิน China Airlines

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน China Airlines)

BKK-TPE (บินทุกวัน)เวลา
CI 06608.30-12.55
CI 834 11.10-15.40
CI 836 17.50-22.25
BKK-KHN (บินทุกวัน)เวลา
CI 84018.40-23.00
BKK-KHN (บินทุกวัน)เวลา
CI 83307.15-10.05
CI 83513.44-16.45
CI 06521.55-00.45+1
 

KHH-BKK (บินทุกวัน)

เวลา

CI 839 15.05-17.45

สายการบิน Thai Airways

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน Thai Airways)

(สายการบิน Budget Airlines)

โดยตอนนี้มี 2 สายการบินด้วยกันนะคะ ทั้งสองสายขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ

Tiger Air Taiwan และ V AIR : ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,XXX – 9,XXX บาท.

สายการบิน Tiger Air

รายละเอียดตารางการไฟลท์บิน ไป-กลับ (สายการบิน Tiger Air)

ที่มาจาก : https://www.flymetotaiwan.com

สายการบิน อีวีเอแอร์ (EVA Air : BR)

สายการบิน Full Service สัญชาติไต้หวัน และเป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ที่ได้รับรางวัลหนี่งในสิบสายการบินที่ดีที่สุดในโลก TOP TEN AIRLINES OF 2016 จาก SKYTRAX ที่ได้รับการจัดอันดับโดยการโหวตของผู้โดยสารทั่วโลก

การเดินทาง : Direct Flight / 3 ชม. 40 นาที

ประเภทเครื่อง : Airbus A330 – 200

รูปแบบที่นั่ง : Economy 2 – 4 – 2 (สามารถเลือกที่นั่งได้)

การโหลดสัมภาระ : น้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 kg.

การบริการ : เสิร์ฟอาหารพร้อมเครื่องดื่ม Full Options (สามารถเลือกอาหารก่อนเดินทางได้)

(ข้อมูลรูปภาพเพิ่มเติมจาก)

http://tatarpornprapa.blogspot.com/2017/08/2017-taiwan-trip-9-part-1-eva-air.html

เที่ยวไต้หวัน ไทเปด้วยบัตร Taipei Pass

ถ้าพูดถึงการทัวร์ท่องเที่ยวที่ไต้หวัน เราคงต้องคำนึงถึงการเดินทางก่อน ว่าจะใช้วิธีการเดินทางรูปแบบไหน ขึ้นเครื่องบิน นั่งรถ นั่งเรือ หรือนั่งรถไฟ รวมถึงต้องคิดถึงเรื่องระยะทางใกล้หรือไกลแค่ไหน ใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่และจะถึงที่หมายกี่โมง และวิธีการการเดินทางที่เราคิดว่าสะดวก และรวดเร็วที่สุดในไต้หวัน นั่นคือ นั่งรถไฟ

วันนี้ มีรูปแบบบัตรที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทางมากขึ้น เดินทางไปเที่ยวก็พกแค่บัตรเดียวใช้เดินทางขึ้นรถไฟไปกลับได้ไทเป ไต้หวัน อย่างสะดวกสบายแถมใช้งานง่ายๆ นั่นคือ บัตร Taipei Pass สามารถใช้บริการรถไฟ ทั้งใต้ดินและบนดิน รวมถึงระบบรถบัสต่างๆที่ทันสมัย บัตรใบนี้จะยิ่งช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกและประหยัดขึ้น เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่เราเลือกซื้อ ในการท่องเที่ยวในไทเป ไต้หวัน และเขตปริมลฑล(นิวไทเป) อย่างเช่น รถไฟใต้ดิน และรถประจำทาง ทำให้สะดวกและประหยัดกว่าการซื้อทีละครั้ง

บัตร Taipei Pass คือ เป็นบัตรเดินทางแบบเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามระยะเวลาที่เราเลือกซื้อมีให้เลือกตั้งแต่ 1-5 วัน เป็นบัตรที่ทำให้การเดินทางใน ไทเป ประเทศไต้หวัน ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่วางแผนเที่ยวในพื้นที่เมืองไทเป และเที่ยวไปรอบๆเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นคนที่ใช้บริการสาธารณะเดินทางขึ้นลงรถไฟหลายๆ ครั้งต่อวัน

ประเภทของ บัตร Taipei Pass มีดังนี้

บัตรแบบ 1 วัน : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 1 วัน
บัตรแบบ 1 วัน (Gondola version) : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 1 วัน และขึ้นกระเช้า Maokong Gondola ใน 1 วันได้ไม่เกิน 3 เที่ยว
บัตรแบบ 2 วัน : สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 2 วัน
บัตรแบบ 3 วัน :สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 3 วัน
บัตรแบบ 5 วัน: สามารถใช้เดินทางได้ภายใน 5 วัน

บัตร Taipei Pass ทำอะไรได้บ้าง การใช้งานบัตรนี้สามารถใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินทั่วไทเปและรถประจำทางทุกสายที่มีสัญลักษณ์ Taipei Pass (รถประจำทาง Taiwan Tourist Shuttle สามารถใช้ได้ตามเส้นทางต่อไปนี้ คือ Beitou Zhuzihu, Muzha Pingxi, Crown Northern Coastline และ Gold Fulong)

วิธีการใช้งาน บัตร Taipei Pass

สามารถใช้งานบัตรในในทุกที่ที่มีสัญลักษณ์บัตรของ Taipei Pass เพียงแตะที่จุดเซ็นเซอร์
จะมีผลบังคับใช้ในวันแรกของการใช้งานและบัตรจะหมดอายุลงในเวลาเที่ยงคืนตามจำนวนวันที่กำหนดไว้

ไม่สามารถเติมเงินในบัตรได้ หากบัตรชำรุดไม่สามารถส่งคืนเพื่อขอรับคืนเงินได้
หากบัตรยังไม่ผ่านการใช้งานหรืออยู่ในหีบห่อเดิมสามารถส่งคืนเงินได้ภายใน 7 วัน ที่สถานีรถไฟใต้ดินของไทเปในช่วงเวลาเปิดทำการ โดยมีการคิดค่าบริการ NT $ 20 สำหรับการดำเนินการคืนเงิน

ห้ามดัด ทำรอย ขีดข่วน ตัดบัตร หรือโดนความร้อน ขณะที่ใช้งานบัตรไม่ควรวางไว้ข้างวัตถุโลหะ หากนำบัตรไปสแกนเป็นเวลานานหรือสั้นเกินไป อาจทำให้บัตรเกิดความผิดปกติได้ หากมีปัญหาบัตรไม่ทำงานควรเอาบัตรออกจากบริเวณเซ็นเซอร์รอสักครู่แล้วจึงสแกนใหม่
หากเอาบัตรใส่ไว้ในกระเป๋า ถุง หรือกระเป๋าเงิน ไม่ควรมีความหนาเกิน 5 ซม. เพราะจะทำให้แสกนไม่ผ่านได้

ราคาบัตร Taipei Pass

บัตรแบบ 1 วัน: ราคา NT$ 180
บัตรแบบ 1 วัน (Gondola version): ราคา NT$ 350
บัตรแบบ 2 วัน: ราคา NT$ 310
บัตรแบบ 3 วัน: ราคา NT$ 440
บัตรแบบ 5 วัน: ราคา NT$ 700

สถานที่ซื้อบัตร Taipei Pass

Information Counter ที่สถานีรถไฟใต้ดินในไทเป
Easy Card Service Center ที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taipei Main Station

วิธีการคืนเงิน (Refund) บัตร Taipei Pass

การคืนเงินสามารถขอรับเงินคืนได้ในกรณีที่บัตรไม่เคยถูกใช้งานที่ Information Counter ในสถานีรถไฟใต้ดินของไทเป และ Easy Card Service Center

หากบัตรเกิดการชำรุด แตกหัก โดนความร้อนจนเกิดความเสียหายจะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้ บัตรใหม่ที่ได้รับจากการเปลี่ยนเนื่องจากมีปัญหาไม่สามารถส่งคืนเพื่อขอรับเงินคืน

วิธีการเดินทางในไต้หวัน

เวลาของประเทศไต้หวันจะเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 1 ช.ม. จากสถามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม 50 นาที เมื่อมาถึงสนามบิน เราก็จะเจอเค้าท์เตอร์ ที่สามารถซื้อ Easy Card ได้เลย แบบธรรรมดา 100 บาท ถ้าเป็นลายการ์ตูนก็จะ 150 บาท

เมื่อได้บัตรมาเราจะต้องเติมเงินเพื่อใช้ในการเดินทางในไต้หวัน และสามารถแลกคืนได้เฉพาะเงินที่เหลือจากการเติมเข้าไปเท่านั้น ในการเดินทางทัวร์ไต้หวันเราสามารถใช้ Easy Card ขึ้น MRT และรถบัส แถมยังใช้ซื้อของใน 7-11 ใน มินิมาร์ท แฟมิลี่มาร์ท หากเงินหมด เราสามารถเติมเงินตามจุดต่างๆได้

หากเราจะขึ้นรถไฟ MRT แนะนำให้ขึ้นสายสีม่วง Express จะได้ไม่ต้องจอดหลายสถานี ราคาคนละ 168 NTD สถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน (HSR Taoyuan) สามารถเดินทางไป เจียอี้ (Chiayi) ไถหนัน (Tainan) และเกาสง (Kaohsiung) ได้ด้วย หลังจากที่เรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานบินเถาหยวน ไป Taipei Main Station เมื่อมาถึงแล้ว Taipei Main Station จะมีทางออก Z คือทางหน้าสถานนี ส่วนทาง Y คือทางหลังสถานี

หากใครจะเดินทางด้วยรถแท็กซี่ เขามีบริการแบบเหมาทั้งวัน ราคาอยู่ที่ 4000 NTD ราคานี้รวมคนขับ และน้ำมันด้วย แต่ต้องแจ้งก่อนว่าจะไปที่ไหนบ้าง และทำการจอง ในกรณีที่เกิน 8 ชม. จะคิดเพิ่มเป็นรายชั่วโมง คนขับจะสามารถพูดภาษาไทย และภาษาอังกฤษได้ หากใครสนใจสามารถใช้บริการได้ที่ Facebook Gr-Teeteam รถนำเที่ยวไต้หวัน และมีบริการรถรับส่งสนามบิน

การเดินทางไปยังเมืองต่างๆ

Taoyuan Airport → Taipei
1. รถบัส มีรถบัสเข้าเมืองให้บริการ
เวลาที่ให้บริการ : ตลอด24ชั่วโมง
เวลาเดินทาง 45-60 นาที ค่าโดยสาร NT$125

2. รถไฟฟ้า Toayuan Airport MRT
เวลาที่ให้บริการ : 06.00-23.00 น.
ระยะเวลาเดินทาง 35-50 นาที ค่าโดยสาร NT$160

3. รถบัส / รถไฟฟ้าต่อรถไฟความเร็วสูง
UBus#705 เวลาเดินทาง 25 นาที ค่าโดยสาร NT$30 → สถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taoyuan → HSR Taipei เวลาเดินทาง 20 นาที ค่าโดยสาร NT$160

4. รถบัสต่อรถไฟธรรมดา
UBus#706 เวลาเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสาร NT$36 → สถานีรถไฟ TRA Taoyuan → TRA Taipei เวลาเดินทาง 37 นาที ค่าโดยสาร NT$66

5. แท็กซี่
เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร NT$900-1,500

Taoyuan Airport → Taichung
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปที่เมืองไถจง / Sun Moon Lake / Cingjing Farm / Xitou Monster Village
1. รถบัส มีรถบัสวิ่งตรงจากสนามบินเถาหยวนไปยังเมืองไถจง
เวลาเดินทาง 130 นาที ค่าโดยสาร NT$240
2. รถบัส / รถไฟฟ้าต่อรถไฟความเร็วสูง
UBus#705 เวลาเดินทาง 25 นาที ค่าโดยสาร NT$30 → สถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taoyuan → HSR Taichung เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร NT$540
3. รถบัสต่อรถไฟธรรมดา
UBus#706 เวลาเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสาร NT$36 → สถานีรถไฟ TRA Taoyuan → TRA Taichung เวลาเดินทาง 104 นาที ค่าโดยสาร NT$308

ตรวจสอบตารางเวลาการเดินทาง
สนามบินเถาหยวน : http://www.taoyuan-airport.com/english/Buses/
รถไฟความเร็วสูง : https://www.thsrc.com.tw/index_en.html?force=1
รถไฟธรรมดา : http://www.railway.gov.tw/en/index.aspx
Taichung → Sun Moon Lake : http://www.ntbus.com.tw/en-sml.html
Taichung → Cingjing Farm : http://www.ntbus.com.tw/en-cjfm.html
Taichung → Xitou : http://www.ntbus.com.tw/en-xitou.html
Chiayi → Alishan : http://www.lauya.com/pdf/BusSchedule.pdf

ขอบคุณแหล่งที่มาจากและรูปภาพ ช่องยูทูป คุณนายตื่นสาย และ FB: 1000MilesJourney

แหล่งเที่ยวฮิตติด Top 10 ของไต้หวัน ในปี 2020

1.ตึกไทเป 101 (Taipei 101) : ตึกสูงระฟ้าสถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นอันโดดเด่น

ที่มีรูปร่างคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมเรียงซ้อนกัน และเป็นแลนด์มาร์กประจำย่านซินยี่ (Xinyi District) ที่เริ่มสร้างขึ้นในปี 1999 เสร็จสมบูรณ์ในปี 2004 มีทั้งหมด 101 ชั้น ถือเป็นตึกที่สุดที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง และยังมีลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกสามารถพาคุณโดยสารขึ้นไป ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 กม.ต่อชั่วโมง หากคุณได้ลองขึ้นไปสัมผัสบนลานชมวิวของตึกนี้ คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ได้รอบๆแบบ 360 องศาของไต้หวันในบรรยากาศอันแสนสวยงามกันแบบ Exclusive ที่ชวนให้คุณหลงใหลกับสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าได้ตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว บริเวณรอบตึกไทเป 101 ก็ยังมีร้านค้าร้านอาหารอีกมากมายหลากหลายร้านให้คุณได้เลือกชิมเลือกช้อปเพลินเพลินสนุกสนานกันเลย

 

2.ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ฮัวซาน 1914 สถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะที่นำเอาชิ้นงานเก่ามาจัดแสดงผลงานงานที่มาจากความคิดสร้งสรรค์ที่สมัยผสมสผานแนวความคิดใหม่ๆ เป็นสถานที่ที่เหล่าฮิปสเตอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบรักงานศิลปะ หรือชอบสิ่งใหม่ๆผลงานแปลกๆก็จะมาที่นี่ ถือเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนทุกวัย ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ ฮว่าซาน (Huashan 1914 Creative Park) มีเวลาเปิด-ปิด 09:30-21:00 น. การเดินทางสะดวกโดยรถไฟใต้ MRT สายสีน้ำเงิน สถานี Zhongxiao Xingsheng ทางออกช่องที่ 1 เดินประมาณ 3 นาที

3. หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Village) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ร่ำรวยมีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าเข้าหาทะเล และยังเคยเป็นแหล่งของการทำเหมืองแร่ทองคำมาก่อน สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนที่สวยงามแปลกตาที่ตั้งเรียงรายไล่ระดับตามแนวไหล่เขา ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านน้ำชาต่างๆ อยู่ในเขตนิวไทเปที่ประดับแสงไฟในยามค่ำคืนหลากสีสันสวยงามที่จะพาคุณดื่มด่ำกับรรยากาศดีๆไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของภูเขารอบๆหมู่บ้าน

4.ท่าเทียบเรือบริเวณปากแม่น้ำตั้นสุ่ย เป็นท่าเทียบเรือริมทะเล เป็นจุดชมวิวของชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยวที่อยากชมทัศนียภาพตรงมีความโดดเด่นอยู่ที่สะพานที่มีลักษณะรูปโค้งคล้ายเรือใบของเรือคุณสามารถชมความสวยงามของบรรยากาศรอบๆ แม่น้ำอันสุดแสนสงบและโรแมนติก

5.ศูนย์ศิลปะสมัยใหม่เดอะ เพียร์-2 อาร์ต เซ็นเตอร์ (The Pier-2 Art Center) คงจะถูกใจสำหรับผู้ที่รักในงานศิลปะทั้งหลาย ที่จะต้องแวะเดินทางมาชมให้ได้ภาพรวมของ สถานที่นี้บรรยากาศ มีลักษณะสไตล์แบบดิสโทเปีย ของโกดังร้างริมทะเลที่ใช้ในการจัดแสดงผลงานสิลปะร่วมสมัย ถือว่าเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ อาทิเช่น ศิลปะกราฟฟิตี้,ผลงานที่ทำจากเหล็ก,งานประติมากรรม และภาพเขียนสมัยใหม่ ส่วนภายในโกดังของที่นี่มักเป็นที่จัดการแสดงสดรายการต่างๆ เช่น Point & Wavy Ribbon Performance คอเกมทั้งหลายไม่ควรพลาด

6.ถนนโบราณซานเสีย เป็นถนนเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมไว้ สถานที่นี้มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆของไต้หวันที่มีตึกโบราณที่ทำจากอิฐแดงแบบสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีบรรยากาศแบบคลาสสิค และยังมีของเล่นโบราณของที่ระลึก เช่น พู่กันจีน สบู่ทำมือ และอีกมากมายหลายอย่างให้คุณให้เลือกซื้อได้ตามใจ ขนมสุดฮิตของที่นี่นั่น ก็คือ ครัวซองต์รูปเขาควาย ที่มีขายเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

การเดินมาที่ถนนโบราณ ซานเสีย (Sanxia Old Street ) จากสถานีรถไฟหลัก Taipei Main Station นั่งรถไฟไต้ดิน MRT มาลงที่สถานี Yingge station แล้วเดินออกทางป้าย Ceramics Old Street จากนั้นต่อด้วยนั่งแท็กซี่มายังถนนโบราณซานเสีย Sanxia Old Street ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

7.หมู่บ้านฟอร์โมซาน อะบอริจิน (Aboriginal Village Park) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ประกอบด้วย 9 หมู่บ้าน 9 ชนเผ่า ได้แก่ Yamei, Ah Mei, Lukai, Peinan, Paoshia, Paiwan, Puwan, Yen และ Tayal

มีการแสดงเต้นรำและดนตรีของชนเผ่าพื้นเมือง โดยเปิดเป็นพื้นที่พิเศษ คือ “จัตุรัสวัฒนธรรม (Culture Square)” เพื่อเปิดรอบการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม การแสดงเต้นรำของชาวพื้นเมือง จัดแสงที่โรงละคร Naruwan Theatre หนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด และยังมีเกาะแห่งสวนสนุก ที่ต้องเดินทางโดยกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปเท่านั้น ที่นั่นมีเครื่องเล่นหลากหลายชนิดที่นำเข้าจากยุโรปและอเมริกา เช่น การผจญภัยของชาวมายัน (Mayan Adventure), ยูเอฟโอผจญภัย(UFO Adventures), รถไฟเหาะชิ้นใหม่ล่าสุดของหมู่บ้าน,กระเช้าพื้นเมือง (Aboriginal Ropeway), พลับพลาอลาดิน (Aladdin Pavilion)


นอกจากนี้ มีพิพิธภัณฑ์อะบอริจินฟอร์โมซานภายในพิพิธภัณฑ์เป็นพื้นที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มากมาย อาทิ เสื้อผ้า, สิ่งทอ, ทับหลัง, เครื่องเรือน, เครื่องดนตรี, เครื่องมือการเกษตรในชีวิตประจำวัน, เครื่องประดับ, อาวุธ และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย

8.ทะเลสาปสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดจากธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน ตั้งอยู่ในภูเขาของมณฑลหนานโถว (Nantou County) พื้นที่ตอนกลางของเกาะ มีชื่อเสียงด้านความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น“สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน”นับเป็นที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และคู่รักชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก มีบริการล่องเรือชมทะเลสาปสุริยันจันทราซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจกันมาก นอกจากนี้ มีการจัดเทศกาลแข่งขันว่ายน้ำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ในชื่อ “กิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสุริยันจันทรา” (Sun Moon Lake Swimming Carnival) นอกจากมีัวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังรายล้อมไปด้วยวัดวาอารามน้อยใหญ่ที่สวยงามอีกหลายแห่งด้วยกัน อาทิ วัดเหวินอู่ (Wen Wu Temple)

9.ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Forest Recreation Area) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวัน อยู่ในเขตเมือง Chiayi (เจียอี่) ทางตอนกลางของเกาะ ผู้คนนิยมเดินทางมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาศึกษาเส้นทางธรรมชาติ, นั่งรถไฟโบราณ, นั่งรถไฟไต่เขา, เยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คุณสามารถเดินทางมายังอาหลี่ซันจากไทเป

  • รถไฟความเร็วสูง (HSR) จากTaipei Main Station มายัง HSR Chiayi Station (Exit 2)จากนัั้น

ต่อรถบัสเพื่อไป Alishan ใช้เวลาเดินทางรวม 4.30 ช.ม. ค่าโดยสารรวมประมาณ 1,356 NT

  • รถไฟธรรมดา (TRA) จากTaipei Main Station มายัง TRA Chiayi Station จากนั้นต่อรถบัส

เพื่อไป Alishan ใช้เวลาเดินทางรวม 6.30 ช.ม. ค่าโดยสารรวมประมาณ 768 NT

  • รถบัสจาก HSR Chiayi station ไปAlishan มีวันละ 2 รอบ คือรอบ10.10 น. และ รอบ 11.40 น.

10.อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park) อุทยานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าแก่ที่อยู่ทางเหนือของไทเป รอบล้อมไปด้วยป่าไม้นานพรรณท่ามกลางอากาศหนาวเย็นสบายตลอดปี ที่นี่จุดที่น่าสนใจคือ มีแหล่งน้ำพุร้อนให้คุณสามารถคลายความหนาวกันได้ ในแต่ละช่วงฤดูของที่นี่จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่น ช่วงเดือนเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ช่วงที่ดอกไม้บาน อย่าง ดอกซากุระช่วงเดือนกุมภาพันธ์, ดอกกุหลาบพันปีสีขาว, ดอก Calla Lilly ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมซึ่งมักจะมีพายุฝนแต่ก็จะเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นสายรุ้งได้บ่อยครั้งในเดือนตุลาคมจะมีลานหญ้าสีเงิน ส่วนในหน้าหนาวก็มักจะเห็นหมอกหนาลอยปกคลุมตามเนินเขา เป็นต้น

 

 

 

ท่องเที่ยวไต้หวัน ชมดอกซากุระ ในปี 2020

หากเราพูดถึงดอกซากุระ ใครหลายคนคงนึกถึงกันแต่ประเทศญี่ปุ่นกันใช่ไหม แต่ในความจริงนั้นประเทศที่มีดอกซากุระที่คุณสามารถหาชมความงามได้เหมือนกันนั่นก็คือ ประเทศไต้หวัน ที่เริ่มออกดอกบานสะพรั่งที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ สร้างความน่าสนใจ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหันมาเที่ยวไต้หวันกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระกำลังเริ่มออกดอกเบ่งบานจะมีให้เห็นกัน ที่ในทุกๆ 1 ปีคุณสามารถหาชมดอกซากุระได้เพียงช่วงระยะเวลา 3 เดือน เท่านั้น หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่อยากสัมผัสความสนุกความน่าตื่นเต้น และแตกต่างไปจากการท่องเที่ยวรูปแบบเดิมๆจากที่คุณเคยไป

เราได้จัดรูปแบบการเดินทางรวมทั้งรายละเอียดการท่องเที่ยวสถานที่ชมดอกซากุระในไต้หวันที่น่าสนใจให้คุณ ดังนี้

 

(ภาพตัวอย่าง : สถานที่ชมดอกซากุระ ประเทศไต้หวัน ในช่วงปี 2020)


เดือน มกราคม ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เริ่มออกดอกให้ชมช่วงปลายเดือน)

 

  • New Taipei : Wulai Waterfalls

 

เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เรื่มออกดอกบาน) ได้แก่

Taichung : Wuling Farm

– Taipei : Yangmingshan National Park

Taipei : Formosan Aboriginal Culture Village

– Chiayi : Alishan

– Taipei : Chiang Kai-Shek Memorial Hall

เดือน มีนาคม ปี 2020

สถานที่ท่องเที่ยวจุดชมดอกซากุระ (เรื่มออกดอกบาน) ได้แก่

Taipei : Tianyuan Temple – Taipei

– Nantou : Sun Moon Lake Ropeway

 

 

  • ข้อแนะนำ (ในการเที่ยวชมดอกซากุระไต้หวัน)

 

สถานที่ชมดอกซากุระในไต้หวันอาจจะไม่ได้มีขึ้นเยอะเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ก็มีให้คุณชมความงามกันอยู่บางสถานที่ที่ดอกซากุระบานขึ้น และให้ความสวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งเรามี 2 สถานที่ดีๆแนะนำให้คุณได้ลองเปิดประสบณ์การณ์ใหม่กันได้แล้ววันนี้

Taichung : Wuling Farm (อู่หลิงฟาร์ม)


เมืองสวรรค์แห่งดอกซากุระ ที่ปกคลุมไปด้วยดอกซากุระสีชมพูผลิดอกบานสะพรั่งขึ้นเต็ม 2 ฝั่ง

ข้างทางยาวเรียงรายเป็นทางอุโมงค์ดอกซากุระ ซึ่งขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอให้คุณๆ มาสัมผัสกันได้แลัว

เวลา (เปิด – ปิด) : ไม่มี

ค่าเข้าชมสถานที่ : วันจันทร์ – ศุกร์ = 130 NT.

: วันเสาร์ – อาทิตย์ = 160 NT.

การเดินทาง : นั่งรถบัสที่สถานี Taipei Main Station ทางประตูหมายเลข Exit M2 เดินไปยัง Kuokuang Bus Taipei Terminal แล้วต่อรถบัส รถออกเวลา 05.30 – 07.00 น. รถออกทุก 10 นาทีใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เวลากลับถ้ามาคันไหนให้ขึ้นคันเดิม ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านเคาน์เตอร์ของ Kuokuang Bus หรือตู้จำหน่ายตั๋วของ Kuokuang Bus และเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่ 7-Eleven , Hi-Life และ Family Mart

Taipei : Formosan Aboriginal Culture Village (หมู่บ้านวัฒนธรรม อะบอริจิน ฟอร์โมซาน)


ชมสถานที่หมู่บ้านจำลองวัฒนธรรมเผ่าดั้งเดิมของไต้หวัน ซึ่งมีจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุด คุณสามารถชมและสัมผัสกับดอกซากุระได้ตามทางเดินที่มีต้นซากุระอยู่เรียงรายกันแบบใกล้ๆไปพร้อมๆ กับศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชนเผ่าไต้หวัน

เวลา (เปิด – ปิด) : 09.00-17.00 น.

ค่าเข้าชมสถานที่ : (ทุกวัน) = 780 NT.

การเดินทาง : โดยรถไฟ TRA ไปยังสถานี Taichung Railway Station ต่อรถบัส Renyu Bus มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ Sun Moon Lake ลงป้ายหมู่บ้านวัฒนธรรม Formosa Aboriginal Culture Village

ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวคิวชู ศาลเจ้าดาไซฟุ ยูฟูอิน มิยาซากิ

หลังจากที่เราหาข้อมูลเพื่อที่อยากจะวางแผนไปทัวร์ญี่ปุ่น ว่ามีสถานที่ใดที่น่าสนใจบ้าง เราก็นั่งดูยูทปไปเรื่อยๆ จนเจอช่องของ Patnapapa ที่เขาได้ไป ทัวร์คิวชู ที่ประเทศญี่ปุ่น หากใครยังไม่ได้รับชมรับชมได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=mOasrpLiYrg

ซึ่งวันนี้เราก็จะยกมา 3 สถานที่ที่ Patnapapa ได้ไปเที่ยวและน่าสนใจมาฝากให้คนที่กำลังอยากจะไปทัวร์ญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จะไปทัวร์ที่ไหนดี

1.ศาลเจ้าดาไซฟุ ตั้งอยู่ในเมืองดาไซฟุ ซึ่งนักเรียนจากทั่วประเทศญี่ปุ่น นิยมมาขอพรเรื่องเรียนกันที่นี่

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ และลงที่สถานีดาไซฟุ (Dazaifu Station(太宰府駅) ของรถไฟสายนิชิเท็ตสึ ดาไซฟุ (Nishitetsu Dazaifu Line)

เส้นทางสำหรับผู้ที่ขับรถเอง ทางแยกที่ใกล้ที่สุดบนทางด่วนคิวชู (Kyushu Expressway) คือแยกดาไซฟุ (Dazaifu IC (太宰府IC) จะมีบริการที่จอดรถ แต่ต้องเสียเงินนะจ๊ะ

เวลาทำการคือ

วันจันทร์:06:30-19:00

วันอังคาร:06:30-19:00

วันพุธ:06:30-19:00

วันพฤหัส:06:30-19:00

วันศูกร์:06:30-19:00

วันเสาร์:06:30-19:00

วันอาทิตย์:06:30-19:00

 

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

 

มีร้านขายเครื่องราง 500 เยน ถ้าคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 140 บาท เครื่องรางส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องเรียน แต่เครื่องรางอื่นๆก็มีจำหน่ายเช่นกัน เครื่องรางส่วนใหญ่จะมีอายุได้ 1 ปี หากครบ 1 ปี คุณต้องกลับมาที่นี่เพื่อซื้อใหม่

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

และซึ่งศาลเจ้านี้เทพเจ้าเกิดปีวัว จึงมีรูปปั้นวัวเป็นเทพเจ้าพิทักษ์ ใครที่ชอบปวดท้องบ่อยก็แก้ด้วยการไปลูบท้องรูปปั้น ถ้าอยากฉลาดให้ลูบหัว หรือลูบที่เขาของรูปปั้น

 

2.ยูฟูอิน สนูปปี้ สำหรับใครที่ชอบตัวการ์ตูน สนูปปี้ เราขอแนะนำร้านอาหาร ยูฟูอิน ญี่ปุ่น เป็นร้านที่ตกแต่งทั้งด้านนอก และภายในร้านด้วย สนูปปี้ แม้แต่อาหาร และขนมของที่นี่ ก็ตกแต่งเป็นตัวการ์ตูนสนูปปี้

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Oita ถึงสถานี Yufuin Station ใช้เวลาเพียง 45 นาที ส่วนรอบของรถด่วนมีแค่ 4 รอบต่อวัน

ที่อยู่: 1524-27 川上 湯布院町 Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น

เปิด 10.00-18.00 ไม่มีวันหยุด

โทรศัพท์: +81 977-85-2760

 

3.พายเรือที่ มิยาซากิ เป็นสถานที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพายเรือ บริเวณของช่องเขา Takachiho ผ่านน้ำตก ราคาของการพายเรือนั้นอยู่ที่ 2,000 เยน/ลำ โดย 1 ลำนั่งได้ 3 คน 30 นาที และไม่ต้องกลัวหิว เพราะด้านในมีร้านอาหาร ให้คุณได้รับประทาน รวมถึงจุดนั่งพักผ่อน มีห้องน้ำบริการ

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

รูปภาพจาก ช่อง Patnapapa

คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Nobeoka และต่อรถบัสมา

ที่อยู่ Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki Prefecture 882-1103

เวลาทำการ 8.30-16.30 น. ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย

 

แนะนำ 9 ร้านอาหารเด็ดเมื่อไปทัวร์โตเกียว

สำหรับเป็นสายกินแล้วกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้จะแสวงหาของกินที่ไหนดี เรามี 9 ร้านอาหารเด็ดเมื่อไปทัวร์โตเกียว ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวานต้องลองไปชิมเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่น อาหารดี ราคาไม่แรง รับลองว่าอร่อยแน่นอน

1.Imahan อารหารสไตล์ ชาบู ราคาของสุกกี้ยากี้ (Top quality) อยู่ที่ 10,800 เยน จุดเด่นของที่นี่ คือจะมีพนักงานบริการ ยืนทำอาหารบริการเราตลอดของการท่าน

Chome-9-12 Nihonbashiningyocho, Chuo City, Tokyo 103-0013, Japan

2.Jumbo Yakiniku Shirokane ต้องโทรมาจองก่อนล่วงหน้า

  • วากิวซูชิ แนะนำให้สั่ง
  • เนื้อที่มีมันแทรก แนะนำให้ทานคู่กับมะนาว หรือ วาซาบิ (Medium Rare)
  • อีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้ คือ เนื้อจุ่มไข่

Japan, 〒108-0072 Tokyo, Minato City, Shirokane, 3 Chome−1−1 第一麻布ビル 1F

3.Gyukatsu Motomura เป็นร้าน ธงคัตสึเนื้อ เป็นร้านที่สมาชิกวง Blackpink ชอบกินมากๆ ทั้งเจนนี่ ลิซ่า ทั้งร้านจะมีแค่เมนูเดียวเท่านั้น

Japan, 〒150-0002 Tokyo, Shibuya City, Shibuya, 3 Chome−18−10 大野ビル2号館地下1階

4.Nakamura Tokichi at GINZA SIX เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียนว มีทั้งไอศกรีม วุ้นชาเขียว รสชาติของชาเขียวที่นี้จะออกไปทางหวาน แนะนำสำหรับคนที่ชอบทานชาเขียวแบบหวานๆต้องแนะนำร้านนี้เลย

4F GINZA SIX – 6 Chome-10-1 6 Chome-10, 10 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan

5.Ichiran Ramen

Japan, 〒160-0022 Tokyo, Shinjuku City, Shinjuku, 3 Chome−34−11 ピースビルB1F・6F

6.Nana’s Green Tea อยู่ในห้างชั้น 8 ร้านนี้ชาเขียวจะเข้มข้นไม่ค่อยหวาน

Japan, 〒160-0022 Tokyo, Shinjuku City, Shinjuku, 3 Chome−38−1 ルミネエスト 8F

7.Wagyu ตลาดปลา ร้านเนื้อย่างจะอยู่ใกล้ๆร้านไข่หวาน

8.ร้านซูชิในตลาดปลา Tsukiji ร้านนี้จะอยู่ตรงซอยที่มีขายไข่หวานเลย เดินเข้าไปนิดเดียวถึงเลยค่ะ

9.Cookie time cookie bar ร้านคาเฟ่คุ้กกี้ที่ลิซ่า Blackpink ไปนั่นเอง มีเมนูน่ากินเยอะมาก อยู่ในย่านฮาราจูกุ ใกล้สถานีรถไฟ

1 Chome-21-15 Jingumae, Shibuya City, Tokyo 150-0001, Japan

ขอบคุณที่มาจากช่อง Pine Kmn