โตเกียวสกายทรี: หอคอยแห่งอนาคตและจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียงที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโตเกียวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากมาเที่ยวญี่ปุ่น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโตเกียวสกายทรี ประวัติความเป็นมา ไฮไลท์สำคัญ และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับหอคอยแห่งนี้

ประวัติความเป็นมาของโตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรีเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 2008 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2012 ด้วยความสูงทั้งสิ้น 634 เมตร ทำให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นหอคอยที่สูงที่สุดอันดับสองของโลกในขณะนั้น โตเกียวสกายทรีถูกสร้างขึ้นเพื่อทดแทนหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ที่มีความสูงเพียง 333 เมตร ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการส่งสัญญาณดิจิทัลในยุคปัจจุบัน

ความสูง 634 เมตรของโตเกียวสกายทรีนั้นมีความหมายพิเศษในภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากตัวเลข “6-3-4” สามารถอ่านเป็น “มุ-ซา-ชิ” (Mu-sa-shi) ซึ่งเป็นชื่อเก่าของบริเวณที่โตเกียวตั้งอยู่ในปัจจุบัน

การออกแบบและสถาปัตยกรรมของโตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรีมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดยผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่น:

  • โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว: หอคอยนี้ได้รับการออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ด้วยระบบแกนกลาง (core column) ที่แยกอิสระจากโครงสร้างภายนอก ทำให้สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี
  • รูปทรงสามเหลี่ยมเว้า: รูปทรงของหอคอยได้แรงบันดาลใจจากเสาในวัดญี่ปุ่นโบราณและดาบซามูไร
  • สีของหอคอย: สีพิเศษที่เรียกว่า “สกายทรีไวท์” (Skytree White) ซึ่งเป็นสีขาวอมฟ้าอ่อนๆ ดูทันสมัยและกลมกลืนกับท้องฟ้า

ไฮไลท์สำคัญในโตเกียวสกายทรี

1. จุดชมวิวทีมป์โป (Tembo Deck)

ตั้งอยู่ที่ความสูง 350 เมตร เป็นจุดชมวิวหลักของโตเกียวสกายทรี ประกอบด้วยพื้นที่สามชั้น ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวโตเกียว 360 องศา ในวันที่อากาศดี สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

ไฮไลท์ของทีมป์โป เดค:

  • พื้นกระจกที่สามารถมองเห็นพื้นด้านล่าง
  • ร้านอาหารที่สามารถรับประทานพร้อมชมวิว
  • นิทรรศการเกี่ยวกับประวัติและการก่อสร้างโตเกียวสกายทรี

2. จุดชมวิวทีมป์โป แกลเลอรี (Tembo Galleria)

อยู่สูงกว่าทีมป์โป เดค ที่ระดับความสูง 450 เมตร เป็นทางเดินโค้งขึ้นไปสู่จุดชมวิวระดับที่สูงที่สุด ให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า

จุดเด่นของทีมป์โป แกลเลอรี:

  • ทางเดินลาดเอียงที่เรียกว่า “ทางเดินสู่สรวงสวรรค์” (Sorakara Point)
  • จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่สูงที่สุดของหอคอย
  • จอดิจิทัลแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญที่มองเห็นจากจุดชมวิว

3. โซลาทรี พลาซ่า (Solamachi Plaza)

ห้างสรรพสินค้าและคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณฐานของโตเกียวสกายทรี ประกอบด้วย:

  • ร้านค้ากว่า 300 ร้าน ตั้งแต่แบรนด์สินค้าญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก
  • ร้านอาหารญี่ปุ่นและนานาชาติหลากหลายรูปแบบ
  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ (Sumida Aquarium) ที่จัดแสดงระบบนิเวศทางน้ำของญี่ปุ่น
  • พลาเนตเทเรียม เทนคิว (Planetarium Tenku) ที่นำเสนอการแสดงดาวที่ทันสมัย

4. การแสดงไฟยามค่ำคืน

โตเกียวสกายทรีมีการจัดแสดงไฟยามค่ำคืนที่สวยงาม 2 ธีมหลักสลับกันไป:

  • อิจิมัทสึ (Iki) – สีฟ้าอมเขียว ซึ่งเป็นสีดั้งเดิมของเอโดะ (ชื่อเก่าของโตเกียว)
  • มิยาบิ (Miyabi) – สีม่วงที่แสดงถึงความงดงามอย่างสง่าของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงไฟพิเศษในช่วงเทศกาลและวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย

เคล็ดลับการเที่ยวโตเกียวสกายทรี

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้าชม

  • ช่วงเช้าตรู่ (เปิด 8:00 น.): เป็นช่วงที่มีคนน้อยที่สุดและเหมาะสำหรับการชมวิวในตอนเช้า
  • ช่วงพระอาทิตย์ตก (ประมาณ 16:00-18:00 น.): ได้ชมวิวทั้งตอนกลางวันและกลางคืนในการขึ้นเพียงครั้งเดียว
  • วันธรรมดา: มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

การซื้อตั๋วและการเข้าชม

  • จองตั๋วล่วงหน้า: แนะนำให้จองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการเพื่อหลีกเลี่ยงการรอคิวยาว
  • ตั๋วเฟสท์พาส (Fast Pass): มีบริการตั๋วพิเศษที่ช่วยให้ข้ามแถวรอได้ แต่จะมีราคาที่สูงกว่า
  • ตั๋วคอมโบ: มีตั๋วราคาพิเศษที่รวมการเข้าชมทั้งทีมป์โป เดค และทีมป์โป แกลเลอรี
  • บัตรพิเศษ: เช่น Tokyo Skytree Ticket & Tokyo Subway Ticket ที่รวมตั๋วรถไฟใต้ดินโตเกียว

การเดินทางไปโตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรีตั้งอยู่ในย่านซุมิดะ (Sumida) ทางตะวันออกของโตเกียว สามารถเดินทางได้หลายวิธี:

  • รถไฟ: สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Tokyo Skytree Station (สาย Tobu Skytree Line) และ Oshiage Station (สาย Tokyo Metro)
  • เรือ: มีบริการเรือโดยสารจากอาซากุสะและโอไดบะมายังท่าเรือใกล้โตเกียวสกายทรี
  • รถบัส: มีรถบัสหลายสายให้บริการผ่านบริเวณนี้

สถานที่น่าสนใจใกล้เคียงโตเกียวสกายทรี

1. อาซากุสะ (Asakusa)

ห่างจากโตเกียวสกายทรีเพียง 20 นาทีโดยการเดิน หรือไม่กี่นาทีโดยรถไฟ อาซากุสะเป็นย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ของโตเกียวที่มี:

  • วัดเซนโซจิ (Senso-ji) วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว
  • ถนนนากามิเสะ (Nakamise) ถนนช้อปปิ้งแบบดั้งเดิมอายุกว่า 200 ปี

2. สวนซุมิดะ (Sumida Park)

สวนริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงในการชมดอกซากุระและจุดชมวิวโตเกียวสกายทรีที่สวยงาม

3. พิพิธภัณฑ์เบียร์อาซาฮี (Asahi Beer Museum)

อาคารที่มีรูปทรงโดดเด่นเหมือนแก้วเบียร์และหยดเบียร์ เป็นที่ตั้งของบริษัทเบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่น

เหตุผลที่ควรไปเยือนโตเกียวสกายทรี

  1. วิวพาโนรามาที่น่าทึ่ง: ชมวิวเมืองโตเกียวที่กว้างไกลที่สุดเท่าที่จะหาได้
  2. ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยี: สัมผัสการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีล้ำสมัยของญี่ปุ่น
  3. ช้อปปิ้งและอาหาร: เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและอาหารญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบ
  4. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์: เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโตเกียวและการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารของญี่ปุ่น

สรุป

โตเกียวสกายทรีไม่เพียงแต่เป็นหอคอยส่งสัญญาณที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น การได้ขึ้นไปชมวิวบนโตเกียวสกายทรีจะทำให้คุณเห็นกรุงโตเกียวในมุมมองที่แตกต่างและเข้าใจถึงขนาดอันกว้างใหญ่ของมหานครแห่งนี้ โตเกียวสกายทรีจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกรุงโตเกียวอย่างแท้จริง