ค้นพบเสน่ห์นีงาตะ จังหวัดแห่งข้าวแสนอร่อย อาหารทะเลสดใหม่ และธรรมชาติที่งดงาม

นีงาตะ (Niigata) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ในญี่ปุ่น ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แท้จริงของดินแดนปลาดิบ จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุนี้ห่างจากโตเกียวเพียง 2-3 ชั่วโมงด้วยรถไฟชินคันเซ็น แต่กลับเสมือนเป็นโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมดั้งเดิม และอาหารรสเลิศที่หาชิมได้ยาก

ทำไมนีงาตะจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในทัวร์ญี่ปุ่น

นีงาตะขึ้นชื่อในฐานะ “เมืองแห่งข้าวคุณภาพสูง” ที่ผลิตข้าวรสชาติอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะสม น้ำใสสะอาดจากการละลายของหิมะ และดินที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ข้าวนีงาตะกลายเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสาเกระดับพรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

การท่องเที่ยวนีงาตะนั้นเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ อาหาร หรือการผจญภัย ทำให้ทัวร์ญี่ปุ่นที่รวมนีงาตะเข้าไว้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น

10 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในนีงาตะ

1. นาขั้นบันไดโฮชิโทเกะ (Hoshitoge Rice Terraces)

จุดชมวิวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นาขั้นบันไดกว่า 200 ผืนที่เรียงรายตามไหล่เขาสร้างภาพอันงดงาม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นที่ทำให้ผืนนาเปล่งประกายราวกับมิร์เรอร์ในธรรมชาติ

2. เกาะซาโดะ (Sado Island)

เกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลญี่ปุ่นซึ่งสามารถเดินทางไปได้โดยเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือนีงาตะ เกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่ของเหมืองทองซาโดะคินซังที่เคยเป็นแหล่งผลิตทองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นบ้านของนกโทะคิ (นกประจำชาติของญี่ปุ่น)

3. สวนยะฮิโกะ (Yahiko Park)

สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงด้วยความงดงามของน้ำตก ลำธาร และอุโมงค์ เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

4. ศาลเจ้ายาฮิโกะ (Yahiko Shrine)

ศาลเจ้าประจำจังหวัดที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านยาฮิโกะ เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งการเกษตรและอุตสาหกรรม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นและเข้าร่วมเทศกาลประจำปีได้

5. ลานสกีกาล่า ยูซาวะ (GALA Yuzawa)

ลานสกีที่ใกล้โตเกียวที่สุด เดินทางได้เพียง 90 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นหิมะและสกีในช่วงฤดูหนาว มีทั้งลานสกีสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้เชี่ยวชาญ

6. ตลาดท่าเรือมินาโตะ มาร์เช่ (Minato Marche Pier Bandai)

ตลาดริมทะเลที่รวบรวมอาหารทะเลสดใหม่ ผักผลไม้ท้องถิ่น และสาเกชื่อดัง เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการลิ้มรสและซื้อของฝาก

7. ป่าบีชโทคะมาจิ (Tokamachi Beech Forest)

ป่าบีชที่เต็มไปด้วยต้นไม้อายุเกือบ 100 ปี สวยงามทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง และฤดูหนาวที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว

8. สวนสาธารณะฮาคุซัง (Hakusan Park)

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองนีงาตะที่มีสระน้ำ สนามเด็กเล่น และเส้นทางเดินหลายสาย เหมาะสำหรับครอบครัวและการพักผ่อน

9. หุบเขาคิโยสึ (Kiyotsu Gorge)

หุบเขาที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอุโมงค์แห่งแสงที่เป็นผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่ผสมผสานกับธรรมชาติอย่างลงตัว

10. สึกิโอกะออนเซ็น (Tsukioka Onsen)

น้ำพุร้อนสีมรกตที่งดงามจนหลายคนเข้าใจผิดว่ามีการเติมสีลงไป เป็นออนเซ็นที่มีสรรพคุณดีต่อผิวพรรณ

อาหารขึ้นชื่อที่ต้องลอง

อาหารทะเลสดใหม่

นีงาตะติดทะเลญี่ปุ่น ทำให้มีอาหารทะเลสดใหม่มากมาย โดยเฉพาะปลากะพงหรือ “ไท” ที่จับได้ในเมืองคาชิวาซากิ เมนู**”ไทชาซึเคะ”** (ปลากะพงราดน้ำชาร้อน) เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ได้รับรางวัลจากการประกวดมากมาย

ข้าวนีงาตะ

ข้าวคุณภาพพรีเมี่ยมที่หวานหอม เหนียวนุ่ม เป็นวัตถุดิบหลักในการทำซูชิและข้าวปั้นรสเลิศ

สาเกนีงาตะ

ด้วยข้าวคุณภาพดีและน้ำใสสะอาด ทำให้นีงาตะเป็นจังหวัดที่มีโรงกลั่นสาเกมากที่สุดในญี่ปุ่น สาเกที่นี่มีรสชาติเข้มข้น หอมหวาน

ขนมและของฝากพิเศษ

  • เค้กช็อกโกแลตโทจิ ที่ผสมผสานโกโก้กับสาเกญี่ปุ่น
  • ซาซาดังโงะปัง ขนมปังเหนียวนุ่มรสหญ้าโยโมกิ
  • เซมเบ้ ขนมกรุบกรอบทำจากข้าว
  • น้ำมันดอกสึบากิ จากเกาะซาโดะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวนีงาตะ

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): ชมซากุระที่สวนยะฮิโกะและสวนสาธารณะต่างๆ

ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): เที่ยวเกาะซาโดะ ชมนาขั้นบันไดเขียวขจี และเข้าร่วมเทศกาลต่างๆ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ป่าบีชและหุบเขาต่างๆ

ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): เล่นสกี แช่ออนเซ็น และชมทิวทัศน์หิมะขาว

การเดินทางไปนีงาตะ

จากโตเกียว

  • รถไฟชินคันเซ็น: ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง จากสถานี Tokyo ไปสถานี Niigata
  • รถบัส: ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง แต่ราคาถูกกว่า
  • เครื่องบิน: ใช้เวลา 1 ชั่วโมง บินจากสนามบินฮาเนดะไปสนามบินนีงาตะ

ภายในจังหวัด

แนะนำให้ซื้อ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ที่ใช้ได้ 5 วันต่อเนื่อง สามารถนั่งรถไฟและรถบัสของ JR East ได้ไม่จำกัด

เคล็ดลับสำหรับทัวร์ญี่ปุ่นที่รวมนีงาตะ

  1. จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฤดูสกีและฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสี
  2. เตรียมเสื้อผ้าอบอุ่น สำหรับฤดูหนาวเนื่องจากนีงาตะมีหิมะตกหนาแน่น
  3. ลองสาเกท้องถิน ที่โรงกลั่นต่างๆ หรือร้านอาหารในท้องถิ่น
  4. ซื้อข้าวนีงาตะ เป็นของฝากเพราะหาซื้อยากในที่อื่น
  5. เรียนรู้ประวัติท้องถิ่น เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีดีขึ้น

สรุป

นีงาตะเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์แท้จริงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการชิมข้าวและสาเกคุณภาพสูง การชมธรรมชาติที่งดงาม การเล่นสกีในฤดูหนาว หรือการแช่ออนเซ็นผ่อนคลาย จังหวัดแห่งนี้มีครบทุกสิ่งที่จะทำให้ทัวร์ญี่ปุ่นของคุณน่าจดจำและมีค่ายิ่งขึ้น

การวางแผนทัวร์ญี่ปุ่นที่รวมนีงาตะเข้าไว้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสด้านอื่นของญี่ปุ่นที่แตกต่างจากเมืองใหญ่ ทั้งในด้านวัฒนธรรม อาหาร และการใช้ชีวิตแบบท้องถิ่น ทำให้ได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่าประทับใจอย่างแท้จริง