เที่ยวยุโรปอย่างไร ให้ปลอดภัยจากกลลวง

ในทุกๆปี มีนักท่องเที่ยวในเอเชียเดินทางไปเที่ยวยุโรปกันค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนทำงาน,คู่รัก,หนุ่มสาวที่เดินทางไปเป็นกลุ่มกับกรุ๊ปทัวร์ซึ่งมันก็ใช่ที่ใครหลายๆคนไปทัวร์ยุโรป พอได้ไปเที่ยวแล้วกลับมาบอกว่าดี ต่างบอกกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นสวยงาม บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน และสภาพแวดล้อมอากาศดี แต่มันก็มีนักท่องเที่ยวที่ไปแล้วกลับต้องเจอปัญหาที่เกิดจากภัยสังคมในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากพวกมิจฉาชีพที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนคุณ โดยที่คุณไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดภัยร้ายขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น ภัยที่ต้องระวังในการเดินทางไปทัวร์ยุโรป มีรูปแบบไหนบ้างและควรหลีกเลี่ยงอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยจากภัยเหล่านี้ คือ

1.การถูกโน้มน้าวชักจูง ช่วยเหลือ กลลวงนี้เป็นภัยสังคมที่เกิดขึ้นในสังคมแทบทุกๆวัน

คุณอาจจะเจอมันมาในรูปแบบ ขอรับบริจาคช่วยงานการกุศลทำบุญสร้างนั่นสร้างนี่หรือก็อาจจะมีช่องโหว่ที่ทำให้พวกมิจฉาชีพแอบเดินมาล้วงกระเป๋าเสื้อ กางเกงหรือรูดซิปและหยิบของมีค่าในกระเป๋าของคุณในช่วงเวลาที่คุณเดินทางอยู่ตามท้องถนนในสถานต่างๆ ก็เป็นได้

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงเดินเข้าไปใกล้กลุ่มคนที่อยู่ตามถนนมองหาคนเดินไปมาถือปากกามีเอกสารให้กรอกข้อมูลอะไรสักอย่างกับคนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยว

2.อย่าแลกเปลี่ยนเงินกับคนแปลกหน้า เมื่อนักท่องเที่ยวประสบกับปัญหาเงินสกุลต่างประเทศที่ได้แลกไว้เกิดไม่พอใช้ ซึ่งคุณกำลังหาที่แลกเปลี่ยนสกุลเงิน แต่ไม่รู้ไปแลกที่ไหนตอนช่วงที่คุณท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศซึ่งมีพวกมิจฉาชีพที่ชอบยืนดักรอนักท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวต่างๆ เดินเข้าหาเสนอตัวเข้าช่วยเหลือแบบแนบเนียน ถ้าคุณไม่รู้ดันหลงเชื่อคนพวกนี้คุณอาจจะโดนร้านรับแลกเงินฉ้อโกง ปรับเปลี่ยนเรทแลกเงิน สลับบัตรธนบัตร หรือนำบัตรสกุลเงินต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยนกับเงินของคุณก็เป็นได้

วิธีป้องกัน คุณควรไปแลกเปลี่ยนเงินกับร้านที่ที่รับแลกเปลี่ยนสกุลต่างชาติโดยเฉพาะ อย่านำเงินไปแลกเปลี่ยนกับคนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด เพราะคุณอาจสูญเงินไปง่ายๆแบบไม่รู้ตัว

3.แกล้งทำของหล่นหรือหกใส่คุณ วิธีนี้เป็นวิธีที่มิจฉาชีพหลอกทำกันเยอะมากๆ ซึ่งคนพวก นี้มีลักษณะท่าทีเหมือนสร้างสภานการณ์หมือนไม่ได้ตั้งใจทำอะไรสักอย่างใส่คุณแต่ทำเหมือนเป็นอุบัติเหตุแล้วกระตือรือล้นอยากเข้าช่วยเหลือคุณมากซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าช่วงนั้นได้หยิบหรือฉกของมีค่าหรือกระเป๋าสตางค์คุณไปแล้ว

วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงหรือปฎิเสธคนพวกนี้ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือไปเลยดีที่สุด

 

4.หลักเลี่ยงการเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟฟรี คุณไม่ควรต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรี มั่วๆ

เมื่อคุณไปตามสถานที่ต่างๆ ถ้าคุณเกิดเชื่อมต่อฟรี และเผลอเข้าใช้มันอาจมีความเสี่ยงคุณอาจจะโดนพวกแฮ๊กเกอร์ปล่อยสัญญาณ หรือล้วงลับข้อมูลส่วนตัวของคุณได้

วิธีป้องกัน หากคุณจำเป็นต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจริงๆ ตุณควรสอบถามร้าน หรือสถานที่ที่คุณไปว่ามีบริการให้ใช้เปิดสัญญาณไวไฟฟรีหรือไม่ แล้วขอรหัสเข้าไวคงจะปลอดภัยกว่า

 

5.เสนอตัวเข้าช่วยเหลือกดเงินให้ ในกรณีนี้มิจฉาชีพ ทำเหมือนคนทั่วไป ที่กดเงินตาม

 

ตู้เอทีเอ็ม (ATM) เมื่อเจอเหยื่อที่สามารถเข้าไปหลอกได้ ก็จะทำเป็นเข้าไปช่วยเหลือ ถ้าเหยื่อหลงเชื่อก็อาจโดนฉกเงินไปเรียบร้อยแล้ว

วิธีป้องกัน หากคุณต้องการกดเงินสดที่ตู้กดเงินคุุณควรไปในที่ที่คนพลุกพล่าน ไม่ไปในที่เปลี่ยวคนเดียว หากมีคนเข้ามาพูดคุยสอบถาม หรือขอช่วยเหลือตอนที่คุณกำลังที่ธุรกรรมที่ตู้อยู่ คุณควรปฎิเสธทันที

6.ปลอมตัวแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยวจะพบได้ตามเมืองสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆ

โดยการทำงานของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนึ่งแสดงตัวเป็นพวกสร้างปัญหา อีกพวกหนึ่งจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พอทำทีเกิดขึ้น และเมื่อคุณอยู่ในสถานการร์นั้น ก็จะมีพวกที่แสดงเป็นเจ้าหน้าที่เนี่ยแหละเข้ามาขอดูขอตรวจเอกสารของคุณ ซึ่งมันเนียนมากซึ่งคุณจะไม่รู้ตัวเลยว่ามันเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไป

วิธีป้องกัน คุณไม่ควรพกพาสปอร์ตเล่มจริงติดตัวออกไปเที่ยว เพราะมีเปอร์เซ็นต์อาจวางลืมหรือโดนมิจฉาชีพฉกไป คุณอาจแค่ถ่ายเอกสารพาสปอร์ตไว้พกไปก็พอ

 

7.แก๊งขอทาน เป็นเรื่องที่เราๆเจอกันประจำทั่วไป ลักษณะคือเดินขอเงินนักท่องเทื่ยวอยู่

 

ตามท้องถนน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบพิการแขนขา ตาบอด หรือทำตัวน่าสงสาร ทั้งๆที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ด้วยความที่เห็นแล้วเรารู้สึกสงสารเราก็ช่วยเหลือไป หรือไม่ก็ทำทีขอทานพอคุณเผลอก็อาจฉกทรัพย์สินคุณไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

วิธีป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการให้เงินแก่ขอทานตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือถ้าหากคุณไม่แน่ใจแต่อยากช่วยเหลือ ก็อาจจะซื้อเป็นอาหารหรือขนมให้แทนคงดีกว่า